ตอนที่ 174 ยาถอนพิษปรากฎขึ้น
ท่ามกลางบรรยากาศความมืดในทางลับ มีเสียงฝีเท้าที่ไม่คาดคิดดังขึ้น มีคนบางคนทำให้หลายคนตกใจอย่างเหลือหลาย
ทางเดินได้ครึ่งทางแล้ว โม่ฉีหมิงไม่มีทางยอมแพ้ยังคงใช้โอกาสเดินต่อไปข้างหน้าอย่างไม่ลดละ แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้โล่หวินหลานกลับเพียงลำพัง ถึงจะอยู่ในสถานะไม่ยินยอม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ทำไมไม่ปรากฏตัวให้เร็วกว่านี้? ไม่รู้หรอว่าข้างในอันตรายขนาดไหน?”โม่ฉีหมิงกล่าวเสียงเย็นนัยน์ตายังคงตำหนิมองไปที่นาง น้ำเสียงไม่ค่อยดีนัก แต่มือใหญ่กลับจับตัวโล่หวินหลานไม่ห่างตัว
พอโล่หวินหลานรู้ว่าเขายินยอมที่จะให้ตนเองตามไปด้วย นัยน์ตาก็เต็มไปด้วยความดีใจ “ความจริงข้าจะปรากฏตัวนานแล้ว แต่ข้าเห็นพวกเจ้ากำลังยุ่งเรื่องกลไกเปิดปิดอยู่ที่กำแพง ก็เลยไม่อยากรบกวนพวกเจ้า ตอนหลังจะปรากฏตัว พวกเจ้าก็กระโดดลงมาในทางลับนี่แล้ว ก็เลยตามหลังพวกเจ้ามาต่อ”
เหมือนกับว่าคิดไว้อยู่แล้วโล่หวินหฃานจะพูดอะไร โม่ฉีหมิงเลยไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่กระชับโอบเอวนางแน่นขึ้นแล้วเดินต่อไปข้างหน้า
ผ่านเรื่องราวมามากขนาดนี้ เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าหากโล่หวินหลานจะทำอะไรนางก็ต้องทำให้ได้ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ไม่สามรถเปลี่ยนความคิดนางได้ ตรงนี้นางมีความเหมือนเขามาก เพราะฉะนั้น พวกเขาได้เลือกกันและกันแล้ว ก็จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีก
พอคิดถึงตรงนี้ โม่ฉีหมิงก็ค่อยรู้สึกดีขึ้น มุมปากยกยิ้มขึ้นมาเหล่ตามองร่างเล็กด้านข้าง หัวใจเต็มตึกตักไปมารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“ทางลับนี้ยาวกว่าที่คิด มันจะไปโผล่ที่ไหนหรอ?” โล่หวินหลานถามด้วยสายตาฉงนสงสัย
ทางด้านหน้ายิ่งเดินยิ่งมืด ทางยิ่งเดินยิ่งลึกขึ้นเรื่อยๆ เสียงหยดน้ำรอบตัวก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ความชื้นที่ใต้ฝ่าเท้ายิ่งอยู่ยิ่งชัดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โล่หวินหลานรู้สึกใจเต้นตึกตักรัวดั่งกลอง
“ถ้ากลัวก็กอดข้าไว้แน่นๆ ตรงนี้ปลอดภัยมากนะ ถึงจะไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหน แต่หากมองจากเสียงน้ำใต้เท้าที่กำลังย่ำอยู่ น่าจะไปโผล่ที่ริมแม่น้ำที่ไหนสักแห่ง” โม่ฉีหมิงกล่าวขึ้นเสียงเรียบ ประสบการณ์ที่เขาสั่งสมมาไม่ผิดเป็นแน่
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้คือ เหตุใดกลุ่มคนพวกนั้นถึงรู้ว่าตรงนี้มีทางผ่านลับ หรือทางเข้าลับแห่งนี้จะเป็นพวกเขาเป็นคนขุดเจาะขึ้นมาเอง หากเป็นเช่นนั้น จุดมุ่งหมายของพวกเขาก็ชัดเจนแล้วล่ะ
“ริมแม่น้ำ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะเดินไปโผล่ในแม่น้ำหรอ?”
ในเมื่อพูดมาแบบนี้แล้ว แต่ว่าในในใจนางก็ไม่มีความกลัวแม้แต่น้อย รืออาจจะเป็นเพราะมีโม่ฉีหมิงคอยอยู่เคียงข้าง
“อาจจะใช่ อาจจะไม่ใช่ ด้านข้างเป็นลำธารน้ำไหล ทางลับอาจจะแค่ไปโผล่ริมแม่น้ำก็ได้” โม่ฉีหมิงพูดอย่างเรียบเฉย
เรื่องนี้ต้องไม่ง่ายอย่างที่เขาคิดไว้แน่ๆ ทางหลับแห่งนี้พิสูจน์ถึงอะไร ตอนนี้เขาคิดคาดการณ์อะไรไม่ออกเลย แต่คนที่รู้เกี่ยวกับความลับแห่งนี้ไม่ได้ถูกเวินอ๋องสังหารให้ตาย แต่หลบลอดผ่านทางลับนี่ไป ตอนนี้เขากล้ามั่นใจว่า ทางลับนี่ใช้สำหรับหลบรอด
พอเดินได้สักพัก แสงสว่างจากปลายปากทางได้ส่องกระทบแยงตาทุกคน แสงสว่างที่ลอดเข้ามาทำให้ทางลับแห่งนี้สว่างไสวไปหมด เหมือนกับแสงสว่างจากสวรรค์มาโปรดคนบาปก็ไม่ปาน
“พวกเราถึงแล้ว” โม่ฉีหมิงพูดจบ ทั้งตัวของเขาก็รุดเดินนำไปข้างหน้าเรียบร้อยแล้ว กำแพงอันหนาแน่นหนายิ่งกว่าหินอิฐที่ใช้ก่อสร้างทำกำแพงทั่วไป ลำพังใช้แค่มือดันไม่มีทางพังทลายง่ายๆแน่
“ก็ยังคงใช้กลไกอีกสินะ ทางเข้ากับทางออกก็มีกลไกเปิดปิด” โม่ฉีหมิงพูดขึ้นโดยใบหน้าเรียบเฉย
แล้วจึงจุดไม้ขีดไฟขึ้น แสงจากไม้ขีดไฟสว่างขึ้นมาน้อยๆลวกกับแสงสว่างจากภายนอกสาดกระทบร่างของทั้งสาม ทุกคนช่วยกันคลำจับตามกำแพง
กลไกเปิดปิดส่วนมากมักอยู่ตามบริเวณนี้ หากไม่เป็นอย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ว่าจะออกแบบวางไว้ที่อื่นเป็นแน่ ในที่สุด มือของเขาก็ไปจับโดนอะไรบางอย่างที่โผล่พ่นออกมาจากกำแพง เขาค่อยๆใช้มือหมุนสิ่งนั้น
“เปิดแล้ว” โล่หวินหลานมองก้อนอิฐบนหัวที่ค่อยๆขยับออก อดไม่ได้ที่จะทึ่งกับสิ่งประดิษฐ์ของคนสมัยโบราณเสียจริง ในสมัยนี้ยังมีกลไกเปิดปิดที่คิดค้นขึ้นเอง
“หวินหลาน เจ้าเดินไปก่อน” โม่ฉีหมิงค่อยๆคลายมือออก พูดกับโล่หวินหลานอย่างมั่นคง
เขาใช้แรงจากมือทั้งสองข้าง โล่หวินหลานเหมือนกับถูกเหวี่ยงไปด้านบน สองมือของนางรีบคว้าก้อนหินด้านข้างอย่างวุ่นวาย ร่างกายเหมือนมีแรงของเขาคอยดันขึ้นไป ทำให้นางยืนบนพื้นได้สำเร็จ
พื้นที่กว้างใหญ่ด้านบนที่นางยืนอยู่ทำให้นางอดตกใจไม่ได้ เป็นไปตามคาดของโม่ฉีหมิง ทางลับแห่งนี้ไปโผล่อีกทางของแม่น้ำด้านหนึ่งระหว่างใต้ต้นหยางหลิว บริเวณโดยรอบเป็นหิมะที่กว้างขวาง ใครจะไปคิดถึงว่าด้านล่างของที่แบบนี้จะมีทางลับ
โล่หวินหลานมองไปซ้ายทีขวาที กำลังจะยื่นมือไปดึงคนข้างล่างขึ้นมา แต่โม่ฉีหมิงกับฉีหมิงก็ใช้วรยุทธ์กระโดดขึ้นมาคนหนึ่งนำมาอีกคนตามหลังมา ยืนบนพื้นดิน
“เป็นไปตามคาด ที่นี่เป็นทางลับเขื่อมมาแคว้นเซิ่งโจว ที่ที่พวกเรายืนอยู่เป็นทางแยกของนอกเมือง ทางหนึ่งไปทางทิศตะวันออกไปแคว้นเซิ่งโจว อีกทางหนึ่งใช้ไปแคว้นโม่ฉี ดูแล้ว พวกที่ถูกเวินอ๋องสังหารคงหลบหนีไปหมดแล้ว” โม่ฉีหมิงยิ่งพูด เสียงยิ่งขรึมขึ้นเรื่อยๆ
ความลับที่ถูกเปิดปมนี้ การวางแผนหลบหนีนี้ คนทั่วไปไม่สามารถคิดได้เป็นแน่ เวินอ๋อง นอกจากเขา โม่ฉีหมิงคิดไม่ออกจริงๆว่าเป็นใครคนไหนอีก ความสามารถระดับนี้
“กลุ่มคนที่เวินอ๋องสังหารล้วนเป็นคนของแคว้นเฉิงตาน เหตุใดถึงยังจะให้พวกเขาใช้ทางลับนี่หลบหนีด้วยล่ะ? หรือ......เวินอ๋องร่วมมือกับคนพวกนั้น ตั้งใจให้พวกเขาหลบหนีไปได้?” สีหน้าสงสัยของโล่หวินหลานยิ่งอยู่ยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ นางคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าเวินอ๋องจะทำเรื่องอย่างนี้ได้
“ให้เจ้ารอนานแล้ว เรื่องตรวจสอบถึงไหนแล้ว?” โม่ฉีหมิงก้าวเท้ายาวเดินเข้ามา ชุดคลุมสีน้ำเงินปักด้วยด้ายดิ้นสีทองช่างงามตายิ่งนัก ทำให้ทั้งตัวของเขาดั่งมีแสงรัศมีบางอย่างโพยพุ่งออกมา โบยบินท่ามกลางอากาศ
“ท่านอ๋อง หลายวันมานี้ข้าค้นหาตำราโบราณอย่างหนัก ลำพังแค่เปรียบเทียบยาพิษที่วางไว้บนเนื้อที่ตายแล้ว และดูจำนวนเชื้อโรค บวกกับคำแนะนำเพิ่มเติมจากหวังเฟย ในที่สุดก็พบปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลง” สวินโม่เปิดกล่องกำมะหยี่ในมืออธิบายอย่างเปิดเผยต่อหน้าทุกคน
“ผลเป็นอย่างไร?” โม่ฉีหมิงนั่งหลังตรงฟังผล สายตาเพ่งมองไปยังกล่องกำมะหยี่อย่างมุ่งมั่น
“ท่านอ๋อง เชิญมองกล่องกำมะหยี่” สวินโม่ถือกล่องกำมะหยี่ขึ้นมา ค่อยๆนำกุญแจมาเปิดออก รอจนกล่องเปิดอ้าออก ของที่อยู่ด้านในปรากฏแก่สายตาทุกคนที่อยู่ในห้อง
ในในกล่องกำมะหยี่เหลืองอร่าม เหมือนกับได้เปิดสมบัติล้ำค่าอะไรสักอย่าง รอจนเขาเปิดชั้นที่เป็นสีทองออก เหลือไว้เพียงแค่ของล้ำค่าที่อยู่ด้านใน
เหมือนกับที่ทุกคนคิดไว้ไม่มีผิด สิ่งที่อยู่ด้านในได้ปรากฏออกมา ก็คือชิ้นเนื้อตายที่สวินโม่นำมาครั้งที่แล้ว มาวันนี้ สีที่ชวนทำให้อยากอาเจียนได้หายไปแล้ว กลิ่นและความเน่าเฟะ ได้กลับมาเป็นชิ้นเนื้อปกติดังเดิม
“เนื้อชิ้นนี้ แล่มาจากร่างกายของต่งไท่โสว่ เพราะหลังจากที่เขาป่วยหนักอาการทรุดลง เนื้อชิ้นนั้นก็เละเน่าเฟะ แต่ข้าคิดค้นสูตรยาที่สามารถรักษาโรคระบาดนี้ได้แล้ว อีกทั้งสามารถยาตัวนี้ทำให้หายขาดจากโรคนี้ได้” สวินโม่นำชิ้นเนื้อที่เขาวิจัยสำเร็จมาวางไว้บนโต๊ะ ค่อยๆอธิบายทีละขั้นตอน
เนื้อชิ้นนั้นตอนนี้สะอาดมาก เหมือนกับไม่เคยเน่าเละมาก่อน นอกจากว่าจะมีร่องรอยจางๆเล็กน้อย
“สวินโม่ เม็ดยาที่อยู่ในกล่องตอนแรกคือยาอะไรกันแน่?” สีหน้าของโม่ฉีหมิงมีความตะลึงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ทำให้เขาสงสัยที่ที่สุดไม่ใช่สิ่งนี้
สวินโม่นำผ้าสีดำคลับออกมาอีกหนึ่งผืน ด้านในมียาหลายเม็ดอยู่ในนั้น
“ยาพวกนี้ไม่ใช่ยาพิษหรือยาถอนพิษ และไม่มีความเกี่ยวข้องกับโรคระบาดหนักในครั้งนี้ แต่ในสิ่งที่คนพวกนั้นเอามาใช้หลอกล่อบังหน้าจัดฉากเท่านั้น” สวินโม่ตอบพลางขมวดคิ้วแน่น
ถึงแม้ว่าจะไม่มีความสามารถในการมองทะลุจิตใจผู้อื่น แต่เรื่องนี้ตรวจสอบได้ง่ายมาก เขาก็ยังพอที่จะแก้ปริศนาทั้งหมดได้อย่างกระจ่าง
“ดูแล้วคนพวกนี้มีการวางแผนเตรียมตัวมาดี พวกเราต้องรีบนำยาถอนพิษไปแจกจ่ายให้ประชาชนก่อนรัชทายาทให้เร็วที่สุด วีนนี้หรือพรุ่งนี้เจ้าต้องไปเตรียมส่วนผสมของยามาทั้งหมด มะรืนพวกเรานำยาถอนพิษพวกนี้ไปแจกจ่ายในเมือง เอาชนะในประชาชนก่อน” โม่ฉีมีความมั่นใจสูง มองยาถอนพิษบนหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในใจก็ไม่หยุดในการคิดวางแผนการ
สวินโม่พยักหน้ารับคำ แล้วจึงขอตัวกลับจวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก