คนเช่นนี้จะคู่ควรกับเสด็จอาที่ฉลาดห้าวหาญและสง่าผ่าเผยของเขาได้อย่างไร!
ด้วยเหตุนี้สายตาของหยุนจวินหงจึงเปลี่ยนไปแล้วก็เปลี่ยนอีก จนในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นสายตาที่เฉยเมยขึ้นมา!
แน่นอนว่าเซี่ยจินอานได้สังเกตเห็นความเฉยเมยที่หยุนจวินหงมีต่อนางแล้ว ภายในใจจึงรู้สึกงงงันอยู่เล็กน้อย
นางไม่พูดอะไรเลยสักคำ ทำไมท่าทางของเด็กสาวคนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปมากขนาดนี้!
เมื่อไม่กี่วันก่อนยังตะโกนเรียกนางว่าน้องเซี่ยอยู่เลย ชั่วพริบตาก็แสดงสีหน้าที่ไม่สู้ดีเช่นนี้ออกมาเสียแล้ว!
หยุนจวินหงชักสายตาที่กำลังพิจารณาเซี่ยจินอานอย่างถี่ถ้วนกลับมา แล้วมองไปยังหยุนฝู้เฉินและพูดว่า "เสด็จอา แม่นางจากตระกูลเซี่ยผู้นี้มีชื่อเสียงฉาวโฉ่และบุคลิกลักษณะไม่น่าเชื่อถือจริงๆ ทักษะทางการแพทย์ของน้องเซี่ยที่ข้าพบเจอเมื่อไม่กี่วันก่อนไม่เลวเลยจริงๆ ไม่สู้เสด็จอาให้เขาลองมาตรวจอาการสักหน่อยจะดีกว่านะขอรับ"
หยุนฝู้เฉินเหลือบมองหยุนจวินหงด้วยสายตาที่ซับซ้อนมากเลยทีเดียว
หลานชาย เจ้าจะรู้ไหมว่าคนที่เจ้ารังเกียจกับคนที่เจ้าเลื่อมใสศรัทธาเป็นคนคนเดียวกัน?
เซี่ยจินอานก้มศีรษะลงและกลั้นหัวเราะเอาไว้ ถ้าหากวันหนึ่งตัวตนของนางถูกเปิดเผยขึ้นมาล่ะก็ ช่างเป็นการตบหน้าตัวเองแท้ๆ
"ในใจของข้ารู้ดีว่าอะไรควรหรือไม่ควร" หยุนฝู้เฉินพูดอย่างเคร่งขรึม
หยุนจวินหงรู้ตัวว่าความคิดของหยุนฝู้เฉินผู้นี้ไม่สามารถเปลี่ยนผันได้ เขาก็เลยไม่พูดเน้นย้ำอะไรอีกต่อไปแล้ว แต่กลับพูดอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาว่า
"เสด็จอา ท่านรู้ไหมว่าน้องเซี่ยอยู่ที่ไหน?"
"ข้าไม่รู้" หยุนฝู้เฉินพูดอย่างหน้าไม่แดงหายใจไม่หอบ
"อ้าว" หยุนจวินหงพูดด้วยน้ำเสียงผิดหวังเล็กน้อย "เดิมทีข้าอยากคุยกับเขาเรื่องเด็กพวกนั้นสักหน่อย การตามหาญาติเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสิ้นเปลืองเวลาเป็นอย่างมาก และเด็กเหล่านั้นก็ไม่สามารถรั้งอยู่ที่นั่นตลอดเวลาเพื่อรอให้ใครมาพบได้ ข้าจึงอยากตามหาน้องเซี่ยเพื่อหารือว่าจะจัดเด็กพวกนั้นอย่างไร"
เมื่อเซี่ยจินอานได้ยินคำพูดประโยคนี้ ภายในใจของเขาก็สั่นไหว และความคิดแบบเด็กๆก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขา
หยุนฝู้เฉินเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดว่า "ถ้าข้าได้พบกับนางอีกครั้ง ข้าจะบอกนางให้นะ"
"ข้าอยากจะรับเด็กพวกนั้นมาอยู่ในความดูแลก่อน แล้วค่อยสอนให้พวกเขาเรียนรู้เรื่องเภสัชวิทยาเจ้าค่ะ" เซี่ยจินอานพูด
แต่เซี่ยจินอานไม่ได้พูดความคิดของตัวเองให้จบ นางไม่เพียงแต่อยากจะสอนเด็กๆเรียนรู้เรื่องเภสัชวิทยาเท่านั้น แต่ยังต้องการให้เด็กๆเหล่านี้เรียนวิชาแพทย์ด้วย เช่นนี้ไม่ว่าต่อจากนี้ไปพวกเขาจะถูกญาติรับไปเลี้ยงดูหรือไม่ พวกเขาทุกคนก็จะได้มีวิชาติดตัวไว้เลี้ยงชีพสักหนึ่งวิชา
สิ่งที่สำคัญที่สุดในแผนภาพแห่งอนาคตในใจของนางก็คือ นางต้องการให้มีเด็กเช่นนี้สักกลุ่ม เด็กที่เข้าใจทฤษฎีทางการแพทย์ จนถึงขั้นเป็นคนที่เข้าใจทฤษฎีทางการแพทย์สมัยใหม่เลยทีเดียว!
"จะยืมเท่าไหร่?"
ภายในดวงตาของเซี่ยจินอานเป็นประกาย อันที่จริงนางเตรียมใจที่จะถูกปฏิเสธเอาไว้แล้ว เพราะถึงอย่างไรนางก็เคยถูกปฏิเสธมาก่อน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจู่ๆเขาก็ไม่ปฏิเสธนาง! นางคิดว่าเขาก็คงสงสารเด็กพวกนั้นเช่นกันอย่างแน่นอน
"ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่จากการประมาณการของข้ามันก็อาจจะต้องใช้เงินสักหนึ่งล้านตำลึง!" พอเซี่ยจินอานพูดคำพูดสุดท้ายจบในใจของนางก็ไม่มีความฮึกเหิมแล้ว นางจึงแอบเหลือบมองไปที่ดวงตาของหยุนฝู้เฉิน เพื่อสังเกตดูว่าเขาโกรธหรือไม่
เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆอยู่นาน ด้วยเหตุนี้เซี่ยจินอานจึงพูดรับประกันออกไปว่า "แต่ท่านวางใจได้ เงินหนึ่งล้านตำลึงนี้ข้าจะคืนเงินให้ท่านภายในห้าปีนี้อย่างแน่นอน!"
หยุนฝู้เฉินยกสายตาขึ้นไปมองเซี่ยจินอานและพูดว่า "ตกลง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาหมอเซี่ยจินอาน
น่าติดตาอ่าน แต่ตอนหลัง จบคือจบ ขอขอบคุณที่สรุปให้...
ทุกคนไม่ต้องเสียอารมณ์ที่ตัดจบแบบนี้เข้าไปดูเรื่องนี้ในแอปเสียตังค์แล้ว...ตัดจบแบบนี้เหมือนกัน...
เรื่องนี้สนุกมากก ทั้งความฟิน ตลก ไม่ปวดตับ แต่เสียตรงที่ตอนจบ ตัดจบง่ายไป ยังมีหลายอย่างที่ไม่กระจ่าง 1. พระเอกหน้าเป็นยังไง? ทำไมต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา หน้าตาไม่ดี? เป็นแผลเป็นบนใบหน้า? หรือเกิดจากปมอะไร 2. ครอบครัวของเซี่ยจินอาน น่าจะมีบรรยายต่ออีกหน่อย สมควรได้รับกรรมมากกว่านี้ 3. เสิ่นหลีซู องค์หญิง และหมอผู้หญิงที่ชอบพระเอก ควรบรรยายว่าจะมีจุดจบเป็นแบบไหน 4. จุดจบของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน...
กำลังลุ้นอยู่ดีๆ ตัดจบจนปวดใจ แต่ก็ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ...
จบแบบรีบไปหน่อยเลยหรือเปล่า....สุกมาตั้งแต่ต้น..น่าจะแปลข้ามฟากไปเลยอ่ะ...
เป็นเรื่องที่สนุก เนื้อเรื่องตลก น่ารักดี แต่ตอนจบคือหักมุมจบแบบง่ายเกินไปหน่อยนะคะ...