จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 90

ผ่านไปสองวันหลังจากที่เขาเริ่มฝึกกองกำลังส่วนตัว การพัฒนาความสามารถโดยรวมก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

วันนี้มีคนเข้าสู่ขอบเขตผู้เชี่ยวชาญถึง 12 คน จาก 130 คน ทั้งที่เพิ่งฝึกไปแค่สองวันเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือก็เป็นนักสู้ระดับ 9 กันหมดแล้ว ความหนาแน่นของปราณฟ้าดินเพิ่มขึ้นร้อยเท่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆจริงๆ

ส่วนเรื่องปัญหาของหวังซินหยางก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ฝึกนักรบวิญญาณเรียบร้อย

อีกทั้งหลินซูซินยังช่วยยกระดับวิญญาณนักรบของหวังซินหยางขึ้นเป็นจุดสูงสุดของระดับทองแดง ซึ่งเทียบเท่าปรมาจารย์ระดับสูง ทำให้ตอนนี้จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของหวังซินหยางอีก

สิ่งที่ทำให้จ้าวเทียนเป็นกังวลอยู่ในตอนนี้คือ โม่ซินหยานได้ขาดการติดต่อไปหนึ่งวันแล้ว โดยครั้งสุดท้ายที่เธอติดต่อกลับมาคือ เธอกำลังช่วยกลุ่มลูกศิษย์ทำภารกิจสุดท้ายให้องค์กร เพื่อที่จะได้เป็นอิสระ

สาเหตุที่เธอขาดการติดต่อไป อาจเป็นเพราะอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณ หรือไม่ก็ตกอยู่ในมือของศัตรู ซึ่งเรื่องนี้เขาได้ส่งคนออกค้นหาเบาะแสแล้ว

หากได้ข้อมูลแน่ชัดเมื่อไหร่เขาพร้อมลงมือทันที…

!!

บนท้องฟ้าสูงขึ้นไปประมาณหมื่นเมตร เครื่องบินรบรุ่นใหม่ล่าสุดกำลังลอยนิ่งอยู่เหนือคฤหาสน์ดาราสวรรค์พอดี

หืม

จ้าวเทียนเงยหน้ามองด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าผู้อาวุโสต้วนมู่จะส่งเครื่องบินรบมารับเช่นนี้

วูป!

ร่างของจ้าวเทียนบินหายไปบนท้องฟ้า ท่ามกลางสายตาเคารพบูชาของกองกำลังที่ฝึกฝนอยู่ พวกเขาต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจที่มีบอสเป็นถึงเซียนในตำนาน

เมื่อจ้าวเทียนเปิดประตูห้องโดยสารเข้ามา เขาก็รู้สึกทึ่งกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก มันช่างเป็นความขัดแย้งที่ดูลงตัวจริงๆ

ลองนึกภาพเครื่องบินรบลำใหญ่ที่ติดอาวุธหนักครบครัน ดีไซน์ด้วยโทนสีเทาดำลักษณะดุดันสมกับเป็นมัจจุราชแห่งท้องนภา

แต่สภาพภายในห้องโดยสารกลับคลับคล้ายเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวไม่มีผิด มันถูกตกแต่งอย่างหรูหราทันสมัย มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ตู้เย็นหรือแม้กระทั่งอ่างอาบน้ำ

ในโซนห้องครัวยังมีเชฟยืนประจำการอยู่หนึ่งคน สำหรับให้บริการด้านอาหารตลอดการเดินทาง ตรงโซฟารับแขกหรูหราที่หวังฝูหมิงนั่งรออยู่ ก็มีพนักงานต้อนรับสาวสวย3คน ยืนรอ

บริการอยู่อย่างมีมารยาท

เมื่อพวกเธอเห็นว่าจ้าวเทียนเดินเข้ามา ก็รีบมาจัดการเรื่องที่นั่งให้เขาทันที ทั้งเตรียมชุดเครื่องดื่มไว้ให้อย่างเรียบร้อย

“ สภาพร่างกายของเธอเป็นยังไงบ้าง…จากข้อมูลที่ฉันเพิ่งได้รับมาเมื่อชั่วโมงก่อน เรื่องในวันนี้จะมีศาสนจักรแห่งแสงเข้ามาเกี่ยวด้วย ”

“ คนพวกนี้รับมือยากกว่าพวกอเมริกาอีก…พวกเขาถือเป็นองค์กรศาสนาที่ลึกลับและมีอำนาจที่สุดในโลก จากที่สายลับของเราตรวจสอบมา คนพวกนี้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สำคัญต่างๆมากมาย ”

“ แม้แต่สงครามโลกทั้งสองครั้ง ก็เป็นฝีมือของพวกมัน ! ” หวังฝูหมิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

จ้าวเทียนขมวดคิ้วขึ้นทันทีเมื่อได้ยินชื่อศาสนจักรแห่งแสง เพราะจากรายชื่อยอดฝีมือนับร้อยทั่วโลกที่หวังฝูหมิงมอบให้ เกือบ 30% เป็นคนของศาสนจักรแห่งแสงทั้งสิ้น นั่นบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

“ วันนี้…ฝ่ายตรงข้ามมีใครมาบ้าง ” จ้าวเทียนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม

“ พวกที่มาทั้งหมด 5 คน…เป็นคนจากอเมริกา 3 คน โดยมีธันเดอร์เป็นผู้นำ ส่วนอีกสองคนคือสมาชิกทีมของเขา และนี่คือข้อมูลของพวกนั้น” หวังฝูหมิงพูดเสร็จก็ส่งเอกสารให้สองแผ่น

เมื่อจ้าวเทียนเห็นข้อมูลในเอกสาร เขาก็ถอนหายใจออกมาแล้วส่งมันคืนไปให้หวังฝูหมิง สมาชิกสองคนที่ตามธันเดอร์มาด้วยถูกจัดอยู่ในระดับ B เท่านั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาเขาเลยแม้แต่น้อย

ปัจจุบันนี้ทั่วโลกได้แบ่งระดับผู้มีพลังพิเศษออกเป็น 5 ระดับ หากเปรียบเทียบกันกับขอบเขตที่ใช้กันอยู่ในประเทศจีนก็จะเปรียบเทียบได้ดังนี้

ระดับ D เทียบเท่านักสู้

ระดับ C เทียบเท่าผู้เชี่ยวชาญ หรือรวมปราณ

ระดับ B เทียบเท่าปรมาจารย์ หรือปราณปฐพี

ระดับ A เทียบเท่าขอบเขตเซียน หรือ ปราณนภา

ระดับ S เทียบเท่าครึ่งก้าวเซียนนภา หรือปราณทิพย์

ตัวของจ้าวเทียนในตอนนี้ถูกจัดอยู่ในระดับ A ซึ่งจัดเป็นผู้แข็งแกร่งแนวหน้าของโลกนี้ได้เลย ด้วยความสามารถของเขาล้วนเป็นที่ต้องการของขุมกำลังใหญ่ๆทั่วโลก

รายชื่อที่หวังฝูหมิงมอบให้ในตอนแรกคือผู้มีพลังพิเศษระดับ A ขึ้นไป ที่อยู่ในประเทศต่างๆ นอกเหนือจากประเทศจีน ซึ่งมีเกือบ 100 คนเลยทีเดียว

“ เรื่องของอเมริกาไม่ค่อยน่าเป็นห่วง…ที่มีปัญหาจริงๆคือตัวแทนของศาสนจักรแห่งแสง สตรีศักดิ์สิทธิ์โซเฟียและผู้สืบทอดของเธอ ซิสเตอร์ออโรร่า ” หวังฝูหมิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

เขาลอบสังเกตจ้าวเทียนว่ามีท่าทีเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ฟังหรือไม่ แต่พอเห็นจ้าวเทียนไม่ได้มีท่าทีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย ก็พยักหน้าขึ้นอย่างชื่นชม

‘ ชายหนุ่มคนนี้ช่างเหมาะที่จะเป็นผู้สืบทอดของผู้อาวุโสต้วนมู่จริงๆ ’

“ จ้าวเทียน ผู้อาวุโสอ๋าวเฟิง ต้องการพบเธอ”

เสียงของหวังฝูหมิงทำให้จ้าวเทียนตื่นตัวทันที อ๋าวเฟิงคงเป็นชื่อของเจ้าของเกาะนี้ และเป็นผู้สร้างเขตแดนจิตวิญญาณวารี ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นคนจากบนแดนสวรรค์เช่นกัน

บนตึกสูงสิบชั้น ภายในห้องอันหรูหราที่อยู่ชั้นบนสุด หวังฝูหมิงและคนอื่นๆได้ถอยกลับไปหมดแล้ว อีกฝ่ายต้องการพบจ้าวเทียนเพียงคนเดียว

หลังจากที่เปิดประตูเข้าไป จ้าวเทียนก็พบกับโซฟาขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง จากนั้นก็เป็นชั้นวางหนังสือมากมายเรียงซ้อนกัน จนแทบจะไม่มีทางเดิน

สถานที่แห่งนี้ควรจะเรียกว่าห้องสมุดมากกว่าห้องทำงาน เพราะหากให้ลองประเมินดูคร่าวๆคงจะมีหนังสืออยู่เกือบหมื่นเล่มได้

“ เธอเองเหรอ…จ้าวเทียน รู้ไหมต้วนมู่เฉียนได้คุยโม้เรื่องของเธอให้ฉันฟังหลายอย่างเลย ” ชายชราชุดขาวพูดทักทายขึ้น เขาสวมชุดจีนโบราณ ไว้หนวดเครายาวถึงอก ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยร่องรอยประสบการณ์ชีวิต

!!

เมื่อได้พบกับชายคนนั้น จ้าวเทียนก็มีสีหน้าตกใจทันที เขาสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าที่คุ้นเคยจากแดนสวรรค์

‘ นี่มันร่างทิพย์…ไม่ผิดแน่ ’

‘ หืม…ต้นกำเนิดร่างทิพย์มาจากใต้ทะเลด้านล่างงั้นเหรอ ’

วูป

จ้าวเทียนกวาดสัมผัสวิญญาณลงไปในทะเลด้านล่างด้วยความลืมตัว สิ่งที่เขาทำแท้จริงแล้วไม่ค่อยเหมาะสม เหมือนเป็นการแอบส่องดูความลับต่อหน้าเจ้าของเลยทีเดียว

ลึกลงไปเกือบสองหมื่นเมตร ในที่สุดจ้าวเทียนก็พบกับเงาขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ด้านล่าง ซึ่งเกาะที่เขาอยู่ในตอนนี้มันมีขนาดเล็กกว่าเงานั้นมาก

รูปร่างของมันคล้ายกับตัวที่เขาพบตรงบ่อน้ำในเทือกเขาคุนหลุนมาก แต่เจ้าตัวนี้น่าจะใหญ่กว่าเกือบสองเท่า

‘ นี่มัน…มังกร ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน