จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 289

ร่างกายของคนเราประกอบด้วยเซลล์หลายชนิดรวมกันเป็นเนื้อเยื่อ กลายเป็นอวัยวะ มีสารและฮอร์โมนต่างๆ หลั่งไหลอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งมีฮอร์โมนหนึ่งชื่อว่าอะดรีนาลีน ที่จะหลั่งออกมาเมื่อร่างกายเจอกับสภาวะกดดันบางอย่าง เช่น ความเครียด, โกรธ, ตื่นเต้น หรือตกใจอย่างรุนแรง

สำหรับคนธรรมดาแล้ว อะดรีนาลีนมีความจำเป็นต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งถ้าร่างกายของเราหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีนเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งช่วยส่งเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อตามส่วนต่างๆ ได้มากเท่านั้น

ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายของเรามีประสิทธิภาพสูงขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมบางคนถึงสามารถวิ่งหนีอันตรายได้อย่างรวดเร็ว หรือยกของหนักหลายกิโลหนีตอนไฟไหม้ได้ รวมไปถึงรอดจากเหตุการณ์อื่นๆ ที่เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์

ดูเหมือนฮอร์โมนอะดรีนาลีนนั้นจะมีประโยชน์มากมาย แต่ที่จริงแล้วมันก็มีข้อเสียที่สำคัญมากอยู่เหมือนกัน เพราะโลกของเรานั้นไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ

การที่จะได้รับบางอย่าง ก็ต้องยอมเสียบางอย่างเป็นข้อแลกเปลี่ยน นี่จึงเป็นสัจธรรมของโลกอันจริงแท้แน่นอน เพื่อที่จะแลกกับพลังอันมหาศาลในช่วงเวลาสั้นๆ ร่างกายจึงต้องเผาผลาญพลังงานที่เก็บไว้ทั้งหมดออกมาในคราวเดียว

ทำให้หลังจากที่ระเบิดพลังออกไปแล้ว ร่างกายของคนผู้นั้นก็จะอยู่ในสภาพจำศีลหลับใหลไม่ได้สติไปหลายวัน หรือที่หนักหน่อยก็อาจจะช็อคตายไปเลย นี่คือผลตอบแทนเพื่อแลกกับพลังที่ได้รับ

แต่สำหรับผู้ฝึกตนระดับเซียนนั้นกลับพิเศษกว่ามาก เพราะพวกเขามีประสาทสัมผัสและโครงสร้างทางร่างกายที่เหนือกว่าคนปกติเป็นร้อยเท่า อีกทั้งยังมีเมล็ดพันธุ์เซียนทำหน้าที่เป็นตัวให้พลังงานสำคัญ

ทำให้ นอกจากระเบิดพลังในช่วงเวลาวิกฤตได้มากขึ้นแล้ว พวกเขาเองก็จะไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย

ส่วนผู้ที่มีพลังแฝงและพรสวรรค์เหนือธรรมดาอย่างหยางถิงเฟิงนั้น ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ประสาทสัมผัสของเขาได้พุ่งสูงทะลุขีดจำกัด เหนือกว่าเซียนคนอื่นเป็นสิบเท่า

จนสามารถมองผ่านความทรงจำหลายสิบปีได้ในชั่วพริบตาเดียว…

และในวินาทีนี้เอง ที่เขาพบคำตอบของชีวิตที่ตัวเขาค้นหามานาน เหตุผลที่เขาทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อฝึกฝนกระบี่อย่างหนัก ไม่ใช่เพื่อตระกูล ไม่เพื่อชื่อเสียงและไม่ใช่เพื่ออำนาจ

แต่เป็นเพราะว่า…เขาชื่นชอบในวิถีแห่งกระบี่

‘ ฉันมัวทำบ้าอะไรอยู่…โอกาสที่จะค้นพบเส้นทางใหม่เกิดขึ้นถึงสามครั้ง ทำไมฉันถึงยังลังเล’

หากหยางถิงเฟิงเชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเองตั้งแต่แรก บางทีสถานการณ์คงจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

ตอนนี้พลังของเขาแทบจะหมดแล้ว อีกทั้งจิตใจเองก็อ่อนล้าเป็นอย่างมาก เขารู้ดีว่าคงไม่มีทางได้รับโอกาสเป็นครั้งที่สี่อีก

แต่ทว่า

หยางถิงเฟิงก็ยังไม่อยากยอมแพ้ไปทั้งแบบนี้สายตาของเขามองไปยังการโจมตีของศัตรูสองคนที่ขยับเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ แม้จะมองเห็นจุดอ่อนของศัตรูได้อย่างชัดเจน แต่ร่างกายของเขากลับไม่ยอมฟังคำสั่งแม้แต่น้อย

ตอนนี้ตัวหยางถิงเฟิงกำลังอยู่ในสภาวะพิเศษ ที่เรียกว่าช่วงวินาทีแห่งความเป็นตาย ทำให้สมองของเขาหลั่งสารอะดรีนาลีน ออกมาเป็นจำนวนมากกว่าคนธรรมดาหลายสิบเท่า จนดูเหมือนกับห้วงเวลาได้ไหลช้าลง

‘ หากโอกาสครั้งที่สี่ไม่มีจริง…งั้นฉันก็จะเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ’

วูป!

เมล็ดพันธุ์เซียนของหยางถิงเฟิง ได้ระเบิดพลังออกมาทั้งหมดในคราวเดียว จากนั้นพลังงานมหาศาลได้ถูกลำเลียงไปยังเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายจนล้นปรี่

ต่อให้การทำแบบนี้จะเกิดผลเสียขึ้นภายหลัง เขาก็ไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย

นี่คือการเดิมพันชีวิตและความตายครั้งแรก นับตั้งแต่หยางถิงเฟิงถือกำเนิดมา และก็ถือเป็นโชคดีที่เขานั้นตัดสินใจถูกต้อง

‘ เห็นแล้ว…วิถีกระบี่ของฉัน ’

ในเวลาเดียวกัน จ้าวเทียนเพิ่งจะปล่อยกระบี่บินออกไป ก็สัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงของหยางถึงเฟิงได้ทันที ทำให้เขาชะงักไปหนึ่งจังหวะ

วิ้ง!

กระบี่บินที่พุ่งออกไปครึ่งทาง ก็ได้วกกลับเข้ามาอยู่ในมือของจ้าวเทียนในพริบตา จากนั้นมุมปากของเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มพึงพอใจ

“ ในที่สุด…ก็ทำได้สินะ ”

ทันใดนั้น

ในตอนที่ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่วาระสุดท้ายของหยางถิงเฟิง กระบี่ในมือเขาก็เปล่งแสงสีขาวออกมา แล้วพร่าเลือนจนหายไป

ไม่สิ…เพราะมันรวดเร็วจนเกินไปต่างหาก จนสายตาของคนอื่นๆไม่อาจจับภาพได้ทัน

เปรี้ยง! ฉัวะ!ๆๆๆ

มองเห็นลำแสงสีขาว เหมือนกับเส้นโค้งอันสวยงามตัดผ่านกันแล้วแยกออก จากนั้นดรรชนีเป็นตายของถังลู่ซิง และดาบมารสังหารของซินเจี่ยงก็ถูกทำลายในพริบตา

!!

“ นี่แก…ทำอะไรลงไป ” ซินเจี่ยงพูดขึ้นด้วยความตกตะลึง อีกฝ่ายสามารถทำลายกระบวนท่าไม้ตายของเขาในครั้งเดียวได้อย่างไรกัน

ซินเจี่ยงที่ว่าตกใจแล้ว ถังลู่ซิงกลับตกใจมากกว่าเป็นร้อยเท่า ตอนนี้สายตาของเขาจับจ้องไปที่มือของตัวเองด้วยความหวาดกลัว เพราะเขาไม่มีความรู้สึกถึงมือข้างนี้เลย

เสี้ยววินาทีนั้นเอง!

ตรงข้อมือของถังลู่ซิงก็ปรากฏเส้นสีแดงเล็กๆขึ้น จากนั้นมือของเขาก็ร่วงตกลงบนพื้น พร้อมกับเลือดที่สาดกระจายออกมา

“ กรอดดด!... ” ถังลู่ซิงกัดฟันขึ้นด้วยความเจ็บปวด เขารีบใช้พลังห้ามเลือดไว้อย่างรวดเร็ว แล้วมองไปยังหยางถิงเฟิงด้วยแววตาสั่นสะท้าน

“ ต้องขอบคุณพวกแกมาก…ที่กดดันฉันจนสามารถบรรลุขอบเขตนี้ได้ในที่สุด และเพื่อเป็นการตอบแทน ฉันจะให้พวกแกได้รับเกียรติเป็นสองศพแรกที่ได้ตายเพราะมัน ” หยางถิงเฟิงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ สำนึกกระบี่ ลมคลั่งฝนกระหน่ำ! ”

ฉัวะ!ๆ

กระบี่ในมือของหยางถิงเฟิงฟันออกไปสองครั้ง แต่กลับมองเห็นเป็นภาพติดตาจำนวนมาก รังสีกระบี่หลายสิบสายระเบิดเข้าใส่ศัตรูทั้งสองอย่างรุนแรง

การโจมตีนี้เป็นกระบวนท่าที่เร็วที่สุด และซินเจี่ยงก็ได้ทุ่มเทพลังทั้งหมดลงไปอย่างเต็มที่ เขาจะต้องสังหารอีกฝ่ายให้ได้ก่อนที่จะมีคนมาช่วย

“ หยุดเดี๋ยวนี้! ”

พวกเซียนของสำนักหัวซานที่ยืนคุมเชิงอยู่รีบพุ่งเข้าไปช่วยเหลือหยางถิงเฟิงทันที อีกทั้งยังมีบางคนโจมตีเข้าใส่แผ่นหลังของซินเจี่ยงอีกด้วย เพื่อหวังให้อีกฝ่ายหันมาป้องกันตัวเอง

แต่ทว่า

พวกเขากลับดูถูกความบ้าคลั่งของซินเจี่ยงเกินไป ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังแบบนี้ ซินเจี่ยงรู้ตัวดีว่าคงไม่อาจหนีรอดไปได้

ดังนั้นเขาจึงต้องการแลกชีวิตกับหยางถิงเฟิง ขอเพียงสังหารอีกฝ่ายล้างอายได้ ต่อให้ต้องตายก็ไม่เสียใจ

เฟี้ยว!

เสียงดาบฝ่าอากาศเข้าใส่อย่างน่ากลัว หยางถิงเฟิงมองภาพนั้นด้วยความสิ้นหวัง เพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่เหลือพลังจะตอบโต้อีกแล้ว เขาได้ทุ่มเททุกอย่างออกไปจนหมดสิ้น

‘ เอาเถอะ…อย่างน้อยก่อนตายฉันก็บรรลุขอบเขตคนกระบี่ประสานเป็นหนึ่งได้ นี่เป็นสิ่งที่ฉันใฝ่ฝันมานาน น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสแสดงให้ท่านปู่เห็นก็เท่านั้น ’

ในขณะที่หยางถิงเฟิงหลับตาลงยอมรับชะตากรรม…

ทันใดนั้น

มืออันแข็งแกร่งข้างหนึ่งก็คว้าตัวเขาแล้วดึงหลบไปด้านข้าง ทำให้เขาต้องลืมตามองด้วยความตกใจ

จากนั้น เขาก็เห็นแผ่นหลังของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า

เปรี้ยง! บูมมมม!

ดาบของซินเจี่ยงได้ฟันเข้าใส่ชายคนนั้นอย่างรุนแรง จนคลื่นพลังอันมหาศาลระเบิดออกมารอบทิศทาง

แต่ทว่า

ภาพที่ซินเจี่ยงเห็นเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต ก็คือดาบมารของตนได้ถูกคีบไว้ด้วยนิ้วมือเพียงสองนิ้ว ก่อนที่การโจมตีจากทางด้านหลังจะมาถึงและได้ปลิดชีพของเขาไป

“ นี่คุณ… ” หยางถิงเฟิงอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

แผ่นหลังของอีกฝ่ายช่างดูคุ้นเคยอย่างมาก เหมือนกับตอนที่ชายคนนั้นเข้ามาปกป้องเขา ในงานชุมนุมกระบี่รอบชิงชนะเลิศไม่มีผิด

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะคิดมากไปกว่านี้ อาการบาดเจ็บทั้งหมดก็กำเริบขึ้นมาจนหมดสติหงายหลังล้มลงไปในทันที

แต่ในเสี้ยววินาทีก่อนที่สติจะดับวูบไปนั้นเอง เขาก็ได้ยินคำพูดประโยคหนึ่ง

“ ทำได้ดีมาก…นายไม่สร้างความผิดหวังให้ฉันจริงๆ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน