ตอนที่ 204 สัมผัสไม่ได้
ดวงตาทั้งคู่ของโล่หวินหลานมองไปที่โม่ฉีหมิงอย่างดุดัน มีความดื้อรั้นทอดออกมาจากนัยน์ตาเขา ถึงแม้จะอยู่ในความมืดแต่ก็เห็นได้ชัด สายตาแบบนี้ช่างเหมือนคนๆหนึ่ง แต่คนๆนั้นโม่ฉีหมิงไม่กล้าที่จะกล่าวถึง
“เป็นข้าที่ตามเธอมา ข้าแค่อยากจะเห็นว่าหมิงอ๋องจะโหดร้ายได้ขนาดไหนกัน ที่แท้ ก็ได้แค่เท่านี้” มุมปากของหญิงสาวมีแต่บาดแผล จะพูดได้แต่ละคำนั้นช่างลำบาก ในลำคอก็ยังบาดเจ็บ เสียงแหบพร่า
นัยน์ตาแหลมคมของโม่ฉีหมิงจ้องมาที่เธอ แค่ตานั้นขยับเพียงเล็กน้อย หญิงสาวตรงหน้าก็แทบรักษาชีวิตไว้ไม่ได้
แต่ว่า เขาก็อยากจะรู้ว่าที่เธอให้มานั้นเพื่ออะไร
“ข้ารู้ว่าท่านรักพระชายามาก เพียงแต่เธอถูกคนมาล้างแค้น ใช่ไหม?” คำพูดของหญิงสาวเสียดแทงเข้าไปในจิตใจของโม่ฉีหมิง ทะลุไปถึงก้นบึ้งในจิตใจ
“เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดถึงเขา เธอเป็นแค่เชลย ถ้าเธอไม่ยอมให้ลูกน้อยในมือมาเป็นของข้าล่ะก็ จะต้องตาย” นัยน์ตาโม่ฉีหมิงฉายแววอำมหิต ลมหายใจเย็นเยือกนั้นแทรกซึมเข้ามาในทุกคน ทำให้รู้สึกสั่นเทา
แต่น่าเสียดาย หญิงสาวไม่แม้แต่สนใจคำพูดของเขา ยังคงจ้องหน้าเขาเหมือนเดิม “คนของข้าจะไม่ตกเป็นของใครทั้งนั้น พวกเขามีอิสระของตัวเอง แต่ว่าหากนายยอมปล่อยพวกเราไป ข้าจะช่วยนายตามหาพระชายา เพราะที่จริง เธอยังไม่ตาย”
โม่ฉีหมิงแกล้งไม่รู้ว่าเธอกำลังโกหก เขาจึงเดินตามหมากของเธอ “ถ้าหากเธอยังไม่ตาย แล้วเธอคิดว่าเขาอยู่ไหน?”
“แค่เพียงนายปล่อยข้า ข้าก็จะช่วยนายหาพระชายา ตอนนี้ข้ายังบอกเธอไม่ได้ ข้าต้องเห็นว่าคนของข้ากลับเมืองอย่างปลอดภัยก่อน แล้วจะบอกนาย” เมื่อหญิงสาวเห็นความหวังจึงพยายามจับโอกาสนั้นเอาไว้ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เธอได้มีชีวิตต่อในกองทัพ
ตั้งแต่ที่โม่ฉีหมิงพาเธอเข้ามาในเมืองอู การที่เธอได้มาอยู่ในกองทัพยุทธภพนั้น เป็นสิ่งที่เธอคิดเอาไว้อยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็วต้องมาถึงสักวัน ไม่ว่าจะหนียังไง ก็คงจะไม่พ้นวันนี้ เธอจึงใช้แผนสุดท้าย ใช้จุดอ่อนของโม่ฉีหมิง มาดำเนินต่อแผนการของเธอ
“งั้นเธอพูดซิ ว่าเธอจะหาเธอมาได้อย่างไร? ถ้าหากพูดไม่ดีล่ะก็ วันนี้ พวกเธอตายอยู่ที่นี่ทั้งหมด” โม่ฉีหมิงยืนพิงประตู ทั้งๆที่ดวงหน้านั้นสวยงามกว่าใคร แต่ช่างไม่เหมาะกับที่นี่เหลือเกิน แต่ถือว่าเห็นสายตาของหญิงสาว ที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัว
หญิงสาวกลอกตาไปมา ไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไร จึงพูดขึ้นมั่วๆ “ถึงแม้ว่านายจะเจอเพียงศพของพระชายา แต่นายจะแน่ใจว่าเธอต่ายแล้วไม่ได้ เธออาจจะถูกคนสลับตัว เรื่องนี้ถ้าไม่มีผิด ตอนนี้คนที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินไม่ใช่พระชายาแน่นอน และคนที่จะทำเช่นนี้ได้ต้องเป็นคนใกล้ตัว ต้องเป็นคนใกล้ตัวเท่านั้นจึงจะยืนยันข่าวได้ ดังนั้น ต้องส่งคนไปตรวจสอบ ว่าที่จริงแล้วพระชายาอยู่ไหนกันแน่”
เรื่องแบบนี้เธอเจอมามาก การสลับร่างก็เป็นเพียงหนึ่งวิธี เพียงแค่คาดเดาได้ถูกต้อง ก็จะหาคนเจอ
ในห้องมืดมิดมีเสียงหนึ่งดังขึ้น รอบๆเงียบสงัด เย่เฟิงยิ่งรู้สึกหวาดระแวง หญิงสาวผู้นี้ช่างเขลาเสียจริง
สีหน้าของโม่ฉีหมิงแย่มาก เสียงนั้นราวกับปีศาจในห้องขัง “ที่เจ้าพูดมานั้นก็มีเหตุผล”
หญิงสาวแอบดีใจ เช่นนี้ เธอก็ถูกโม่ฉีหมิงยอมรับแล้ว ไม่คิดว่าแต่เธอพูดขึ้นมามั่วๆ ก็จะถูกยอมรับ ที่เธอพูดนั้นก็มีเหตุผล พระชายานั้นช่างสำคัญกับเขาเหลือเกิน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพียงแค่เธอได้มีชีวิตอยู่ต่อในกองทัพ ไม่ถูกใครบังคับ ให้เธอทำอะไรก็ยอมทั้งนั้น
“เย่เฟิง พาเธอขึ้นไปบนเขา เป็นอาหารหมาป่า” โม่ฉีหมิงลุกขึ้นมา รอยยิ้มที่สวยงามเมื่อครู่นั้น กลับกลายเป็นรอยยิ้มของปีศาจ ที่ดูบ้าเลือดคลุ้มคลั่ง
เรื่องก็เป็นไปอย่างที่คิด เย่เฟิงไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร รู้ตั้งแต่ที่หญิงผู้นั้นกล่าวถึงโล่หวินหลานแล้ว ว่าจุดจบของเธอจะเป็นอย่างไร ตอนนี้ แม้แต่เขายังไม่กล้าพูดชื่อโล่หวินหลานต่อหน้าโม่ฉีหมิง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น และพระชายานั้นถูกไฟคลอกตายอย่างไม่เหลือซาก
ทันใดนั้น สีหน้าของหญิงสาวก็เปลี่ยนไปทันที ดวงตาเธอเบิกโตราวกับระฆัง เต็มไปด้วยเส้นเลือดที่ดูเหมือนใกล้จะแตก เมื่อครู่ ยังพูดอยู่ดีๆ ทำไมถึง เปลี่ยนไปเช่นนี้?
“ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อ หรือว่านายไม่อยากรู้ที่อยู่ของชายาหมิงจริงๆ? นายทำอย่างนี้ต่อชายาหรือ?” หญิงสาวผู้นั้นยังคงยืนหยัดความคิดของตัวเอง ใช้โล่หวินหลานมากระตุ้นโม่ฉีหมิงไม่หยุด หวังว่าจะหยุดเขา
“หุบปาก” เย่เฟิงสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก
โม่ฉีหมิงเดินออกมาจากคุกแล้ว สุดท้ายเหลือเพียงผ้าคลุมที่ทิ้งไว้อยู่กลางห้องขัง
“ทหาร ลากเธอขึ้นเขาไป เป็นอาหารหมาป่า” เย่เฟิงไม่เคยเห็นโม่ฉีหมิงสั่งฆ่าคนด้วยตนเองอย่างโหดร้ายขนาดนี้มาก่อน เมื่อก่อนแค่เขาสั่งการ แล้วพวกเขาก็ทำตามแค่นั้น
ดูท่าหญิงสาวผู้นี้จะสะกิดถูกพื้นที่ต้องห้ามในใจโม่ฉีหมิงจริงๆ
“ทำไม ทำไม? ทั้งๆที่ทั้งหมดนี้เป็นไปตามแผนแท้ๆ ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้? ทำไมกัน…” หญิงสาวที่ถูกทหารล็อคตัวทั้งสองข้างลากตัวไปนั้นตะโกนขึ้นไม่หยุด ผมเผ้ายุ่งเหยิงปิดใบหน้าเธอ ผสมกับรอยเลือด ยิ่งทำให้ดูน่ากลัว
ในวินาทีที่เธอเกือบจะถูกลากออกจากคุกนั้น เย่เฟิงทำสัญญาณมือให้ทั้งสองคนนั้นหยุด
ร่างใหญ่ของเขาเดินมาตรงหน้าหญิงสาว ถามขึ้นด้วยเสียงแหบซ่าน “เธออยากรู้ว่าทำไมไหม?”
“แน่นอน” โล่หวินหลานพยักหน้า นัยน์ตาไม่มีพิรุธใดๆ
“ตามข้ามา” หมิงซีอุ้มหมาป่าแล้วเดินเข้าห้องไป
โล่หวินหลานไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร ก็เดินตามเขาเข้าไปในห้อง ในห้องนั้นเรียบๆ มีเพียงสมุนไพรวางเรียงกันอยู่ แต่เขาก็เดินทะลุประตูออกไปอีก ด้านนอกนั้นใกล้ภูเขาสูงใหญ่ แล้ววางบันไดที่จะขึ้นไปหลังคาออกมา แล้วเขาก็ปีนขึ้นไปบนหลังคา ยื่นมือมาดึงเธอขึ้นไปด้วย
“นั่งสิ ที่นี่สามารถมองเห็นพื้นที่ที่สลับซับซ้อนได้ เมื่อถึงฤดูหนาวก็จะถูกปกคลุมเป็นทุ่งกว้าง ฤดูร้อนก็จะได้ยินเสียงลมพัดใบไผ่ ทั้งภูเขานั้นกลายเป็นสีเขียว ถ้าหากฤดูหนาวปีหน้าเธอยังอยู่ที่นี่ เธอจะต้องหลงรักวิวของที่นี่แน่นอน” หมิงซียิ้มหวานๆขึ้นที่มุมปาก หลายปีมานี้ น้อยครั้งนักที่เขาจะยิ้มออกมา
ที่เขาพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? โล่หวินหลานครุ่นคิดอยู่สักวพัก ใบหน้าด้านข้างที่เนียนๆและงดงามนั้นอยู่ในสายตาของหมิงซี ราวกับเป็นไข่มุกที่ปราณีตสลักออกมา
“วิวของธรรมชาติสวยที่สุด ไม่เหมือนกับในเมือง เมื่อยืนมองจากที่สูงลงไป เห็นเพียงกระเบื้องหลังคาบ้านสีดำ” โล่หวินหลานยิ้มบางๆแล้วกล่าวขึ้นมา
หมิงซีไม่ได้พูดคุยมานานแล้ว เขาไม่เหมือนกับชายหนุ่มคนอื่น คิ้วหนาเข้มนั้นขมวดขึ้น บุคลิกเรียบง่ายอย่างชัดเจน ทั้งสองเงียบไปครู่หนึ่ง จนหมาป่าในอ้อมแขนเขาขยับตัว เขาจึงเริ่มพูดขึ้น
“ถ้าหาก ข้าหมายถึงถ้าหาก เธอเจอเขาแล้ว แต่เขาจำเธอไม่ได้ เธอจะกลับมาไหม?” หมิงซีครุ่นคิด แล้วก็ปัดผมตัวเองอย่างตื่นตัว “กลับมาอยู่ข้างๆท่านตาของเธอ การได้อยู่กับครอบครัวมันดีที่สุด”
นี่เป็นปัญหาที่เธอไม่เคยคิด หรือว่าเธอมั่นใจมากเกินไป เธอแค่คิดเพียงว่าหากเธอได้เจอกับเขา เขาจะต้องจำเธอได้ ตอนนี้ ปัญหานี้ทำไมจะไม่กลายเป็นปัญหาล่ะ?
“ข้าก็ไม่รู้ ข้าไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ แต่ว่าถ้าเขาจำข้าไม่ได้จริงๆ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหนดี” ในใจของเธอนึกย้อนไปถึงยุคปัจจุบัน โล่หวินหลานไม่มีทางกลับไปของตัวเอง ก็เหมือนกับที่เธอกังวลอยู่ในตอนนี้
“ถ้าหากเขาจำเธอไม่ได้จริงๆ เธอก็มาหาข้าได้ ข้าจะไปต่อยเขาให้ แล้วเราก็จะหนีมาที่นี่กัน ที่นี่ไม่ขาดอะไร เหมือนกับโลกภายนอกทุกอย่าง ดีจะตาย” หมิงซียิ้มจนตาหยี แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นปัญญาอ่อนมาก
“ได้สิ” โล่หวินหลานพยักหน้า
“ทำไมนายถึงมาเรียนการแพทย์กับท่านตาล่ะ?” โล่หวินหลานยื่นคางไปถาม
“ข้าเป็นเด็กกำพร้า ตั้งแต่วันที่ข้าจำความได้ ก็ตามเป็นศิษย์ท่านอาจารย์มาตลอด การกินอยู่ใช้ชีวิตของข้าเขาดูแลทั้งหมด เขาเป็นทั้งอาจารย์ ท่านพ่อ และเพื่อนของข้า จนมาตอนหลังแม่เธอแต่งงานกับคนตระกูลโล่ ท่านอาจารย์ก็เลยติดเหล้าไม่เป็นผู้เป็นคน จนต้องย้ายมาอยู่กลางป่ากลางเขาแบบนี้” หมิงซีมองไปไกลๆ มีเกล็ดหิมะเกาะอยู่ที่ผมและคิ้วของเขา เขายื่นมือออกไปสัมผัส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก