ตอนที่ 160 รีบเร่งดั่งธนู
นางรีบวิ่งพุ่งเข้าไปในห้อง ตาของนางมองไปยังด่องห้วนที่กำลังทนทุกข์ทรมาน และรีบวิ่งไปหาเขา
“พี่......ห้วน...... เจ้าไม่เป็นไรใชหรือไม่?” ด่องหย่าซบเข้าไปในอ้อมกอดของเขา ร้องไห้ไปพูดไปจนฟังไม่ชัดเจนเลยว่าพูดอะไรอยู่แต่หลังจากที่เห็นแผลบนแขนของนาง จึงร้องไห้ขึ้นอย่างหนัก “แขนของเจ้าเป็นอะไรไป? ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้? ข้าไม่เอา ข้าไม่เอาแบบนี...... พระชายา โปรดช่วยห้วนหน่อย!”
โล่หวินหลานลำบากใจจนจับกระบาลไว้ ทีแรกด่องห้วนตื่นขึ้นมาโวยวายขึ้นมา ตอนนี้ด่องหย่าก็พุ่งเข้ามา ยิ่งทำให้เรื่องมันวุ่นวายมากขึ้น
นางเห็นบาดแผลถูกล้างไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว จึงรีบจับตัวด่องหย่าไว้
“ข้ากำลังรักษาด่องห้วนอยู่ แค่ยาชาและยาสลบได้หมดฤทธิ์แล้ว ดังนั้นเขาจึงจะตื่นขึ้นมา อาหย่า เจ้าออกไปก่อน ด่องห้วนต้องไม่เป็นอะไร!” โล่หวินหลานไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ ได้แค่จับนางออกไปก่อนค่อยว่ากัน
“ไม่เอา ไม่เอา ไม่เอา ข้าจะอยู่ที่นี่คอยอยู่เคียงข้างห้วนพระชายาให้ข้าอยู่ที่นี่เถอะนะเจ้าค่ะ?” ตาของด่องหย่าแดงบวม และเสียงฟังดูแหบและเศร้า
ท่าทางของนางตอนนี้ทำให้ยากที่จะขับไล่นางให้ออกไป โล่หวินหลานเป็นคนใจอ่อนง่าย และนางก็ได้จ้องมองโม่ฉีหมิงไว้เพื่อถามความคิดเห็นของเขา
โม่ฉีหมิงเดินไปถึงข้างหน้าของด่องหย่า และกดเสียงต่ำลง “ด่องหย่า เจ้าออกไปก่อน เจ้าอยู่นี่จิตใจของด่องหย่าก็ไม่สงบนิ่ง หวินหลานไม่สามารถทำการรักษาอย่างมีสติ”
คำพูดของเขาเหมือนหิมะหนาวเย็นที่ลอยอยู่บนอากาศ หูที่ได้ยินเสียงเขาของด่องหย่าเหมือนกำลังเกาะตัวด้วยน้ำแข็ง นางพยามกัดริมฝีปากของตัวเองเพื่อหยุดร้องไห้ และเริ่มต่อต้านอย่างไม่มีประโยชน์ “แต่ว่าห้วนเขา.......” ยังไม่ทันได้พูดจบนางก็กำลังเดินถอยออกมาด้วยความกลัวและตกใจในเสียงของเขา
“ที่นี่มีแค่โล่หวินหลานอยู่ก็พอ เจ้าอยู่ที่นี่พวกเราไม่สามารถรวบรวมสติได้” โม่ฉีหมิงใช้คำพูดที่รุนแรง
เขาใช้สายตาที่ดูเยือกเย็นมองด่องหย่า และจ้องมองนางไม่กระพริบตา และนางยังคงทำสีหน้าลังเล
และคนที่นอนอยู่บนเตียงก็ได้เอ่ยปากพูดขึ้น “อาหย่า เจ้า เจ้าออกไปก่อน ข้า ไม่เป็นไร......”
เขาก็ไม่อยากให้นางเห็นสภาพเขาตอนนี้ เพราะว่าสภาพที่ดูเจ็บปวดของเขาตอนนี้มันดูไม่ดี เขาอยากให้นางเห็นมุมของเขาแข็งแกร่งและกล้าหาญมากกว่า
ด่องหย่ายังคงลังเลไม่ยอมไปไหน และกัดริมฝีปากของตนก้าวเข้ามาข้างหน้า “ห้วน......”
“ออกไป!” น้ำเสียงของด่องห้วนเริ่มจริงจังขึ้นมา สายตาที่ดูเย็นชามองด่องหย่า และหันหน้าไม่มองนางอีก
ด่องหย่าเลยรีบขยับฝีเท้าแล้ววิ่งออกไปตรงประตู
“พระชายา ต่อเลยขอรับ” ด่องห้วนยื่นแขนตรงและกัดฟันพยายามไม่ดู
“เจ้า ทนไหวหรือไม่?” สีหน้าของโล่หวินหลานกลับมาเย็นชาตอนที่ทำการผ่าตัดอีกรอบ
ด่องห้วนตอบกลับอย่างไม่คิด “ทนไหวขอรับ”
เขาทนไหว แค่กลัวคนข้างนอกจะทนไม่ไหว เขาไม่เคยใช้เสียงที่จริงจังและเสียงดุขนาดนี้ใส่ด่องหย่า นางน่าจะร้องไห้อยู่ข้างนอก!
เขาไม่ดีเอง เขาไม่ได้เรื่องเอง และทำให้นางเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเขายิ่งใหญ่กว่านี้ ยิ่งใหญ่มากกว่านี้......
ความเจ็บปวดที่มาจากการผ่าตัดค่อยๆทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว แขนเจ็บจนไม่มีความรู้สึกแล้ว
โม่ฉีหมิงเอาขิงหั่นเป็นแผ่นจากมือบ่าวอัดเข้าไปในปากของเขา รสชาติของขิงค่อยๆทำให้เขาได้ลิ้มรส อารมณ์ที่อ่อนแอของเขาถูกรสชาติของขิงกระตุ้นให้เข้มแข็งมากขึ้น กลิ่นและรสที่กินยากของขิงกระตุ้นต่อมรับรสของเขา ทำให้เขามีชีวิตชีวามากขึ้น......
แขนของเขาไม่มีความรู้สึกแล้ว.......ร่างกายของเขาค่อยๆทรุดลง เหมือนกำลังจะทรุดลงไปถึงที่สุด
โล่หวินหลานรีบทำแผลให้เขา สุดท้ายใช้ผ้าพันแผลพันแขนของเขา ผ้าพันแผลสีขาวพันรอบแขนของเขารอบแล้วรอบเล่า เหมือนรากบัวที่พึ่งเด็ดมา
“นี่ นี่ก็จะเสร็จแล้วหรือ?” สุดท้าย เขาสัมผัสได้ถึงโล่หวินหลานได้หยุดการกระทำไป ด่องห้วนหันหน้าไปมองแขนที่ถูกผ้าพันไว้ดั่งรากบัวและถามขึ้น
“ไม่น่าจะมีความผิดปกติอะไรอีก” โล่หวืนหลานหันไปเช็ดมีดผ่าตัดของนาง แล้วค่อยๆพูดขึ้น “ข้าได้ผ่าเนื้อร้ายที่อยู่บนแขนของเขาจนสะอาด พิษร้ายทั้งหมดถูกชำระและจะไม่เข้าไปกระดูกของเขาอีก แค่ว่าเนื้อที่อยู่บนแขนอาจจะเกิดใหม่ได้ช้า วันหน้าอย่ายกดาบหรือแขว่งมีด หรือยกของหนัก เข้าใจไหม?”
ยิ่งพูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของด่องห้วนยิ่งรู้สึกไม่ดี เขาใช้สายตาที่เย็นชามองแขนฝั่งซ้ายของเขา พูดขึ้นอย่างกัดฟันและรู้สึกเกลียด “เกิดเป็นลูกผู้ชาย มือถืออะไรไม่ได้ และบ่าแบกอะไรไม่ได้ เขาจะเรียกว่าผู้ชายหรือ?ต้องโทษแขนของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกมัน ด่องห้วนก็ไม่ถึงกับมาถึงจุดๆนี้?”
ยิ่งพูดน้ำเสียงของเขายิ่งฟังแล้วไม่สบาย “ถ้าเป็นแบบนี้ข้าไม่เอามันจะดีกว่า”
โล่หวินหลานกำลังทำความสะอาดเข็มยาวๆของนาง หันหลังไปเจอด่องห้วนกำลังหาอะไรบางอย่าง และเขาก็จับกรรไกรที่แหลมคมไว้กำลังจะแทงลงแขนของตนเอง และตามด้วยเสียงหัวใจที่เต้นรัวๆ ร่างของโม่ฉีหมิงเลยรีบพุ่งเข้าไปต่อหน้าเขาอย่างฉับไว และรีบเตะกรรไกรออกจากมือของเขา
โล่หวินหลานจับแขนเขาไว้ และหยุดการกระทำที่ใจร้อนขนาดนี้
“ด่องห้วน เนื้อของเจ้าจะเกิดขึ้นใหม่ แขนซ้ายไม่สามารถจับดาบจับมีด แต่เจ้ายังมีแขนขวาอยู่ แค่เจ้ามีใจที่สู้ ไม่มีใครจะขัดขวางเจ้าให้ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ ที่สำคัญก็คือขึ้นอยู่กับตัวเจ้าเอง” โล่หวินหลานพูดขึ้นอย่างรุนแรง
ช่วยชีวิตของเขาให้รอด ทำไมเขาถึงต้องตอบแทนด้วยการทำร้ายตัวเองแบบนี้
โล่หวินหลานถอนหายใจเบาๆ เพราะว่าการผ่าตัดเมื่อครู่ทำให้หน้าผากของนางเต็มไปด้วยเหงื่อและเรียกไปจนถึงเส้นผม ทำให้นางดูเหมือนเหนื่อยและลำบากมากๆ คิ้วของนางตกลง และคิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน สื่อให้เห็นว่าทนไม่ได้และกำลังโกรธ
ไม่เจ็บจริงๆ วีรบุรุษไม่กลัวเจ็บ
“ไม่เจ็บก็ดี นอนอยู่บนที่นอนอย่าขยับ ข้าจะมาทำแผลให้ยาเจ้าตามเวลา” โล่หวินหลานเก็บของตนเอง กำชับของเขาเสร็จก็เดินออกจากห้องไปกับโม่ฉีหมิง
ฟ้าข้างนอกค่อยๆมือมัวลง ก้อนเมฆที่ดูครึ้มกำลังกลบทับหลังคาไว้ ผนังและหลังคาสีมืดกลมกลืนไปกับฟ้าอันมืดครึ้ม ดูๆแล้วแยกไม่ออกจริงๆ มีแค่ที่ๆเต็มไปด้วยหิมะปกคลุมที่มองเห็นอย่างชัดเจน เหมือนเกล็ดหิมะที่ล่องลอยอยู่บนครึ่งฟ้า
ข้างๆมีคนยื่นมือมารับตลับยาไป และดักตัวนางไว้
“หิวหรือยัง? ข้าได้สั่งให้ทางครัวเตรียมอาหารที่เจ้าชอบ เราไปกันเถอะ” โม่ฉีหมิงโอบนางเดินไปถึงตำหนักหลัก
“ฉีหมิง เจ้านี่แหละที่เข้าใจข้ามากที่สุด” โล่หวินหลานพูดออกมาด้วยความดีใจ และซบเข้าไปตรงกลางอกของเขา
มุมปากของโม่ฉีหมิงกระตุกขึ้นเป็นทรงโค้งโดยไม่รู้ตัว และเขายังคงเสียงที่นิ่ง “นอกจากข้า แล้วยังมีใครที่เข้าใจเจ้า? และยังมีใครที่เหมือนดั่งข้า?”
พวกเขากำลังเดินผ่านทางโค้งของระเบียงยาว และพยักหน้าขึ้น “ใช่ๆๆๆ เจ้าเข้าใจข้าที่สุด”
นางโอบแขนเขาไว้แน่นๆ และเหยียบหิมะบนพื้นเข้าไปในตำหนักหลัก เข้าไปถึงประตูก็เห็นเย่หวินที่ทำสีหน้าที่ดูแย่ก็ยืนอยู่ตรงกลาง เหมือนนางยังคงหมกมุ่นอยู่กับสถานการณ์เมื่อครู่
“เย่หวิน เจ้าดีขึ้นหรือยัง? ต้องให้ยาเจ้าไปกินหน่อยไหม? โล่หวินหลานเดินไปต่อหน้านาง
เย่หวินยิ้มด้วยความอาย “ดีขึ้นเยอะเลยเจ้าค่ะ ขอบพระคุณพระชายาที่เป็นห่วง”
ชีวิตนี้สิ่งที่นางกลัวที่สุดก็คือหิมะ ของเน่าเสีย และแมลง ในเวลาเดียวกันกับเจอสองสิ่งที่กลัวพร้อมกัน เป็นเรื่องที่รับไม่ได้
แค่ว่าฉากเมื่อกี้ทำให้อับอายขายขี้หน้ามาก นางเป็นตั้งบ่าวคุ้มครองและติดตามพระชายาตลอดเวลา แค่เห็นเนื้อเน่าก็อาเจียนออกมา!
“ดีขึ้นเยอะเลยหรือ...... เมื่อครู่ที่ข้าตัดเนื้อเน่าที่แขนของด่องห้วนยังอยู่ที่นั่น ไม่เยี่ยงนั้นเจ้าเอาพวกมันไปฝังไว้หลังเขาไหม?” โล่หวินหลานก้าวเดินเข้าไปใกล้และพูดขึ้นอย่างเสียงต่ำ เสียงของนางเต็มไปด้วยความซุกซนเกเร
“เอื้อ......” เย่หวินปิดปากตนเองไว้ สองตาของนางเริ่มแดง เหมือนกำลังจะอาเจียนออกมาอีกรอบ และส่ายหัวให้โล่หวินหลาน “พระชายา.......”
โม่ฉีหมิงเดินเข้ามาจับแขนนางไว้ และพูดกับฉิ่นหยินที่อยู่ข้างหลังของเขา “จิ่นหยิน เจ้าไปดูแลเย่หวิน”
คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเหมือนกำลังทำตาร้องไห้ เหมือนไม่ได้แสดงความรู้สึกอะไรออกมา ในใจและนัยน์ตาเต็มไปด้วยเงาคนที่กำลังปิดปากตนไว้ เป็นห่วงเป็นใยนางตั้งนานแล้ว ตอนนี้โม่ฉีหมิงพูดขึ้น เขาก็รีบพุ่งเข้าไปหานางอย่างไม่รีรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก