จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 574

เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง จ้าวเทียนก็เรียกผู้จัดการภัตตาคารมาพบ เพื่อขอชำระค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยหินวิญญาณระดับเทพ เนื่องจากเงินที่อยู่ในบัตรของเขามีไม่เพียงพออย่างที่คาดไว้

ถือเป็นโชคดี ที่สังคมสมัยใหม่เปิดกว้างต่อเหล่าผู้ฝึกตนมากกว่าในอดีต อีกทั้งยังเคยมีการเปิดประมูลหินวิญญาณอยู่บ่อยครั้งในเมืองปักกิ่ง

เรื่องทุกอย่างเลยจบลงด้วยดี โดยที่จ้าวเทียนไม่ต้องเปิดเผยตัวตน หรือยอมเสียหน้าโทรไปขอยืมเงินจากหวังซินหยาง

“ หินวิญญาณระดับเทพสองก้อน แลกกับอาหารเครื่องดื่มของมนุษย์ปุถุชน เจ้าไม่คิดว่ามันแพงเกินไปหน่อยงั้นเหรอ ” จักรพรรดินีหลินซินเยว่ถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้นางพาจ้าวเทียนเคลื่อนย้ายมาอยู่ในมิติลึกลับเรียบร้อยแล้ว

“ ก็มันช่วยไม่ได้นี่ขอรับ พวกเขาเป็นคนธรรมดาที่ไม่เคยเห็นหินวิญญาณระดับเทพมาก่อน เพราะส่วนใหญ่ในงานประมูลมีเพียงหินวิญญาณระดับกลางและระดับสูงเท่านั้น จึงไม่แปลกที่จะพยายามต่อรองราคาเพื่อลดความเสี่ยง ” จ้าวเทียนส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับถอนหายใจ

หินวิญญาณระดับเทพหนึ่งก้อน มีคุณสมบัติเหนือกว่าระดับสูงมากนัก ซึ่งในอดีตศาสนจักรแห่งแสงเคยรับซื้อในราคาถึงก้อนละหนึ่งร้อยล้านหยวนเลยทีเดียว

อันที่จริง ถ้าหากจ้าวเทียนแกล้งเปิดเผยพลังฝีมือออกมาสักนิด เชื่อว่าทางภัตตาคารก็ไม่กล้ามีปัญหากับเขาแน่นอน

แต่ถ้าทำแบบนั้น ก็ไม่ต่างจากการใช้อำนาจไปรังแกคนธรรมดาที่ทำงานหาเช้ากินค่ำ ซึ่งเรื่องที่ขัดต่อมโนธรรมเช่นนี้ จ้าวเทียนไม่มีทางทำเด็ดขาด

“ เข้ามาใกล้ๆ ให้ข้าตรวจสอบพลังปัจจุบันของเจ้าดูหน่อย ” จักรพรรดินีหลินซินเยว่พูดออกมาอย่างผ่อนคลาย นางสร้างชุดโต๊ะน้ำชาขึ้นจากความว่างเปล่า แล้วชี้ให้จ้าวเทียนนั่งลงข้างตนเอง

“ ได้ขอรับ ” จ้าวเทียนยอมทำตามแต่โดยดี ถึงแม้การทำแบบนี้จะทำให้ความลับทั้งหมดของตนถูกเปิดเผยออกมาก็ไม่ใส่ใจ

เพราะอีกฝ่ายคือท่านอาจารย์ที่รักและเอ็นดูเขาที่สุด ย่อมไม่มีทางคิดแย่งชิงชิ้นส่วนวิญญาณผานกู่หรือผลประโยชน์อื่นใดจากเขาแน่นอน

แวบ!

ฝ่ามือขาวเนียนสัมผัสไปที่ศีรษะของจ้าวเทียนอย่างอ่อนโยน พร้อมกับปลดปล่อยแสงสว่างเจิดจ้าออกมา พลังงานอันอบอุ่นสายหนึ่งไหลทะลักเข้าไปในร่างจ้าวเทียน

เริ่มตั้งแต่ส่วนศีรษะจรดปลายเท้า จากอวัยวะภายนอกสู่ภายใน จนกระทั่งถึงพื้นที่ลึกสุดในจิตวิญญาณของจ้าวเทียน เรียกได้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างของเขาถูกเปิดเผยออกมาจนหมดสิ้นก็คงไม่ผิดนัก

“ ใช้ชิ้นส่วนวิญญาณผานกู่เป็นเตาหลอม เพื่อควบรวมสิบแก่นแท้ให้เป็นหนึ่งเดียวงั้นรึ แม้ขั้นตอนจะดูหยาบไปบ้างแต่ก็ถือเป็นแนวคิดที่ดี ”

“ อืม ดูเหมือนโลกภายในที่ไม่สมบูรณ์ของเจ้า จะขยายตัวจนเหนือขีดจำกัดของขอบเขตเซียนนภาขั้นสูงสุดแล้ว หากยอมทุ่มสุดตัวจริงๆ ไม่แน่ว่าตอนทลายขอบเขตวันพรุ่งนี้ เจ้าอาจจะบรรลุถึงขอบเขตเซียนทิพย์เลยก็ได้ ”

“ ส่วนเมล็ดพันธุ์เต๋ากระบี่ของเจ้ายังมีพื้นที่ให้เติบโตอีกมาก เมื่อใดที่บรรลุขอบเขตขั้นต่อไป ก็จงส่งดวงจิตกลับไปที่พิสูจน์เต๋าอีกครั้ง ข้าเชื่อว่าเจ้าคงผ่านด่านทดสอบเต๋าห้าสิบก้าวได้แน่นอน ”

พอพูดมาถึงตรงนี้ จักรพรรดินีหลินซินเยว่ก็จ้องมองจ้าวเทียนด้วยแววตาแปลกๆ พร้อมกับยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“ ท่านอาจารย์…ร่างกายของฉันมีอะไรผิดปกติงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนรีบถามขึ้น

“ ร่างกายเจ้าไม่มีอะไรผิดปกติหรอก เพียงแต่ดูเหมือนช่วงนี้เจ้าจะสูญเสียแก่นแท้พลังหยางบริสุทธิ์มากเกินไปหน่อยนะ ”

“ ถึงแม้การฝึกฝนคู่หลอมรวมหยินหยางกับภรรยาจะเป็นสิ่งที่ดี และทำให้พลังฝีมือก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็ควรมีความยับยั้งชั่งใจบ้าง มิเช่นนั้นปล่อยนานไปรากฐานของเจ้าจะไม่มั่นคงเอาได้ ”

!!

“เอ่อ… ” จ้าวเทียนก้มหน้าหลบสายตาด้วยความเขินอาย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนเด็กที่แอบกินขนมแล้วถูกมารดาจับได้ไม่มีผิด

ถ้าให้พูดกันตามตรง ในชีวิตที่แล้วตั้งแต่วินาทีแรกที่จ้าวเทียนได้กลายเป็นศิษย์สำนักดาราสวรรค์ ตัวเขาก็ตกหลุมรักอาจารย์ผู้งดงามของตนเองเข้าเต็มเปา

“ ท่านอาจารย์ ฉันขอทราบเหตุผลหน่อยได้ไหม ” จ้าวเทียนถามออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เนื่องจากเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

“ เรื่องนี้บอกต่อเจ้าก็ไม่เป็นไร ตั้งแต่ที่ข้าบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพเป็นต้นมา ทุกครั้งที่พลังของข้ากล้าแข็งขึ้น มันก็จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังบุตรีของราชันสวรรค์เก้าภพซึ่งเป็นร่างต้นของข้าเช่นเดียวกัน ”

“ ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา นางก็เริ่มส่งภาพนิมิตเข้ามาครอบงำจิตวิญญาณของข้าอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้ข้ายอมละทิ้งกายเนื้อแล้วหลอมรวมวิญญาณเข้าเป็นส่วนหนึ่งของนาง ”

“ สุดท้าย ข้าจึงยอมเสี่ยงแบ่งแยกดวงวิญญาณตัวเองแล้วส่งไปเกิดใหม่ เพื่อตัดเส้นใยกรรมระหว่างข้ากับนางทิ้งไป ซึ่งมันก็ได้ผลแค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น ซ้ำร้ายยังเป็นการไปกระตุ้นให้นางต้องการครอบครองข้ามากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย ”

พูดจบ จักรพรรดินีหลินซินเยว่ก็ถอนหายใจออกมา หากเลือกได้นางก็ไม่อยากบอกเรื่องนี้กับจ้าวเทียนเลยจริงๆ

“ ท่านอาจารย์ นางแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าเทพมังกรทั้งเก้าร่วมมือกันมีหวังเอาชัยกี่ส่วน ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ ต่อให้นับรวมข้ากับพี่ปิงเยว่เข้าไปด้วย ก็มีความหวังไม่ถึงสามส่วน ” จักรพรรดินีหลินซินเยว่ตอบออกมาตามตรง นางได้ลองอนุมานหนทางเอาชนะอีกฝ่ายมาทุกวิธีแล้ว แต่ก็ไม่เคยมีหนทางไหนโอกาสสำเร็จเกินครึ่งเลย

“ นี่มัน… ”จ้าวเทียนมีสีหน้าหมองคล้ำลงอย่างชัดเจน ถ้าสิ่งที่ท่านอาจารย์พูดเป็นความจริง แสดงว่าฝ่ายตรงข้ามมีพลังทัดเทียมกับสามผู้ปกครองในยุคแรกเริ่มของจักรวาลเลยทีเดียว

“ เจ้าไม่ต้องกังวล ขอเพียงกำแพงทางจิตวิญญาณของข้ายังไม่ถูกทำลาย นางก็ไม่มีทางครอบงำข้าสำเร็จในช่วงเวลาสามปีนี้แน่นอน ”

“ แต่พรุ่งนี้ ท่านจะต้องต่อสู้กับมหาเทพอวี่หวงนะ ” จ้าวเทียนพูดขัดขึ้นอย่างร้อนรน เมื่อต้องต่อสู้เดิมพันชีวิตกับตัวตนในระดับเดียวกัน มันย่อมมีโอกาสสูงที่จะได้รับบาดเจ็บทางจิตวิญญาณอยู่แล้ว

“ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ข้าก็จะยอมแลกด้วยทุกอย่างที่มีเพื่อสังหารศัตรูให้ได้มากที่สุด เพราะนี่อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ข้าทำเพื่อพวกเจ้าได้ ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน