ชาตินี้ ข้าไม่ขอรัก! นิยาย บท 5

บทที่ 5 เริ่มต้นก็ปวดหัวแล้ว

“ท่านพี่เมื่อเช้าท่านเพิ่งถูกตำหนิมาแต่หากท่านต้องการให้ท่านแม่ไม่สบายใจ ก็ออกไปเถิดข้าไม่ห้ามแล้วเจ้าค่ะ แต่ท่านโทษข้าไม่ได้หากข้าจะต้องเอ่ยความจริงกับท่านแม่ว่าท่านออกไปนอนที่เรือนหนังสืออีก ท่านพี่ข้าพูดโกหกไม่เป็นนะเจ้าคะ”

ไป๋จิ้งหานมีสีหน้าเดือดดาลอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งเห็นว่าเหยียนซือเหยียนทำดวงตาใสซื่อทว่าในใจคงกำลังเยาะหยันเขาอยู่ จึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเอาเสียเลย

ด้านเหยียนซือเหยียนนางชอบความรู้สึกนี้ยิ่งนัก ที่สามารถทำให้เขาอัดอั้นตันใจได้เพียงนี้

ดี เกลียดนางนักก็อยู่ด้วยกันตรงนี้ เกลียดให้ตายไปเลยข้างหนึ่ง

นางดักทางเขาเอาไว้หมดแล้ว เขาเพิ่งถูกท่านแม่ตำหนิเรื่องทิ้งเจ้าสาวมาในตอนเช้า หากว่าเขาไม่นอนในเรือนนี้อีกท่านแม่ต้องไม่สบายใจเป็นแน่

ไป๋จิ้งหานจะอยู่ก็รังเกียจ จะไปก็เกรงท่านแม่จะคิดมากและเป็นกังวล เขาจึงไร้ทางออกเพราะอึดอัด สุดท้ายได้แต่ถอนหายใจยาวออกมาเอ่ยเสียงสั่งการ

“ข้าต้องล้างหน้าถูฟัน เปลี่ยนอาภรณ์ก่อนเข้านอน”

เหยียนซือเหยียนล้มตัวลงนอนตะแคงมองเขาพร้อมเผยรอยยิ้มแต่ไม่คิดขยับไปไหน

“เจ้าได้ยินหรือไม่ ว่าข้าต้องทำสิ่งใด”

ไป๋จิ้งหานมองใบหน้างามที่เล็กเท่าฝ่ามือที่เอาแต่ยิ้มไม่วางตา นางยังสวมเพียงชุดตัวในห่มผ้าครึ่งเอวเผยให้เห็นเรือนรางอรชรอ่อนช้อย ผมยาวสยายยุ่งเหยิงเล็กน้อยให้ความรู้สึกงดงามแปลกตา

เหยียนซือเหยียนเอ่ยเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจ

“อยากทำสิ่งใดก็ทำสิเจ้าคะ ข้าไม่ได้มัดมือมัดเท้าท่านเอาไว้นี่”

ไป๋จิ้งหานกระแอมเอ่ยเสียงเข้มลงหลายส่วน ทั้งคิ้วกระบี่ก็ยิ่งขมวดมุ่นเข้าหากัน

“เป็นหน้าที่ภรรยาที่ต้องปรนนิบัติ เรื่องพื้นฐานเช่นนี้เจ้าไม่เคยรู้มาก่อนหรือ”

ไป๋จิ้งหานคนนี้เกิดมาในตระกูลสูงส่งและอยู่เคียงข้างฝ่าบาทมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาเคร่งครัดในขนบธรรมเนียมในเรื่องภรรยาต้องปรนนิบัติสามีไม่น้อยดังนั้นจึงกำลังคาดหวังว่านางจะปรนนิบัติเอาใจใส่สามีเช่นเขา

ถุ้ย! มารดามันเถิด!!!

เขาใจจืดใจดำกับนางเพียงนั้น ยังจะมาคาดหวังสิ่งใดจากนางอีก เหยียนซือเหยียนคนนี้ไม่ใช่คนเดิมที่จะคอยทุ่มเทให้เขาแล้ว นางจึงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย

เหยียนซือเหยียนเหยียดยิ้ม บัดนี้นางลุกขึ้นนั่งแล้วสองแขนกอดอกมองเขาอย่างไม่ยอมแพ้

เอาล่ะ นางจะตั้งใจเถียงเขาให้ดี ๆ เริ่ม!

“ข้าไม่เคยทำ อีกอย่างท่านก็ไม่ได้เป็นง่อยนี่ มีมือมีเท้าครบตอนออกรบก็ไม่เห็นต้องพึ่งพาผู้ใด ไยตอนนี้จึงได้เรื่องมากนัก อยากทำสิ่งใดก็ทำเองสิ หึ”

เมื่อถูกนางที่เป็นภรรยาตำหนิ แน่นอนว่าท่านโหวผู้สูงส่งเช่นเขาย่อมมีโทสะ

“เจ้าหาว่าข้าเป็นง่อยหรือ เหยียนซือเหยียนเจ้าคิดคำนี้ออกมาได้อย่างไร”

“ก็จริงหรือไม่เล่า อย่าเรื่องมากเลย ท่านพี่ข้าก็เป็นคุณหนูผู้หนึ่ง เกิดมาไม่เคยปรนนิบัติผู้ใด ท่านมีมือมีเท้าครบก็ทำเองเถิด”

“นี่คือหน้าที่ของภรรยา ก่อนออกเรือนที่บ้านไม่สั่งสอนเจ้าหรือ”

นางเบะปากมองบน

“สั่งสอน แต่ข้าทำไม่เป็นก็คือไม่เป็นเข้าใจหรือไม่”

“เหยียนซือเหยียน เจ้าจะมากไปแล้ว”

“สิ่งใดเรียกว่ามากกัน ข้าไม่ใช่บ่าวของท่านที่ได้รับเงินเดือนจากท่านนะ ข้าไม่ทำ ท่านก็เรียกบ่าวมาทำให้สิ เรื่องอันใดมาวุ่นวายกับข้า”

ไป๋จิ้งหานกอดอกมองนางเสียงแข็ง

“คืนนี้ที่นี่มีเพียงพวกเราสองคน ข้างนอกก็มีแค่ทหารยามเดินไปเดินมา เจ้าจะให้ข้าไปตามบ่าวที่พักผ่อนแล้วหรือ ถึงจะเป็นเจ้านายคนก็ต้องรู้จักละอายบ้าง ส่วนเจ้าแต่งเข้าเป็นภรรยาก็ต้องรู้จักปรนนิบัติสามี”

เหยียนซือเหยียนเถียงคำไม่ตกฟาก

“ข้าไม่ละอาย ข้าอยากเรียกเวลาใดก็เรียก ส่วนท่านที่หวังให้ข้าปรนนิบัติก็ฝันไปเถิด เกลียดข้ามากเพียงนั้นไยข้าต้องปรนนิบัติท่านด้วย อ๊ะ หรือว่าท่านชอบข้าแล้ว เช่นนั้นก็บอกข้าสักคำสิว่าท่านชอบข้า ข้าจะทำให้”

ไป๋จิ้งหานถูกบังคับให้บอกรักคนที่เขาไม่คิดรักมาก่อน จึงอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยเสียงหนักลอดไรฟันออกมา

“เหยียนซือเหยียน นี่เจ้าคิดเอาคืนข้าหรือ”

นางยกมุมปากหยันเอ่ยเสียงหนัก ๆ เช่นกัน

“ก็แล้วแต่จะคิด”

“เจ้าแต่งกับข้าเพื่อสิ่งใดกันแน่ ข้าอยากรู้นักไยจึงเป็นฮูหยินที่ดื้อรั้นเช่นนี้”

เหยียนซือเหยียนกลับเอ่ยยั่วเย้าให้คนบังเกิดโทสะ

“ที่แต่งเพราะข้ารักท่านอย่างไรเล่า รักมากจนโง่งม หึ ข้ามันเสียสติไปแล้วที่รักท่าน!”

ไป๋จิ้งหานจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา เห็นได้ชัดเจนว่านางกำลังประชดเขาอยู่

“ปากบอกว่าชอบข้ารักข้า เช่นนั้นไยจึงไม่ปรนนิบัติ”

“ก็ข้าขี้เกียจนี่ ข้าเป็นสตรีที่แยกแยะความรู้สึกได้ รักคือรัก เกลียดคือเกลียด ขี้เกียจก็คือขี้เกียจ เพราะขี้เกียจข้าจึงไม่อยากปรนนิบัติท่าน”

บทที่ 5 1

บทที่ 5 2

บทที่ 5 3

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชาตินี้ ข้าไม่ขอรัก!