ในอดีตตอนที่จ้าวเทียนยังอยู่ในขอบเขตเทพโลกาขั้น1 เขาได้ออกผจญภัยเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่แดนสวรรค์ และได้ค้นพบแผ่นหยกที่มีแผนที่ถ้ำสมบัติลับของเทพโบราณในสถานที่เร้นลับแห่งหนึ่ง
หลังจากผ่านการทดสอบหลายด่าน จนกระทั่งถึงด่านสุดท้ายที่เขาจะต้องสู้กับผู้เข้าทดสอบอีกคน นั่นก็คือโม่ปิงหยู
และเพราะการทดสอบในครั้งนั้นทำให้พวกเขากลายเป็นสหายและออกไปตามหาคลังสมบัติลับเทพโบราณด้วยกัน
ยิ่งเมื่อได้รู้ว่าเธอก็มาจากโลกมนุษย์เช่นกัน ทำให้พวกเขาสนิทสนมกันมากขึ้น แต่หลังจากที่ได้ผจญภัยด้วยกันเกือบร้อยปี เธอก็ได้หายตัวไป…
เขาตามหาเธออยู่นานหลายปี จนสุดท้ายได้รู้ความจริงว่า อาจารย์ของเธอได้ใช้เคล็ดวิชาลับดูดซับดวงวิญญาณของเธอเพื่อทะลวงขั้นเข้าสู่ขอบเขตจักรพรรดิเทพ
ภายหลังอาจารย์ของเธอก็ขึ้นเป็นผู้ปกครองแดนสวรรค์ ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะถูกเขาโค่นล้มและขึ้นเป็นผู้ปกครองแทน
เหตุผลที่เขาผลักดันตัวเองจนกลายเป็นจักรพรรดิเทพได้ในเวลาไม่นานนั้น ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะต้องการแก้แค้นให้เธอด้วย
ตั้งแต่ที่ได้ยินโม่ซินหยานเล่าเรื่องราวของลูกสาวให้ฟัง ตัวเขาก็พอจะเดาออกแล้วว่าต้องเป็นโม่ปิงหยูคนเดียวกับที่เขาเจอในแดนสวรรค์แน่นอน
เพราะนอกจากเธอจะใช้ชื่อเดิมแล้ว จากที่เห็นในตอนนี้ใบหน้ายังคล้ายกันอีก หลังจากคิดซักพัก เขาก็ได้เดินไปจับข้อมือของโม่ปิงหยู แล้วถ่ายทอดลมปราณเข้าไปตรวจสอบดู
“ โชคดีที่อาการของเธอยังไม่แย่จนเกินไป…ผมยังสามารถรักษาเธอได้ ” จ้าวเทียนหันไปบอกโม่ซินหยานที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งเธอก็มีสีหน้ายินดีขึ้นมาทันที
“ แต่ก่อนอื่น…ผมมีบางอยากต้องบอกพี่ก่อนเกี่ยวกับอาการของเธอ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
“ ตกลงค่ะ…พี่ก็อยากรู้สาเหตุที่เธอเป็นแบบนี้เหมือนกัน” โม่ซินหยานตอบ นี่เป็นเรื่องที่เธอสงสัยมานานแล้ว ตอนไปขอความช่วยเหลือจากองค์กร อีกฝ่ายก็รู้เพียงวิธีรักษาเท่านั้น ซึ่งก็คือเม็ดยาแห่งชีวิต
“ ผมคิดว่าพี่อาจจะไม่เชื่อ…แต่ความจริงแล้วดวงวิญญาณของเธอไม่ใช่ของมนุษย์ แต่เป็นวิญญาณของเม็ดยาโอสถจักรพรรดิ ” จ้าวเทียนพูดอย่างช้าๆ นี่คือสิ่งที่เขาได้รู้หลังจากค้นหาข้อมูลลับที่แดนสวรรค์
“ เป็นไปไม่ได้…เธอเป็นมนุษย์พี่เลี้ยงเธอมาตั้ง5ปี พี่รู้ดี ” โม่ซินหยานเถียงขึ้นด้วยความโกรธ
“ ผมรู้ว่ามันไม่น่าเชื่อ แต่มันคือความจริง จากเรื่องที่พี่เล่าให้ผมฟัง เหตุผลที่เธอพยายามจะฆ่าตัวตาย นั่นก็อาจจะเป็นเพราะในตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำให้ควบคุมพลังตัวเองไม่ได้ จนเผลอทำให้ครอบครัวตัวเองตาย ”
“ เม็ดยาโอสถขั้นจักรพรรดินั้นจะมีจิตวิญญาณเป็นของตัวเอง ทั้งยังสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ มีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนพวกเราทุกอย่าง และหากสิ้นอายุขัยไปโดยที่ไม่ได้ถูกกิน ”
“ ดวงวิญญาณนั้นก็จะสามารถกลับมาเกิดใหม่เป็นสิ่งมีชีวิตอื่นได้ โดยที่ดวงวิญญาณยังเป็นของเม็ดยาโอสถเหมือนเดิม และทุกๆช่วงเวลาหนึ่งจะต้องการพลังชีวิตจำนวนมากเพื่อรักษาดวงวิญญาณของตัวเองเอาไว้ ”
โม่ซินหยานฟังมาถึงตรงนี้เธอก็พอคาดเดาสิ่งที่จ้าวเทียนต้องการจะสื่อแล้วสีหน้าเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“ งั้นแสดงว่าเหตุผลที่เธอพยายามฆ่าตัวตายก็เพราะ…”
“ เพราะเธอนั้นอาจจะควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ จนเผลอไปดูดกลืนพลังชีวิตของพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของเธอเอง ” จ้าวเทียนตอบออกมา จากนั้นเขาก็อธิบายต่อ
“ส่วนเหตุผลของอาการป่วยก็เหมือนที่ผมบอกไป เพียงแต่ครั้งนี้เธอควบคุมพลังของตัวเองได้แล้ว แต่ก็ไม่ต้องการทำร้ายพี่หรือคนอื่นๆ เธอจึงให้ดวงวิญญาณดูดกลืนพลังชีวิตตัวเอง ”
“ ด้วยวิธีนี้เธอก็จะมีโอกาสอยู่กับพี่ได้นานขึ้น จนกว่าร่างกายเธอจะตายไปก่อน หรือดวงวิญญาณเธอจะดับสิ้นไป แล้วเข้าสู่วงจรเกิดใหม่อีกครั้ง”
“ ฉันพูดถูกไหม…โม่ปิงหยู ”
!!
เมื่อจ้าวเทียนพูดจบ โม่ซินหยานก็หันไปมองลูกสาวเธอทันที
ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ที่โม่ปิงหยูลืมตาตื่นขึ้นมา มองดูแม่ของเธอด้วยแววตาเศร้าเสียใจ น้ำตาเม็ดเล็กๆไหลออกมาจากหางตา ดูน่าเวทนามาก
“ หนู…หนูขอโทษค่ะแม่ ” โม่ปิงหยูเอ่ยขอโทษทั้งน้ำตา
“ ทำไมหนูถึงทำแบบนี้…ทำไมไม่บอกแม่ ” โม่ซินหยานกอดลูกสาวเธอไว้แน่น แล้วร้องไห้ออกมา เธอนั้นรู้ดีเหตุผลที่ลูกสาวไม่ยอมบอกเธอก็เพราะไม่อยากให้เธอทำเรื่องไม่ดีลงไป
หากเธอรู้สาเหตุนี้ตั้งแต่แรก เธอคงไปจับตัวคนอื่นๆมาให้ลูกสาวดูดพลังชีวิต หรือไม่ก็ยอมเสียพลังชีวิตของตัวเองเพื่อให้ลูกสาวได้มีชีวิตต่อไป
ตั้งแต่ที่เธอตัดสินใจยอมรับเด็กคนนี้เป็นลูกแล้ว เธอก็พร้อมที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกสาวของเธอ
จ้าวเทียนนั่งมองภาพตรงหน้าด้วยความสะเทือนใจ ในอดีตเด็กสาวคนนี้คงจะยอมตายไปแบบนี้เอง เธอคงไม่ต้องการทำร้ายใคร
หลังจากที่เธอตายไปวิญญาณก็คงถูกดึงไปที่แดนสวรรค์ ถูกอาจารย์ของเธอรับตัวเป็นศิษย์ เลี้ยงดูฟูมฟักอย่างดี จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพลังของเธอแข็งแกร่งมากพอ ก็ถูกใช้เคล็ดวิชาลับหลอมให้กลับคืนเป็นเม็ดยาจักรพรรดิดังเดิม
ถูกอาจารย์ของตัวเองกลืนกิน…
นี่มันคงเป็นชะตากรรมของเธอในอดีต…
“ หลังจากนี้…ฉันจะถ่ายทอดเคล็ดวิชาฝึกฝนให้นะ มันจะแก้ปัญหาเรื่องพลังชีวิตของเธอได้ ” จ้าวเทียนบอกกับโม่ปิงหยูด้วยเสียงจริงจัง
“ พี่ชายหมายถึง…หนูจะได้ฝึกฝนการต่อสู้ใช่ไหม ” เธอถามขึ้นอย่างดีใจ
เมื่อก่อนเธออ้อนวอน ให้แม่ของเธอสอนศิลปะการต่อสู้ให้หลายครั้งแต่ก็ล้มเหลว เพราะแม่ของเธอไม่อยากให้เธอเข้าสู่เส้นทางสายนั้น
“ เรื่องนี้…” โม่ซินหยานมีสีหน้าลังเล
“ มันจำเป็นนะครับ หากเธอฝึกวิชาที่ผมสอนให้ ร่างกายเธอจะเต็มไปด้วยพลังชีวิตมหาศาลจนสามารถเลี้ยงดูดวงวิญญาณของตัวได้แบบสบาย ”
“ ผมรู้เรื่องที่พี่กังวล…แต่พี่ลองคิดดูนะครับ ในยุคสมัยนี้ถ้าตัวเราแข็งแกร่งขึ้นมันย่อมต้องดีกว่าอยู่แล้ว ตัวพี่ไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอดเวลานะ ” จ้าวเทียนอธิบาย
“ ตกลง…พี่ยอมให้เธอฝึกก็ได้” โม่ซินหยานพยักหน้ายินยอมในที่สุด เธอเข้าใจสิ่งที่จ้าวเทียนบอกดี
เย้!
“ หนูจะได้เก่งเหมือนแม่แล้ว ” โม่ปิงหยูร้องออกมาด้วยความดีใจ
เธอมองจ้าวเทียนด้วยความสำนึกบุญคุณ จากนั้นก็เหมือนเธอจะคิดอะไรบางอย่างได้
ตุบ !
“ พี่ชายได้โปรดรับหนูเป็นศิษย์ด้วย ” โม่ปิงหยูคุกเข่าให้จ้าวเทียน เธอชูแก้วน้ำชาขึ้นด้วยสองมือ แล้วจ้องมองด้วยสายตาคาดหวัง
!!
“ นี่…มัน ” จ้าวเทียนมีสีหน้าปั้นยาก ในแดนสวรรค์เขากับโม่ปิงหยูคบหาเป็นสหายกัน แต่ตอนนี้เธอกลับ…
คิก คิก
เขามองไปทางโม่ซินหยาน ก็เห็นอีกฝ่ายกลั้นหัวเราะด้วยท่าทางชอบใจ เธอเองก็ส่งแววตาคาดหวังมาให้เขาอีกคน
มองท่าทีเฝ้ารอและคาดหวังของแม่ลูกคู่นี้แล้ว จ้าวเทียนถึงกับพูดไม่ออก
ฉันคงไม่มีทางเลือกจริงๆ…
“ ก็ได้..ผมตกลง ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...