จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 76

หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดที่ผ่านมา ตอนนี้บาดแผลของจ้าวเทียนได้ถูกรักษาโดยไป๋ซู่เจินจนเกือบจะหายดีแล้ว เพราะเธอนั้นเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาวารีซึ่งโดดเด่นในด้านการรักษา

เปลือกตาของจ้าวเทียนสั่นไหวเล็กน้อย แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ด้วยร่างกายที่ผิดมนุษย์ทำให้การฟื้นตัวของเขาไวกว่าคนทั่วไปหลายเท่า

‘ ฉันอยู่ที่ไหน ’

เมื่อมองเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยคุ้นตา ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ ภายในห้องที่เขาอยู่ถูกตกแต่งแบบโบราณ เหมือนอยู่ในยุคราชวงศ์ชิง เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างทำขึ้นจากไม้ฮวงหัวลี่ ที่มีลวดลายสวยงาม

!!

เขามองไปตรงบริเวณหน้าท้องของตัวเอง มีสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆนอนหลับอยู่อย่างสบายอารมณ์ ขนสีขาวและหางฟูๆของมันขดเป็นก้อนกลมๆคล้ายลูกบอล

‘ กลิ่นอายแบบนี้…ปีศาจงั้นเหรอ ’

คิ้วของจาวเทียนขมวดขึ้นเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงพลังขอบเขตเซียนระดับสูงสุดจากสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ การที่อีกฝ่ายมานอนอยู่บนตัวเขาแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก

‘ หากมันต้องการจะฆ่าฉันก็คงทำได้ง่ายๆ…โชคดีที่ฉันยังรู้สึกถึงป้ายดาราสวรรค์ที่อยู่ในตัว ’

เหมือนกับมันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ สุนัขจิ้งจอกน้อยได้ลืมตาขึ้น มันลุกขึ้นบิดตัวด้วยความเกียจคร้าน ดวงตาไร้เดียงสามองมาทางจ้าวเทียนอย่างสนใจ

อ๊าววว!

มันส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาถูไถกับใบหน้าของจ้าวเทียนอย่างออดอ้อน ไม่ได้มีความน่าเกรงขามของเซียนปีศาจระดับสูงสุดแม้แต่น้อย

….

ภายในห้องโถงด้านนอก ไป๋ซู่เจินกำลังพลิกอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ด้วยแววตาเศร้าโศก สิ่งที่ถูกบรรยายอยู่ในหนังสือเล่มนั้น มันเป็นเรื่องราวของเธอเอง

น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากหางตาของนาง มันเต็มไปด้วยความความทรงจำอันล้ำค่าของนางกับชายคนรัก

“ สี่เซียน…ก่อนหน้านี้ข้าบำเพ็ญเพียรมานานนับพันปี แต่มันมีค่าน้อยกว่าช่วงเวลาไม่ถึงปีที่ได้อยู่กับท่าน ”

“ ข้าไม่สน…ว่าท่านจะลืมข้าหรือเปล่า เพราะข้าจดจำท่านได้ ”

ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอได้เห็นใบหน้าของจ้าวเทียน มันแทบทำให้วิญญาณของเธอสั่นสะท้าน เพราะหน้าตาของเขาถอดแบบมาจากคนรักของเธอทุกอย่าง

แต่เขาไม่ใช่…

‘ หากเขาคือสี่เซียนที่กลับชาติมาเกิดใหม่…ฉันจะรู้สึกได้ทันที ’

แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เธอเองก็ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ จนเผลอใกล้ชิดและโอบกอดเขาเอาไว้เหมือนกับเป็นคนรัก

แอ๊ด!

ประตูห้องนอนด้านในถูกจ้าวเทียนผลักเปิดออกมา เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อพบกับไป๋ซู่เจิน เพราะเขาจำได้ว่าหญิงสาวคนนี้คือคนที่ช่วยเขาเอาไว้

เมื่อตอนที่อยู่ในห้องปีศาจจิ้งจอกน้อยซึ่งตอนนี้เกาะอยู่บนไหล่ของเขา ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังตั้งแต่ตอนที่เขาหมดสติไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน

จนตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองได้ศิษย์พี่หญิงช่วยเหลือเอาไว้ ส่วนสถานที่แห่งนี้ก็คือตัวตึกด้านในของคฤหาสน์ดาราสวรรค์

แต่สำหรับสาเหตุที่ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้คอยตามเขาไม่ห่าง เมื่อถามออกไปมันก็ไม่ยอมบอก เขาก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไว้เขาจะลองถามศิษย์พี่หญิงดู

“ คุณช่วยผมไว้ใช่ไหม…ขอบคุณครับ ”

ไป๋ซู่เจินที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนแล้วพยักหน้าตอบรับ แววตาที่เธอมองจ้าวเทียนยังคงเก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้

“ ผมขอตัวไปหาศิษย์พี่หญิงก่อน” จ้าวเทียนพูดออกมา ก่อนที่จะเดินตรงไปทางห้องทำงานที่อยู่อีกตึก

เมื่อเห็นว่าจ้าวเทียนจากไปแล้ว ไป๋ซู่เจินก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง จมอยู่ในความทรงจำในอดีตอีกครั้ง

ผ่านไปไม่นานในห้องทำงานขนาดใหญ่ สิ่งแรกที่จ้าวเทียนพบก็คือตุ๊กตาหมีขนฟูสีน้ำตาลกำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่บนโต๊ะทำงาน

‘ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชินกับภาพแบบนี้ซักที ’

“ เธอฟื้นแล้วเหรอ…อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง ” เหยียนซืออู่ที่นั่งจิบชาอยู่ด้านข้างถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

“ ผมหายดีแล้วครับ…ร่างกายก็ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ขอบคุณท่านตามากนะครับที่มาช่วยผมไว้ ” จ้าวเทียนตอบด้วยรอยยิ้ม

“ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ” เหยียนซืออู่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมองไปทางสุนัขจิ้งจอกที่เกาะอยู่บนบ่าจ้าวเทียนอย่างเย็นชา

“ ซูต๋าจี่…นั่นทำบ้าอะไรของเธอ ถอยออกไปจากศิษย์น้องฉันซะ ”

!!

“ ชิ…ยัยขี้งก ”

ปุ้ง!

“ เอ่อ…คือฉัน ” เธอมีท่าทีเขินอายอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่แอบมองใบหน้าจ้าวเทียนอีกหลายครั้ง เธอก็ตอบออกมาเสียงเบาๆ

“ ฉันอยากบำเพ็ญคู่…กับคุณ ”

“ ไม่ได้! ”

“ ฉันไม่ยอม! ”

แต่ยังไม่ทันที่จ้าวเทียนจะตอบอะไรศิษย์พี่หญิงกับท่านตาของเขาก็ได้พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน ทำให้ซูต๋าจี่มีสีหน้าบูดบึ้งทันที

‘ ฉันไปทำอะไรให้พวกคุณไม่พอใจงั้นเหรอ… ’

จ้าวเทียนยิ้มแห้งๆออกมา เขาเองก็เพิ่งเคยเจอคำขอแบบนี้ครั้งแรก เมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงชีวิตเกือบแสนปีบนแดนสวรรค์ รู้สึกจะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

ตอนเป็นจักรพรรดิสวรรค์ตัวเขาโดนควบคุมให้ปกครองดินแดนแบบโหดร้ายเย็นชา คนรอบกายก็มีแต่มองมาด้วยความเคารพและเกรงกลัว ไม่มีใครกล้ามาพูดแบบนี้กับเขา

“ ศิษย์พี่หญิง…บรรพชนเซียนตระกูลจ้าวถูกขังไว้ที่ไหนเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้น

“ ห้องลับ…หลังชั้นวางหนังสือ ”

จ้าวเทียนพยักหน้ารับรู้ เขาเดินไปตรงจุดที่มีสัญลักษณ์สำนักดาราสวรค์ แล้วเติมอักขระลงไปทันที

วูป!!

เพล้ง

เสียงเหมือนกระจกแตก ประตูทางเข้าปรากฏขึ้นตรงชั้นหนังสือ จ้าวเทียนก็เดินตรงเข้าไปด้านใน ตอนนี้สมบัติล้ำค่าทั้งหมดอยู่ในแหวนมิติของเขาแล้ว

ในห้องมีเพียงชายชราคนหนึ่งนอนสิ้นสภาพอยู่บนพื้น ร่างของเขาได้ถูกผนึกไว้ด้วยโซ่ตรวนสีดำ ทำให้ไม่สามารถฟื้นฟูตัวเองได้

ดูจากบาดแผลมากมายที่ยังไม่ได้รับการรักษา อาการของเขานั้นสาหัสกว่าเจ้าเทียนเกือบสองเท่า

“ อย่าฆ่านะ…ฉันยังต้องคืนเขาให้ต้วนมู่เฉียนแบบมีชีวิต ”

“ ตกลง…ฆ่าเขาตอนนี้มันง่ายเกินไป ผมจะให้เขาดูตระกูลจ้าวถูกทำลายก่อน หลังจากนั้น… ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หากคิดจะแก้แค้น ก็ต้องทำมันด้วยมือของตัวเองเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจลบล้างความเจ็บปวดที่อยู่ในใจได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน