ระดับของหินวิญญาณที่ใช้ในการฝึกตนนั้น จะถูกแบ่งออกเป็นห้าระดับได้แก่ ระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง ระดับเทพ และระดับศักดิ์สิทธิ์
ซึ่งคุณภาพของหินวิญญาณแต่ละระดับ จะเหนือกว่าระดับก่อนหน้าร้อยเท่า เช่นหินวิญญาณระดับกลางนั้น จะเทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับต่ำหนึ่งร้อยก้อน
และหินวิญญาณระดับสูง ก็จะเท่ากับหินวิญญาณระดับกลางหนึ่งร้อยก้อนเช่นกัน ถ้าหากใช้อัตราส่วนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
นั่นหมายความว่าหินวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งก้อน ก็จะมีมูลค่าเทียบเท่ากับหินวิญาณระดับต่ำหนึ่งร้อยล้านก้อนเลยทีเดียว
แม้จะเป็นตัวเลขที่ดูเยอะเกินความเป็นจริง แต่หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ คงไม่มีใครอยากนำหินวิญญาณคุณภาพสูงไปแลกกับของคุณภาพต่ำแน่นอน
เนื่องจากยิ่งขอบเขตพลังของผู้ฝึกตนสูงขึ้นเท่าไหร่ ผลประโยชน์ของหินวิญญาณระดับต่ำก็จะน้อยลงเท่านั้น
ดูได้จากผู้ฝึกตนขอบเขตปราณทิพย์ที่มาจากแดนสวรรค์ พวกเขามองเห็นหินวิญญาณระดับกลางและระดับต่ำไม่ต่างไปจากขยะ ต่อให้มีจำนวนมากเป็นล้านล้านก้อน แต่ถ้าไม่สามารถนำไปใช้งานได้มันก็ไร้ค่า
เนื่องจากพลังฟ้าดินที่เจือจางของโลกระดับต่ำ ทำให้สามารถพบเจอได้เพียงหินวิญญาณสามระดับแรก ถ้าต้องการระดับที่สูงกว่านั้น ก็ต้องใช้วิธีการสังเวยหรือบูชายัญทำข้อแลกเปลี่ยนกับเทพหรือมารจากต่างภพเพียงอย่างเดียว
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ฝึกตนระดับสูง มักจะทอดทิ้งโลกที่เป็นต้นกำเนิดของตัวเอง เพื่อขึ้นไปฝึกฝนบนแดนสวรรค์หรือโลกทิพย์ที่อยู่สูงกว่า
“ มูลค่าของพระราชวังหลังนี้…น่าจะเทียบเท่ากับสมบัติทั้งหมดของสามสำนักชั้นยอดบนแดนสวรรค์ได้เลย เห็นทีเรื่องที่นิกายจูเซียนสามารถกวาดพิชิตทุกสำนักทั่วแดนสวรรค์เมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน จะไม่ใช่เรื่องที่ถูกแต่งขึ้น ” จ้าวเทียนพูดออกมาเบาๆ ด้วยความชื่นชม
อย่างไรซะเขาเองก็เป็นผู้ฝึกตนที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลก และนิกายจูเซียนที่เป็นผู้ปกครองโลกในยุคนั้น ก็ไม่ต่างไปจากบรรพบุรุษของมนุษย์ทุกคน ทำให้เมื่อเห็นรากฐานความแข็งแกร่งของนิกายจูเซียนก็อดรู้สึกภูมิใจขึ้นมาไม่ได้
วูปปป!
แค่เพียงจ้าวเทียนก้าวเหยียบลงบนพื้นที่ด้านหน้าพระราชวัง เซลล์ทุกส่วนในร่างกายของเขาก็รู้สึกเหมือนได้รับการเติมเต็ม ด้วยพลังมากมายที่เอ่อล้นออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น จ้าวเทียนก็อยากจะมาเก็บตัวฝึกฝนที่พระราชวังแห่งนี้แบบนานๆเช่นกัน
“ ถ้าฉันได้ฝึกฝนอยู่ในสถานที่แห่งนี้…ไม่เกินสามเดือนคงทลายขอบเขตได้สำเร็จ เสียดายที่ฉันไม่มีเวลามากขนาดนั้น ” จ้าวเทียนถอนหายใจเบาๆ และหยิบเอาป้ายบัญชาราชันออกมาเพื่อจะทดลองเปิดประตูพระราชวัง
แต่ทันใดนั้นเอง
ก็เกิดดวงแสงสีทองเปล่งแสงเจิดจ้า ขวางหน้าจ้าวเทียนกับประตูวังเอาไว้ จากนั้นมันก็ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างเป็นลักษณะของมนุษย์อย่างรวดเร็ว
ไม่ถึงห้าวินาทีตรงหน้าจ้าวเทียน ก็มีหญิงสาวอายุประมาณสิบแปดปี สวมชุดจีนโบราณสีทองลายพญาหงส์ดูหรูหรา
ถึงแม้ใบหน้าของเธอ จะดูสวยสดงดงามเหนือกว่าหญิงสาวส่วนใหญ่ที่จ้าวเทียนเคยพบเจอ แต่ทั้งแววตาและความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้นั้นกลับผิดแปลก
เธอดูเหมือน…หุ่นเชิดที่ไร้ชีวิตและจิตใจไม่มีผิด
‘ นี่คงจะเป็น…วิญญาณประดิษฐ์ที่ปกป้องพระราชวังล้ำค่าแห่งนี้ ’
จ้าวเทียนมองออกได้ในทันที ท่าทีของเขาเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ครั้งนี้แตกต่างกับชายชราผู้เฝ้าคลังสมบัติระดับต่ำของนิกายจูเซียน ที่เสียสละชีวิตตนเองยอมเปลี่ยนเป็นวิญญาณพิทักษ์คลังสมบัติ
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเขา เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ต้น ด้วยสมบัติล้ำค่าจิตวิญญาณระดับสูง ซึ่งจะทำตามคำสั่งผู้สร้างและจงรักภักดีอย่างถึงที่สุด โดยไม่แยกแยะถูกผิดใดๆทั้งสิ้น
พูดง่ายๆว่า หากมหาเทพจูเซียนมอบคำสั่งไว้ว่า ให้สังหารผู้บุกรุกพระราชวังทุกคน เธอก็จะลงมือโดยไม่ลังและไม่สนใจว่าจ้าวเทียนจะมีป้ายแทนตัวหรือไม่
ครืนนน!
ความกดดันมหาศาลถาโถมเข้าใส่จ้าวเทียนจากทุกทิศทาง เข้าตรึงร่างกายของเขาเอาไว้ เหมือนกับไม่ต้องการให้เขาหลบหนี
จากนั้น
“ ผู้บุกรุกพระราชวังจักรพรรดิ…ต้องถูกกำจัด ” หญิงสาวคนนั้นพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้อารมณ์
“ ช้าก่อน!...ฉันมีป้ายแทนตัวของมหาเทพจูเซียน ” จ้าวเทียนรีบพูดออกมาย่างรวดเร็ว ทั้งยังชูป้ายให้อีกฝ่ายแต่ดูแล้วมันน่าจะไร้ผลโดยสิ้นเชิง
ดูเหมือน…สิ่งที่เขากังวลมันก็ได้เกิดขึ้นในที่สุด หญิงสาวคนนี้ไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น สนใจเพียงคำสั่งที่ได้รับเพียงอย่างเดียว
แวบ!
พระราชวังสีทองที่ด้านหลังเปล่งแสงสว่างอันเจิดจ้าออกมา ทำให้ขอบเขตพลังของเธอพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
รวมปราณ!
ปราณปฐพี!
ปราณนภา!
เงาร่างอันพร่าเลือนของมหาเทพจูเซียน ได้ปรากฏขึ้นตรงหน้าจ้าวเทียนอย่างช้าๆและค่อยๆชัดเจนขึ้น จนทำให้หญิงสาวที่กำลังจะลงมือสังหารจ้าวเทียนหยุดชะงักไปทันที
“ พอแล้ว หมิงเย่ ชายคนนี้เป็นสหายของข้าเอง ” มหาเทพจูเซียนพูดออกมาด้วยท่าทีขบขันเล็กน้อย ที่ได้เห็นสภาพไม่น่าดูของจ้าวเทียน
“ น้อมรับบัญชา…องค์จักรพรรดิ ” หญิงสาวรีบสลายพลังทั้งหมดไป แล้วคุกเข่าลงทำความเคารพอย่างอ่อนน้อม
เมื่อจัดการเรื่องราวเรียบร้อย มหาเทพจูเซียนก็หันมาทางจ้าวเทียนแล้วถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“ เจ้ารู้ตั้งแต่แรกแล้วเหรอ…ว่าข้าได้แบ่งเจตจำนงส่วนหนึ่งเข้ามาอยู่ในแผ่นป้ายอันนี้ ”
“ ไม่ใช่…ฉันแค่เริ่มสัมผัสถึงความผิดปกติได้ ตอนจัดเรียงค่ายกลสี่สัตว์เทวะ เพียงแต่ยังไม่รู้สึกมั่นใจเท่าไหร่ จนกระทั่งถูกหญิงสาวคนนี้โจมตี ฉันถึงได้แน่ใจ ”
“ หากคุณต้องการจะสังหารฉันจริงๆ คงลงมือไปตั้งแต่แรกแล้ว ไม่จำเป็นต้องวางแผนยุ่งยากแบบนี้ ” จ้าวเทียนพูดออกมาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นัก เขาคิดว่ามหาเทพจูเซียนกำลังแก้แค้นเรื่องการต่อสู้ในโลกจิตวิญญาณ
ซึ่งถ้าว่ากันตามตรง…
สิ่งที่จ้าวเทียนเข้าใจนั้นถูกต้องเพียงครึ่งเดียว จริงอยู่ที่มหาเทพจูเซียนต้องการสั่งสอนจ้าวเทียน แต่ไม่ใช่เพราะเรื่องที่แพ้การต่อสู้ในโลกแห่งจิตวิญญาณ
มันเป็นเหตุผลง่ายๆ ที่ผู้เป็นบิดามักจะเป็นกัน เมื่อรู้ว่าบุตรสาวมีใจให้ชายหนุ่มคนอื่น
‘ ให้เจ้าหนุ่มนี่ได้รับบทเรียนซะบ้าง…หลังจากนี้จะได้ไม่กล้ารังแกบุตรสาวของข้า ’
ผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากจ้าวเทียนกินโอสถฟื้นฟูพลังและรักษาอาการบาดเจ็บเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถามขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง
“ จุดประสงค์ที่คุณให้ฉันมายังสถานที่แห่งนี้ คืออะไร ”
“ จุดประสงค์ของข้างั้นเหรอ…ก็คือให้ให้เจ้าแข็งแกร่งขึ้นยังไงล่ะ ที่วังจักรพรรดิแห่งนี้เป็นคลังสมบัติที่แท้จริงของนิกายจูเซียน ที่ข้าได้ใช้เวลาเกือบพันปีเก็บรวบรวมเอาไว้จากทั่วแดนสวรรค์ ” มหาเทพจูเซียนพูดขึ้นด้วยความภูมิใจ ในยุคนั้นเขาได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดและพิชิตไปทั่วทุกสารทิศอย่างแท้จริง
“ คลังสมบัติของนิกายจูเซียนบนแดนสวรรค์ ไม่ใช่ว่าถูกกวาดล้างไปหมดแล้วเหรอ ” จ้าวเทียนรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง สถานที่สำคัญแบบนี้ เต๋าแห่งสวรรค์ปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร
“ เหอะ…เจ้าคิดว่าข้าจะเก็บสมบัติทั้งหมด เอาไว้บนแดนสวรรค์ที่เต็มไปด้วยการต่อสู้แย่งชิงงั้นรึ ต่อให้ตอนแรกข้าจะยังไม่แน่ใจถึงตัวตนของเต๋าแห่งสวรรค์ แต่ก็ได้หาวิธีป้องกันเอาไว้แล้ว”
“ วังจักรพรรดิแห่งนี้สร้างขึ้นในโลกภายในของตัวข้าเอง ในตอนที่เจตจำนงของข้าหลบหนีออกจากร่างกาย ก็ได้นำมันออกมาด้วย และย้ายมาไว้บนมิติเร้นลับที่เป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับแดนสวรรค์ เพื่อหลบซ่อนจากสายตาของศัตรู ”
“ มหาเทพจูเซียนช่างรอบคอบจริงๆ…แม้แต่ตอนที่หนีเอาชีวิตรอด ยังไม่ลืมเอาคลังสมบัติติดมาด้วย ” จ้าวเทียนพูดย้อนอีกฝ่ายกลับไป
“ เอาเถอะ…พวกเรามาพูดเรื่องสำคัญกันดีกว่า ข้ามีของสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เจ้าบรรลุขอบเขตต่อไปได้ภายในสามวัน ขอเพียงทำงานให้ข้าอย่างหนึ่งเท่านั้น ”
“ คิดว่ายังไงล่ะ…สนใจไหม ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...