ชายาบุปผาซ่อนพิษ นิยาย บท 87

หลังจากเฟิงฉิ้นหว่านพูดจบ ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับบรรดาเถ้าแก่ครู่หนึ่ง ไม่ได้อยู่นานเท่าใดนัก นางลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

ทุกคนรีบล้อมฉินฮั๋วเหนียนเอาไว้: “ท่านฉิน แม้ว่าคุณหนูอยากจะมอบประโยชน์ให้กับพวกเรา แต่ของพวกนี้ยากจะรับเอาไว้ได้ พวกเราทุกคนล้วนติดตามท่านนายใหญ่ จะทนเห็นแก่นแท้ของตระกูลเฟิงถูกทำลายได้อย่างไร?”

ฉินฮั๋วเหนียนส่ายหน้า : “ในเมื่อคุณหนูรับสั่งเช่นนี้แล้ว พวกท่านก็ทำตามที่คุณหนูสั่งเถอะ”

“ท่านฉิน คุณหนูอายุยังน้อย ไม่เข้าใจความร้ายแรงของเรื่องนี้ เงินหลายหมื่นตำลึงคิดจะตกรางวัลให้ก็ให้เช่นนี้ แต่ท่านฉินรู้ดี ทุกย่างก้าวของตระกูลเฟิง ล้วนลำบากยิ่งนัก ไม่อาจทำลายรากฐานของตระกูลเช่นนี้ได้!”

“ก่อนหน้านี้พวกท่านมุ่งมั่นกับการรับมือจินหมิง ไม่มีเวลามาสนใจสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของนครหลินผิง หากมีเวลาพวกท่านก็ลองไปสืบเสาะฟังดู” ฉินฮั๋วเหนียนทอดถอนหายใจ “มีเพียงคุณหนูอยู่ แม้ตระกูลเฟิงของเราจะไม่เหลือเงินแม้เพียงตำลึงหนึ่ง รากฐานของตระกูลก็ยังคงมั่นคงยิ่งนัก”

“เรื่องนี้......” พวกเขายิ่งฉงนสงสัยมากขึ้น หลังจากฉินฮั๋วเหนียนเดินออกไป พวกเขาก็รีบไปถามคนในท้องถนน เมื่อได้ฟังถึงกับตกตะลึงอยู่นานไม่อาจดึงสติกลับมาได้

ฉินฮั๋วเหนียนเดินออกไปจากร้านขายวัตถุโบราณ รถม้าของเฟิงฉิ้นหว่านยังคงรออยู่ ฉินฮั๋วเหนียนยืนอยู่ข้างหน้าต่างรถม้า สีหน้าของเขายามที่มองเฟิงฉิ้นหว่านเคล้าไปด้วยความดีใจ: “คุณหนูโตแล้ว วันนี้ใช้ความกรุณาและความน่าเกรงขามร่วมกัน ทำให้พวกเถ้าแก่ไม่กล้าล่วงเกินอย่างแน่นอน”

“ต้องขอบคุณท่านอาฉินที่ให้ความร่วมมือ”

“ข้าไม่ได้ทำอะไร ทั้งหมดเป็นความหลักแหลมของคุณหนู ทั้งยังมีหลักฐานการติดต่อกันของเถ้าแก่หวูและเกาหนาน แค่ว่าคุณหนู ต้องแบ่งเงินทองมากมายเหล่านั้นให้พวกเขาจริงๆ หรือขอรับ”

“ท่านอาฉิน หากข้ายกเงินมากมายเช่นนั้นให้ท่าน ท่านจะรับไว้หรือไม่?”

“ข้าจะรับเงินทองมากมายเหล่านั้นไว้ทำไม สู้เอาเงินเหล่านั้นช่วยให้ตระกูลเฟิงพัฒนาไปอีกขั้นยังจะดีเสียกว่า”

“ใช่ ท่านอาฉินหวังดีต่อข้าจริงๆ หวังดีต่อตระกูลเฟิง แม้ข้าจะยกเงินมากมายเหล่านั้นให้ท่าน ท่านก็ไม่มีวันรับไว้”

ฉินฮั๋วเหนียนชะงักเล็กน้อย : “คุณหนูจะใช้เงินเหล่านั้นทดสอบพวกเถ้าแก่หรือขอรับ?”

“ใจคนและสันดานคนไม่อาจทดสอบได้ แน่นอนว่าข้าก็ไม่มีวันทำเช่นนี้ ข้าไม่ได้ใส่ใจเงินห้าหกหมื่นตำลึงเหล่านั้น แต่ข้าจำเป็นต้องใช้เงินห้าหกหมื่นตำลึงนี้ มาทำความเข้าใจหลักการทำงานและนิสัยใจคอของเถ้าแก่พวกนั้น”

เฟิงฉิ้นหว่านยิ้มบางๆ

“คุณหนู ข้ายังคงไม่เข้าใจ?”

“สินค้ามูลค่าหกหมื่นตำลึง เวลานี้ขับเคลื่อนเพียงเล็กน้อย หาได้มากหน่อยโดยไม่ต้องเปลืองแรง ก่อนหน้านี้ข้าให้พวกเถ้าแก่และคนงานนำเงินไปแบ่งกันเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เกี่ยวข้องกับหลายอย่าง”

ฉินฮั๋วเหนียนคล้ายตระหนักได้ถึงบางอย่าง : “หาเงินอย่างไร หาแล้วแบ่งกันเช่นไร หลังจากแบ่งกันเสร็จแล้วจะรับประกันได้อย่างไรว่าทุกคนล้วนพอใจ เชื่อมโยงกับหลายสิ่งจริงๆ ขอรับ”

เฟิงฉินหว่านพยักหน้า: “บวกกับสินค้าเหล่านั้นปะปนกันหมดแล้ว เดิมทีส่งไปแต่ละร้านค้า โดยมากใกล้เคียงกันพอแล้ว เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายก็ต้องรวมเป็นบัญชีเดียวกัน แต่เวลานี้สินค้าเปลี่ยนเป็นเงิน ทั้งยังสามารถนำเข้ากระเป๋าตนเอง บรรดาเถ้าแก่ควรจะทำเช่นไร?”

ฉินฮั๋วเหนียนครุ่นคิด สูดอากาศเย็นเข้าไป หากเป็นคนทั่วไป ไม่แน่ว่าการกระทำเช่นนี้ของคุณหนูอาจจะทำให้ว้าวุ่นได้ แต่เขาเชื่อใจเถ้าแก่พวกนั้น

“คุณหนู คนพวกนั้นไม่มีวันทำให้คุณหนูผิดหวังแน่นอนขอรับ”

เฟิงฉินหว่านชะงักเล็กน้อย: “ข้าเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น ต่อจากนี้ต้องให้ท่านอาฉินคอยจับตาดู ข้อต้องการทุกการกระทำของพวกเขา ยิ่งละเอียดยิ่งดี เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงจะช่างน้ำหนักบรรดาเถ้าแก่ได้ดียิ่งขึ้น”

“คุณหนูวางใจเถอะ ข้าจะจับตาดูพวกเขาอย่างดีขอรับ”

“อืม”

เฟิงฉิ้นหว่านนั่งรถม้ากลับไป นางเดินทางได้ไม่ไกล ก็มีเสียงโวยวายดังขึ้นด้านหน้า

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

หยุนชีรีบจอดรถม้า: “คุณหนูขอรับ ใต้เท้าจ้าวพาคนไปจำลองเหตุการณ์สังหารหลี่หยวนขอรับ”

เฟิงฉิ้นหว่านเปิดม่าน มองทางเดินด้านหน้า

ทั้งสองข้างทางมีเจ้าหน้าที่ยืนขวาง ชาวบ้านมากมายต่างมามุงดู

“ไปกันเถอะ”

“ขอรับ”

กระโปรงยาวสีฟ้าครามบริสุทธิ์ ด้านบนถักร้อยด้วยดอกลิลลี่สีขาว ขับให้นางงดงามยิ่งนัก เมื่อมองไปแล้ว รู้สึกมีชีวิตชีวาอย่างไม่สิ้นสุด

เฟิงฉินหว่านเห็นจ้าวยี่ รีบลุกขึ้นทำความเคารพ ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มบางๆ : “น้อมทำความเคารพใต้เท้าจ้าวเจ้าค่ะ”

“แม่นางเฟิงไม่ต้องมากพิธี” สีหน้าของจ้าวยี่เคร่งขรึมกว่าปกติมาก “ข้าน้อยน้อมทำความเคารพท่านชาย”

“ใต้เท้าจ้าวนั่งเถอะ นี่คือบันทึกปากคำของคนตระกูลฉือ ใต้เท้าจ้าวอ่านก่อน”

จ้าวยี่รับมา แล้วเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว เขาขมวดคิ้วเป็นปม: “คนตระกูลฉือเองก็ไม่รู้ว่าดอกฝิ่นอยู่ที่ใดกันแน่?”

“ใช่ พวกเขาเพียงรับผิดชอบปลูกเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการขนส่งและแปรรูปในภายหลัง” แววตาของฟู่ลั่วเฉินหม่นหมองลงเล็กน้อย องค์ชายสามระมัดระวังยิ่งนัก ไม่แปลกที่ผ่านมานานเช่นนี้แล้วยังไม่มีพิรุธแม้แต่น้อย

“หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เบาะแสก็ขาดหายไม่ใช่หรือ?”

“อืม”

สีหน้าของจ้าวยี่ฉายความกังวล: “แต่พวกเราทำไปมากมายถึงขั้นนี้แล้ว สุดท้ายก็เจอเพียงหอเซียวเซียงจุ๋นที่เดียว ไม่รู้ว่าในที่ลับจะมีหญิงสาวบริสุทธิ์มากมายเพียงใดถูกทำร้าย ช่างน่าเจ็บใจเหลือเกิน”

สีหน้าของฟู่ลั่วเฉินก็ไม่สบอารมณ์เช่นเดียวกัน แต่เขากวาดมองไปที่เฟิงฉิ้นหว่าน: “เจ้ามีความคิดอะไรหรือไม่?”

เฟิงฉิ้นหว่านจิบน้ำชาช้าๆ เมื่อได้ฟังนางก็รีบวางถ้วยชาลง: “ท่านชาย ข้าไม่ค่อยมีความเข้าใจเรื่องนี้เท่าใดนัก ไม่มีความคิดอะไรดีๆ เลยเจ้าค่ะ”

ฟู่ลั่วเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย: “เจ้าควรจะรู้ทุกอย่างไม่ใช่หรือ?”

สีหน้าของเฟิงฉิ้นหว่านฉายความแปลกใจ จากนั้นกะพริบตาปริบๆ : “เหตุใดท่านชายจึงเข้าใจข้าผิดเช่นนี้?”

ฟู่ลั่วเฉินถอนสายตากลับมา: “เบาะแสจากทางตระกูลฉือขาดหาย แต่ถึงอย่างไรก็ทำให้องค์ชายสามหวาดกลัว ทำให้เขาไม่กล้าทำการบุ่มบ่ามเฉกเช่นในอดีต หลังจากนี้ทำได้เพียงค่อยๆ สืบเท่านั้น”

จ้าวยี่พยักหน้าด้วยความเจ็บใจ “ท่านชาย ทางเมืองหลวงส่งจดหมายมาเร่งให้ท่านชายกลับไปแล้ว ท่านชายจะออกเดินทางเมื่อใดขอรับ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ