ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 166

ตอนที่ 166 ความรักที่เต็มเปี่ยม

ทั้งคู่เหยียบไปที่หิมะอีกครั้ง ด้วยส่วนสูงที่แตกต่าง และราศีที่แตกต่าง

“สาเหตุการตายของฮูหยินสี่ เรื่องนี้เจ้าน่าจะรู้ดีกว่าข้า อีกทั้งเย่กั๋วกงเองก็รู้ดี ตอนนั้นเจ้ายืนอยู่ข้างท่านเย่กั๋วกงเจ้าน่าจะเดาได้ ข้ามั่นใจในตัวเองเกินไป แต่ว่าเรื่องที่เจ้าเดาได้ กับสิ่งที่ข้าสืบได้มันไม่เหมือนกันตรงไหน?” รัชทายาทพูดออกมาทุกอย่างอย่างไม่กลัว

โม่ฉีหมิงสีหน้าไม่เปลี่ยน ฝีเท้าการเดินของเขาหนักแน่น

“พี่ใหญ่ท่านสืบออกมาได้แล้วไม่ใช่หรอ? แล้วจะมาถามข้าเพื่ออะไร?” รัชทายาทรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร เขาอยากให้เขาพูดออกมาให้หมดก่อนแล้วถึงจะพูด

“ตอนนั้นข้าได้รับบัญชาจากเสด็จพ่อให้ตามสืบเรื่องนี้ แต่ว่าทุกครั้งที่ข้าเจอเบาะแสบ้างแล้ว หากไม่ใช่มีคนตั้งใจมาตัดช่องทางของข้าก็จะต้องมีคนมาขวาง สุดท้ายเบาะแสนั้นก็จะหายไปสืบต่อไม่ได้อีก ข้าเลยเปลี่ยนวิธี ลงมือจากจวนตระกูลเย่”

“แต่ว่าทำยังไงคนของตระกูลเย่ก็ไม่ยอมเอ่ยปากพูดอะไรเลย จนกระทั่งวันนั้นที่ข้าเห็นเวินอ๋องกับเย่กั๋วกงอยู่ด้วยกัน ก็รู้ทันทีว่าพวกเขามีแผนร่วมกัน ส่วนน้องสี่ ที่ข้าอยากจะพูดก็คือว่า คนที่รู้เบาะแสมาก่อนหน้านี้แล้วคือเจ้าใช่ไหม” สายตาของรัชทายาทดุดัน

เรื่องราวก็เป็นแบบนี้ โม่ฉีหมิงเงยหน้ามองท้องฟ้า

“พี่ใหญ่ท่านพูดมาตั้งมากมายแต่ท่านยังไม่ได้พูดถึงกลุ่มคนที่ลงมือเลยนะว่ามันเป็นใคร ใครกันที่อยากจะสังหารฮูหยินสี่ แล้วเป้าหมายของพวกเขาคือเย่เซียวหลัวหรือเปล่า” โม่ฉีหมิงมองไปที่รัชทายาท สายตาแบบนี้เหมือนฮ่องเต้เจียเฉิงมาก ทำให้รัชทายาทรู้สึกหวาดกลัว

“ในเมื่อเจ้าก็รู้หมดแล้ว ทำไมเจ้าถึงไม่พูดล่ะ?” รัชทายาทยิ้ม พยายามสงบใจ “ที่ข้าอยากจะรู้ก็คือ ครั้งนี้ เจ้าวางแผนให้ข้าเข้าไปตกหลุมพรางเจ้ายังไง”

รัชทายาทเคยตกหลุมพรางมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาจะไม่มีทางเป็นอย่างนั้นอีก ครั้งนี้เขาต้องการถามให้แน่ใจ ต่อให้ถามไม่ได้อะไร เขาก็จะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน

โม่ฉีหมิงค่อยๆยิ้มขึ้นมา เขาพูดว่า “พี่ใหญ่ ครั้งนี้มันเป็นเรื่องของการเมือง แคว้นเซิ่งโจวส่งคนมาแพร่พิษแล้ว หากไม่จับคนพวกนั้นให้ได้ ผลที่ตามมาข้าไม่อยากจะคิดเลย ภารกิจยากลำบากขนาดนี้มีเพียงพี่ใหญ่เท่านั้นที่จะทำสำเร็จได้ หากมีอะไรให้ช่วย น้องชายคนนี้จะช่วยเต็มที่”

พูดจบ โม่ฉีหมิงก็ออกจากประตูวังหลวงไปก่อน

เงาของคนที่รูปร่างสูงใหญ่สลับกับหิมะก่อให้เกิดเงาขึ้นสองเงา

เมื่อมองไปที่หลังของเขา รัชทายาทกำหมัดแน่น สายตามีแต่ความแค้น

ภายในห้องหนังสือของจวนสวินเงียบสนิท แม้แต่เสียงเข็มสักเล่มหล่นก็ไม่ได้ยิน

สายตาแปดดวงกำลังจ้องกันแน่น

“พระชายา เดิมข้าตั้งใจจะหาโอกาสไปบอกกับท่านแล้วก็ท่านอ๋อง แต่ว่าช่วงนี้เกิดเรื่องไม่หยุด เลยไม่มีโอกาสจะพูด ข้าไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังท่านเลย” สวินโม่ปกป้องคนคนหนึ่งที่รูปร่างบอบบาง

น้ำเสียงที่ดูร้อนรนออกมาจากปากของเขา เหมือนกับว่าจะทำให้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นั้นเป็นไปให้ได้ โล่หวินหลานจ้องไปอย่างคาดไม่ถึง

“เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่?” โล่หวินหลานพูด สายตาของนางมีรอยยิ้ม

สวินโม่เหมือนเด็กที่ถูกจับได้ เขาก้มหน้า รับผิด “วันที่สามหลังจากที่ข้าไล่นางไป”

โล่หวินหลานแกล้งโมโหแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง หยิบน้ำชาขึ้นดื่ม นางแอบยิ้ม “เรื่องมันเป็นมายังไง เล่ามาให้ละเอียด”

สวินโม่มองไปที่คนที่อยู่ด้านหลัง ในใจของเขากังวลมาก เหมือนหากจะให้พูดเรื่องนี้อย่างละเอียดมันลำบาก

เขาพูดอย่างเขินๆว่า “พระชายา เรื่องมันเป็นอย่างนี้นะ ตอนนั้นข้าไล่หรูซูไปเพราะข้าคิดว่าในใจข้ามีแต่ยี่ย่าง ต่อมาข้าถึงได้รู้ว่าหรูซูกับยี่ย่างไม่เหมือนกันเลย ยี่ย่างเป็นคนในความทรงจำของข้า ส่วนหรูซูคือคนที่อยู่ในใจข้าเป็นคนที่ข้ารัก ข้าก็เลยไปตามหานาง”

ตอนนั้นสวินโม่ยืนยันที่จะให้หรูซูจากไป นางยังคิดอยู่ว่าเขาคงไม่น่าจะไปตามหาหรูซูกลับมาแล้ว แต่สุดท้ายมันกลับไม่เหมือนที่นางคิดเลย คนที่มีหัวใจความรู้สึกทุกคนไม่มีทางปล่อยมือไปง่ายๆ

“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากับหรูซูก็ถือว่ามีวาสนาต่อกัน แต่ว่า ...... หรูซู เจ้ายังเป็นคนของรัชทายาทหรือเปล่า?” โล่หวินหลานขมวดคิ้วแล้วมองไปที่หรูซูที่ดูเหมือนผู้หญิงมากขึ้น

เมื่อถามถึงฐานะของหรูซู โล่หวินหลานพอจะรู้ ดูจากสถานการณ์ของพวกเขาสองคน หรูซูก็น่าจะกลายเป็นของสวินโม่ไปแล้วแน่นอน นางแค่กลัวสวินโม่จะถูกความรักบังตา แยกแยะอะไรไม่ได้

ฝีเท้าของเขาดูนิ่งสุขุม สายตาของเขามองมาที่โล่หวินหลาน ทั่วทั้งร่างกายแพร่ความมีสง่าราศีของความเป็นอ๋อง

หรูซูรีบหลบตา นางเดินถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว ยังไม่ทันได้ขยับอะไรมาก ไหล่ของนางก็ถูกจับ เมื่อหันหลังกลับไปก็เห็นก็เห็นสวินโม่ที่ยืนนิ่งอยู่

“ฉีหมิง เจ้ามาแล้วหรอ” โล่หวินหลานรู้ว่าเขาต้องมาหานางแน่นอน รู้สึกตกใจนิดหน่อย

สายตาของโม่ฉีหมิงเหมือนกำลังส่งสัญญาณเตือน เขามองไปที่นางแล้วก็นั่งลงข้างๆนาง

เขากวาดสายตาไปมองด้านหลังของสวินโม่ เมื่อเห็นหรูซูก็ไม่ได้ตกใจอะไรมาก แล้วก็หันกลับมามองโล่หวินหลาน

“บอกให้เจ้าอยู่ที่จวนไม่ใช่หรือไง? แล้วทำไมออกมาคนเดียวแบบนี้?” เขาเหมือนจะโมโห

“ไม่ได้ออกมาคนเดียวสักหน่อย เย่หวินก็อยู่นี่ด้วย” โล่หวินหลานมองไปที่เย่หวิน

เมื่อพูดจบ เย่หวินก็รู้สึกเหมือนโดนสายตาอันแหลมคมจ้องมา นางก้มหน้าไม่กล้ามองโม่ฉีหมิง

เห็นเขาสีหน้าไม่ค่อยจะดี แล้วจ้องไปที่เย่หวิน โล่หวินหลานคิดไม่ถึงว่าคำพูดง่ายๆของนางจะทำให้เย่หวินกลัวได้ขนาดนี้ นางก็เลยเปลี่ยนประเด็น

“ฉีหมิง เจ้ารู้หรือเปล่าเดือนหน้าสวินโม่กับหรูซูจะแต่งงานกันแล้วนะ คิดไม่ถึงตอนนั้นพวกเขายืนยันจะไปจากกัน แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว” โล่หวินหลานยิ้ม

โม่ฉีหมิงมองไปที่ทั้งสองคนอย่างนิ่งๆ สายตาของเขาเหมือนจะบอกว่าหรูซูนางเคยเป็นคนของรัชทายาทมาก่อน ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ใช่แล้ว แต่ว่าในใจของนางก็รู้ดีว่า โม่ฉีหมิงเป็นหมิงอ๋องที่ใครต่างเกรงขาม ไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆแน่นอน

“งั้นหรอ?” โม่ฉีหมิงพูดอย่างเรียบเฉย แต่ว่ามีคนหยิกเขาจากด้านหลัง มือเล็กๆนั่นไม่ได้ใช้แรงมาก เขาขมวดคิ้ว แล้วยื่นมือไปจับมือของนางเอาไว้

แล้วหันไปจ้องหน้าโล่หวินหลาน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก