ย้อนกลับไปก่อนที่จ้าวเทียนจะมาถึง สัมผัสวิญญาณอันกว้างใหญ่ของเขาได้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่านตาหมดแล้ว
‘ ที่แท้พวกมันก็สมคบคิดกัน…ได้ยินนักวิทยาศาสตร์คนนั้นบอกว่า ตระกูลหลี่ทุ่มเวลากว่าสิบปีเพื่อสร้างปืนลำแสงขึ้นมา แสดงว่าตระกูลหลี่เป็นผู้ผลิตปืนลำแสงให้รัฐบาล ’
‘ แผนการทรยศครั้งนี้คงมีตระกูลหลี่อยู่เบื้องหลังด้วยแน่นอน…ฉันต้องรีบช่วยท่านตาแล้วไปเตือนศิษย์พี่หญิง ’
ในระหว่างที่คิดวางแผนในใจจ้าวเทียนก็เกือบจะถึงที่หมาย ตอนนี้สายตาเขาสามารถมองเห็นท่านตาได้แล้ว แต่อีกฝ่ายคงยังไม่สังเกตเห็นเขา
“ เคล็ดกระบี่บูรพาสังหาร! ”
วูป!
ทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่ได้ปรากฏขึ้น และเมื่อกลุ่มดาวทั้งหมดในอาณาเขตทิศตะวันออกเปล่งประกายเจิดจ้า อาณาเขตดวงดาวก็ได้ถูกใช้งาน
ในระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินคำพูดของโจวจือหยวนพอดี จึงได้พูดสวนออกไป
“ แต่ฉันว่า…แกคงไม่มีโอกาสได้เห็นหรอก! ”
จากนั้นจ้าวเทียนก็ได้ก้าวออกไปตรงตำแหน่งที่มีจุดแสงอยู่ แล้วตัวของเขาก็หายไปทันที
ในขณะที่ทุกคนหันไปมองตรงที่มาของเสียง ก็คือตำแหน่งเดิมของจ้าวเทียน
ฉัวะ!
อ้ากก!
แขนข้างหนึ่งปลิวขึ้นฟ้าไป โจวจือหยวนถอยหนีอย่างหวาดกลัว ตัวเขาในตอนนี้ได้รับบาดเจ็บหนักที่ไหล่ทำให้รับมือจ้าวเทียนไม่ทัน
สุดท้ายจึงต้องยอมเสียแขนขวาเพื่อแลกกับชีวิตตนเอง…
‘ เมื่อกี้ถ้าฉันยกแขนขึ้นป้องกันไม่ทัน คงตายไปแล้ว ’
เขาฝืนทนความเจ็บปวดแล้วรีบหลบหนีทันที ด้วยความเร็วของเซียนระดับสูงสุดเขาเชื่อว่าต้องหนีทัน
จ้าวเทียนมองโจวจือหยวนที่กำลังหลบหนีด้วยสายตาเย็นชา เขาโยนศัตรูอีกคนที่ถูกสยบไว้ให้ท่านตา
หลังจากที่ตัดแขนโจวจือหยวนเรียบร้อย เขาก็หันไปจัดการอีกคนทันที เพียงตบฟาดฝ่ามือใส่ครั้งเดียว ก็ทำลายพลังฝีมืออีกฝ่ายไปเรียบร้อย
“ รบกวนท่านตาช่วยสอบสวนเขาให้หน่อยนะครับ…ผมจะไปจัดการคนที่หนีเอง ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสแบบนั้นทั้งยังเสียแขนไปอีก ไม่มีทางรอดมือเขาไปได้
เสียดายโจวจือหยวนบินเร็วเกินไป เพียงพริบตาเดียวก็ออกนอกอาณาเขตหนึ่งพันเมตรของจ้าวเทียน ทำให้เขาหายตัวตามไปไม่ได้
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของอาวุธเวทที่เคลื่อนที่เร็วกว่าเซียนถึงสิบเท่า…
ฟิ้วว!
เขาเหยียบกระบี่บินหายไปด้วยความเร็วที่มองตามไม่ทัน
ห่างออกไปเกือบสิบกิโลเมตร โจวจือหยวนได้ห้ามเลือดจากบาดแผลแขนขาดแล้ว เขาทุ่มพลังทั้งหมดกับการบินหลบหนี
‘ ฉันจะต้องรีบกลับไปที่ฐานลับของตระกูลหลี่…ไอ้เด็กนั่นมันต้องตามมาแน่ ’
ในขณะที่โจวจือหยวนกำลังคิดถึงเส้นทางหลบหนีอยู่นั่นเอง รังสีกระบี่สองสายก็ได้มาถึงตัวเขาอย่างรวดเร็ว
!!
เปรี้ยงๆ
“ โธ่โว้ย…แกมันตัวอะไรกันแน่ ” โจวจือหยวนร้องออกมาด้วยความโกรธ เขาหันกลับไปใช้กระบี่ในมือทำลายรังสีกระบี่สองสายทิ้ง
อีกฝ่ายเคลื่อนที่ไวจนเหนือมนุษย์ พริบตาเดียวก็ตามเขาทัน แบบนี้คงต้องสู้เท่านั้นอาจจะพอมีทางรอด
‘ ถ้าหากฉันไม่ได้บาดเจ็บละก็…ไอ้เด็กนี่ไม่มีทางสู้ฉันได้ ’
เมื่อเห็นว่าโจวจือหยวนหยุดคิดที่จะหลบหนีแล้ว จ้าวเทียนก็ระมัดระวังตัวเองมากขึ้น อีกฝ่ายเป็นคนเจ้าเล่ห์มาก
“ ในเมื่อแกอยากฆ่าฉันนัก…ก็มาตายด้วยกันเถอะ ” โจวจือหยวนร้องออกมาด้วยความโกรธ
“ รุ้งขาวทะลวงตะวัน! ”
รังสีกระบี่ดุจสายรุ้งเจ็ดสาย ทะลวงใส่จ้าวเทียนอย่างหักโหม ตัวของโจวจือหยวนก็พุ่งตามมาเช่นกัน
จ้าวเทียนใช้รังสีกระบี่สวนกลับไปอย่างใจเย็น เพราะอาการบาดเจ็บ ทำให้อีกฝ่ายพลังต่อสู้ลดไปเกือบครึ่งแล้ว
ตอนนี้เขาต้องเก็บพลังที่เหลือไว้สำหรับจัดการกับพรรคพวกที่เหลือของโจวจือหยวน
‘ อีกฝ่ายกล้าที่จะลอบสังหารศิษย์พี่หญิงคงต้องเตรียมการณ์ไว้แล้ว…ศัตรูอาจจะมีเซียนคนอื่นอยู่อีก ฉันต้องสำรองพลังไว้ส่วนหนึ่ง ’
หืม!
!!
กระบี่คู่กายของโจวจือหยวนพุ่งเข้าใส่จ้าวเทียนเหมือนกับเป็นอาวุธลับ
สายตาของจ้าวเทียนมองตามกระบี่ที่กำลังจะพุ่งใส่เขา แล้วใช้อาวุธคู่กายปัดออกอย่างใจเย็น จนมันกระเด็นออกไปไกล
ทันใดนั้นเอง…
ในมือโจวจือหยวนก็มีปืนลำแสงกระบอกหนึ่ง มันถูกใช้ยิงใส่จ้าวเทียนในระยะประชิดทันที ที่แท้เขาได้อาศัยจังหวะที่สายตาจ้าวเทียนอยู่ที่กระบี่ จากนั้นก็เรียกปืนลำแสงออกมาลอบโจมตี
แซ่ดๆ
ตูม!ๆ
ลำแสงสีขาวสองสายโดนเข้าที่แขนของจ้าวเทียนเต็มๆ แต่เขาเพียงขมวดคิ้วเล็กน้อยเท่านั้น ในใจเขาไม่มีความกังวลแม้แต่น้อย
“ ท่านผู้นำครับ! เราได้ควบคุมเจ้าหน้าที่ในสำนักความมั่นคงแห่งชาติไว้หมดแล้ว แต่ไม่พบตัวประธานาธิบดีครับ ”
เจ้าหน้าที่แต่ละคนได้รายงานสถานการณ์เข้ามาเรื่อยๆ
“ ชิ ไอ้หุ่นเชิดนั่นรู้ตัวก่อนงั้นเหรอ…ให้ทำการค้นหาต่อไปภายในวันนี้ฉันต้องตัวมัน ” หลี่จุ้นโป๋สั่งการอย่างเด็ดขาด หากคุมตัวประธานาธิบดีไม่ได้ ภารกิจในวันนี้จะต้องเกิดปัญหาอย่างแน่นอน
ตอนนี้เขาได้ซื้อตัวคนของรัฐบาลไว้ได้เกินครึ่งแล้ว หากควบคุมประธานาธิบดีได้ ประเทศจีนก็จะตกอยู่ในมือของเขาทันที
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกสามตระกูลใหญ่ถูกเขากับโจวจือหยวนปั่นหัวให้ทะเลาะกันเอง แล้วเขาก็ฉวยโอกาสนั้นเข้าไปซื้อตัวผู้มีความสามารถเข้ามาอยู่ฝ่ายตระกูลหลี่
จากแผนการเดิมที่วางไว้ จะต้องรอจนกว่าประตูมิติของพวกสำนักโบราณเปิด จึงจะลงมือเคลื่อนไหว แต่อยู่ดีๆต้วนมู่เฉียนกลับต้องการให้ตระกูลหลี่ลงจะตำแหน่ง แล้วจะให้ตระกูลหลินขึ้นมาแทน
หลี่จุ้นโป๋ไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด โชคดีที่เกิดเหตุการณ์ในวันนี้ขึ้น เขาเลยถือโอกาสผลักเรือตามน้ำ ยุยงให้ต้วนมู่เฉียนกับหลินซูซินต้องสู้กันเอง เพื่อที่จะจัดการปิดบัญชีในครั้งเดียว
“ ท่านผู้นำครับ!...โจวจือหยวนถูกสังหารแล้ว มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังตรงไปที่การต่อสู้ของต้วนมู่เฉียนครับ ”
!!
“ นี่มัน…ชายคนนี้ต้องการจะทำอะไร หรือเขารู้แผนการณ์ของฉันงั้นเหรอ ” หลี่จุ้นโป๋พูดขึ้นด้วยความตกใจ
เขามองไปที่จอภาพการต่อสู้ของต้วนมู่เฉียนกับหลินซูซินอีกครั้ง
สิ่งที่อยู่บนจอคือทะเลเพลิงสีครามที่ลุกโชนท่วมฟ้า ตุ๊กตาหมีร่างยักษ์สูงเกือบพันเมตร บนตัวเต็มไปด้วยบาดแผลที่โดนเฉือนจากคมดาบมากมาย
จนร่างกายของมันซีดจางลงไปมาก ดูเหมือนใกล้จะสลายหายไปทุกที แต่ตอนนี้มันกำลังใช้โซ่สีดำหลายสิบเส้น ผูกมัดลูกบอลขนาดใหญ่ที่เกิดจากรังสีดาบนับหมื่นสายของต้วนมู่เฉียนเอาไว้
การต่อสู้คงใกล้ถึงจุดตัดสินแล้ว ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายคงสิ้นเปลืองพลังไปเกือบหมด
‘ ฉันไม่สามารถรอได้อีก…หากชายคนนั้นรู้ความจริงแล้วเข้าไปหยุดการต่อสู้ สิ่งที่ฉันทำมาตลอดหลายปีก็จะสูญสลายไป ตระกูลหลี่ของฉันต้องถูกกำจัดแน่นอน ’
ไม่มีเวลามาลังเลแล้ว…
“ BLASTER CANNON! ”
“ ยิงได้ ! ”
ลำแสงสีขาวขนาดใหญ่พุ่งเข้าใส่สนามต่อสู้ของพวกต้วนมู่เฉียน พริบตาเดียวก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง จนรู้สึกเหมือนภาพในจอสั่นไหวไม่หยุด
“ เป็นยังไงบ้าง… ” หลี่จุ้นโป๋ถามขึ้นอย่างคาดหวัง
“ ตรวจไม่พบสัญญาณชีพใดๆ ”
“ ยืนยันภารกิจ…เป้าหมายได้ถูกกำจัดแล้ว! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...