ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 120

ในตอนที่ทุกคนกำลังประหลาดใจว่าเพราะเหตุใดถึงได้มีน้ำไหลลงมาอยู่นั่นเอง ก็ได้พบว่าบนแท่นดอกไม้ที่แต่เดิมไม่มีความพิเศษอันใด บัดนี้ได้มีปลาคราฟค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมาในน้ำ

ปลาคราฟแต่ละตัวต่างมีชีวิตชีวา ภายใต้ความปั่นป่วนของกระแสน้ำ พวกมันส่ายหัวสะบัดหางอยู่บนแท่นดอกไม้

ผู้คนจำนวนมากต่างพากันทนไม่ไหวและมาที่ราวบันได ชะโงกหน้ามองลงไปยังแท่นดอกไม้ อยากจะดูว่าปลาคราฟพวกนั้นเป็นของจริงหรือของปลอมกันแน่

อานผิงอ๋อง ได้ชะงักงันไปนานแล้ว เขาเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้แล้วว่า ในราชวงศ์ต้าลี่มีคนมากความสามารถอยู่จำนวนมาก แต่ผู้ที่มีความสามารถจริง ๆ กลับหาได้น้อย อย่างมากก็ทำได้แค่พวกมายากลที่มักใช้กันอยู่ในยุทธภพเท่านั้นเอง แม้ว่าตอนที่เห็นจะดูมหัศจรรย์ แต่เมื่อมองความลับที่ซ่อนอยู่ด้านในออก ก็จะรู้สึกเฉย ๆ เท่านั้น

แต่สิ่งที่เฟิงฉิ้นหว่านทำออกมาในวันนี้ ช่างทำให้คนอึ้งทึ่งประหลาดใจเสียจริง

เห้อเหลียนฉางเซิงไม่ใส่ใจฐานะของตนเองเลยสักนิด เขาได้พิงลงไปบนราวบันไดตั้งนานแล้ว แทบอยากจะชะโงกครึ่งตัวออกไปนอกราวบันได

ในตอนที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดพิจารณาดูว่าแท้จริงแล้วเป็นเครื่องกลชนิดใดกันแน่อยู่นั่นเอง ปลาคราฟสีแดงตัวหนึ่งก็ได้กระโดดขึ้นมาจากฝืนน้ำ กระโดดลอยทวนน้ำขึ้นไปตามน้ำตกที่ไหลลงมาจากเพดานโค้ง

ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง: “เริ่มขึ้นแล้วอย่างนั้นรึ?”

“กระโดดเร็ว! สู้ ๆ!”

เมื่อเห็นปลาคราฟจมอยู่ในน้ำ หลายคนต่างได้แสดงความเป็นห่วงเป็นใยจากใจจริงออกมา

“น้ำไหลเชี่ยวเกินไปแล้ว......”

เห้อเหลียนฉางเซิงกำหมัดแน่น เห็นว่าปลาคราฟกำลังจะลอยทวนน้ำขึ้นมาได้สูงประมาณชั้นสอง กระแสน้ำพลันไหลเชี่ยวยิ่งขึ้น ปลาคราฟร่วงดังจ๋อมลงไปบนแท่นดอกไม้อีกครั้ง

“ว้า!”

ทุกคนล้วนอุทานออกมาโดยไม่รู้ตัว ต่างก็รู้สึกเสียดายยิ่งนัก

“ท่านชายฉิน ข้าต้องการปลาคราฟตัวที่กระโดดสู่กระแสน้ำในเมื่อสักครู่ให้อยู่ภายใต้ชื่อของข้า ด้วยเงินจำนวน......ห้าร้อยตำลึง”

หวางจื้อหยวนตบเท้าและลุกขึ้นมา: “แค่ห้าร้อยตำลึงเจ้ายังคิดจะเอาออกมาอีก ข้าจ่ายหนึ่งพันตำลึง ท่านชายฉิน ข้าถูกโฉลกกับสีแดงยิ่งนัก ปลาคราฟสีแดงตัวนั้นกล้าหาญมีความเป็นผู้น้ำ แม้ว่าจะไม่สำเร็จ แต่มีความกล้าหาญยิ่งนัก นิสัยคล้ายกับข้าที่สุด เจ้าจะต้องมอบปลาคราฟตัวนั้นให้ข้านะ”

“นายท่านหวาง แบบนี้ไม่ถูก ท่านชายฉินได้พูดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เงินมากน้อยไม่สำคัญ ใครเลือกก่อนก้เป็นของคนนั้น ท่านจะจ่ายมากแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์”

เฟิงฉิ้นหว่านพยักหน้า: “กฎเป็นเช่นนั้นจริง นางลี่ บันทึกลงไปให้ละเอียดว่านายท่านท่านใดจ่ายเท่าไหร่เลือกปลาคราฟตัวไหน พอถึงตอนนั้นแล้วจะต้องมอบของเหล่านี้ให้ใต้เท้าจ้าวทั้งหมด”

หลายคนที่ลงมือช้าไปต่างรู้สึกหงุดหงิด คนที่เลือกปลาคราฟก่อนคนแรกจะต้องเป็นที่ประทับใจและจดจำเอาไว้ของใต้เท้าเจ้าแน่นอน เหตุใดพวกเขาถึงไม่คว้าโอกาสเอาไว้เล่า?

ดังนั้นหลายคนต่างก็ไม่ยอมที่จะพลาดโอกาสอีก ต่างก็พากันแย่งชิงกัน

เห้อเหลียนฉางเซิงรีบวิ่งเข้าไปหาอาผิงหวาง: “เสด็จพ่อ ข้ายังมีเงินแต๊ะเอียเหลืออยู่เท่าไหร่ขอรับ? ข้าจะเอามันออกมา ข้าก็อยากได้ปลาคราฟตัวหนึ่งเหมือนกัน!”

“ในเมื่อฉางเซิงชอบ เช่นนั้นก็ไปเลือกปลาคราฟสักตัว หากว่าเงินไม่พอ เสด็จพ่อจะเพิ่มให้เจ้าเอง”

ทว่าเพียงไม่กี่อึดใจ ปลาคราฟทั้งสามสิบตัวก็ได้ถูกแย่งกันจนหมด

เห้อเหลียนฉางเซิงกำลังครุ่นคิดอยู่ว่าจะพูดกับเฟิงฉิ้นหว่านอยางไรดี พึ่งชั่วพริบตาไม่ว่าจะมีเงินมากแค่ไหนก็ซื้อปลาคราฟไม่ได้แล้ว พลันทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาทันที และหันไปมองอานผิงอ๋อง จู่ ๆ ดวงตากลมโตก็คลอไปด้วยน้ำตา

อานผิงอ๋อง ทนเห็นท่าทางเช่นนี้ของบุตรชายตนเองไม่ได้จริง ๆ มองเห็นเฟิงฉิ้นหว่านเดินเข้ามา จึงรีบเอ่ยขึ้นทันที: “ท่านชายฉิน ยังมีปลาคราฟที่ยังไม่มีเจ้าของเหลืออยู่หรือไม่? ฉางเซิงบุตรชายของข้าอยากจะได้สักตัว

เฟิงฉิ้นหว่านมองไปทางเห้อเหลียนฉางเซิง และกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “ที่ข้ามาที่นี่ ก็เพราะมีของขวัญบางอย่างจะมอบให้กับคุณชายน้อย

เห้อเหลียนฉางเซิงรีบเพดินมาตรงหน้าเฟิงฉิ้นหว่าน มือเท้าทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะวางเอาไว้ตรงไหนดี: “พี่ชาย ท่านมีของขวัญอะไรจะมอบให้ข้าหรือ? ท่านให้อะไรข้าก็ชอบทั้งนั้น”

ดูท่าจะต้องรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในหลินผิงให้ท่านชายได้รับรู้โดยเร็วแล้ว เพราะไม่มีท่านชายคอยกำกับดูแล เฟิงฉิ้นหว่านที่ไม่เกรงกลัวใด ๆ ช่างทำให้คนรู้สึกสะพรึงกลัวยิ่งนัก

เฟิงฉิ้นหว่านพิจารณาดูสีหน้าท่าทางของแขกที่มาร่วมงานอย่างละเอียด จากนั้นไม่นานนัก สายตาก็ได้เหลือบมองไปที่หยุนเลี่ยว

ภายนอกท่านชายสามของตระกูลหยุนผู้นี้ได้แสดงท่าทีเป็นกังวลปลาคราฟออกมา ทว่าในความเป็นจริงสายตาของเขากลับไม่เคยเลื่อนจากตำแหน่งที่อานผิงอ๋อง และจ้าวยี่อยู่เลยสักนิด ดูท่าต้องหาเวลาประมือกับเขาสักหน่อยแล้ว

การแสดงปลาทะยานข้ามประตูมังกรในครั้งนี้กินเวลาไปหนึ่งชั่วยามเต็ม ๆ สุดท้ายแล้วมีปลาคราฟสามตัวที่สามารถขึ้นสู่ยอดได้สำเร็จ ทำให้เกิดเสียงร้องโห่ไชโยดังกึกก้องขึ้นมาในหอหญิงงามเมือง

เสียงร้องโห่ไชโยดังลอยออกไปไกล ผู้คนที่อยู่ในหอชมจันทราทนไม่ไหวขึ้นมาในทันที

เกิดเรื่องอะไรขึ้นในหอหญิงงามเมืองกันนะ? พวกเขาจะลองไปดูหน่อยดีไหม?

หลายคนที่ได้มีความคิดเช่นนั้นและเคลื่อนไหวในทันที แต่กลับได้ถูกขวางเอาไว้ที่ด้านนอกหอหญิงงามเมือง: ตอนจากไปเมื่อก่อนหน้านี้ไม่อาลัยอาวรณ์เลยสักนิด ตอนนี้อยากจะเข้าไป ไม่มีทางเสียล่ะ!

การแสดงปลาทะยานข้ามประตูมังกรได้จบลง ภายในใจของทุกคนกลับรู้สึกยังไม่เต็มอิ่มสักเท่าไรนัก

“การแสดงในวันนี้ช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ!”

ไม่นาน เฟิงฉิ้นหว่านก็ได้จัดเตรียมหญิงสาวที่อยู่ในหอ ให้นำปลาคราฟไปมอบให้ทุกคนตามรายชื่อที่ได้บันทึกไว้

แม้ว่าปลาคราฟจะถูกเช็ดจนเกือบแห้ง แต่ก็ยังเหลือร้อยน้ำอยู่ แต่ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นกลับไม่ได้ใส่ใจ และรับเอามาเก็บไว้ด้วยความทะนุถนอม

เมื่อมีปลาคราฟในมือ นั่นเป็นหลักฐานว่าตนได้ทำความดีลงไป ไม่แน่ว่าอาจใช้มันสร้างเป็นสะพานสัมพันธ์กับใต้เท้าจ้าวได้ก็เป็นได้

สมกับที่เป็นหอหญิงงามเมืองจริง ๆ ระดับแตกต่างกับที่อื่นโดยสิ้นเชิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ