ฉินก่วงหวังไม่ค่อยพอใจริงๆ
ตอนที่ซูอวิ๋นเจามาถึงขนรกขุมที่หนึ่ง ฉู่เจียงหวังบอกว่าเขาเป็นลุงของเหยียนหลัวหวัง แม้แต่จักรพรรดิเฟิงตูก็เป็นน้องเขยของเขา เขาก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจแล้ว
เขาจะต้องล้มล้างความสัมพันธ์แบบเส้นสายและการกระทำที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องอย่างเด็ดขาด ดังนั้นถึงแม้ว่าซูอวิ๋นเจาจะมีกายแสงสีทอง เขาก็จะหาข้ออ้างให้เขาผิดจนได้ เพราะแค่ต้องการข่มความยโสโอหังของซูอวิ๋นเจา
แต่ซูอวิ๋นเจากลับเอาแต่ยืนนิ่งเฉย ไม่ใช้ความที่ตัวเองมีเส้นสายพยายามโต้แย้งใดๆ
แล้วยังเข้าใจความหมายที่เขาพูดว่าผู้ที่ชอบเข่นฆ่า ย่อมต้องจบลงด้วยการถูกเข่นฆ่า
ฉินก่วงหวังคิด: หากตอนแรกเขาไม่รู้ว่าซูอวิ๋นเจาเป็นลุงของพญายมตัวน้อยล่ะ
เขายังจะทำแบบนี้ไหม
เมื่อคิดจนเข้าใจในจุดนี้ ฉินก่วงหวังเพียงรู้สึกว่าความเชื่อของเขาพังทลายลงในพริบตา คนที่เอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องกลับเป็นเขาเสียเอง
ฉินก่วงหวังทรุดนั่งลงบนบัลลังก์พญายม เสื้อผ้าด้านหลังเปียกชุ่มโดยไม่รู้ราวกับเพิ่งถูกดึงขึ้นมาจากในน้ำ
มองผิวเผินเป็นการตัดสินซูอวิ๋นเจา แต่ฉินก่วงหวังกลับรู้สึกเหมือนตัดสินตัวเขาเองมากกว่า
“ข้า...” เขาไร้คำพูดที่จะแก้ต่าง
ผ่านไปชั่วครู่เขาถึงเม้มปาก แล้วเปิดดูตำราอีกหลายรอบ
ในตำราก็มีคำตอบที่ถูกต้องและชัดเจนอยู่แล้ว: ผู้ที่มีกายแสงสีทอง ผู้ที่มีบุญกุศลเต็มเปี่ยม ชาติก่อนเหลือกินเหลือใช้ มีโชคมีลาภ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ไร้ทุกข์ไร้โศก...
ฉินก่วงหวังนิ่งเงียบชั่วขณะอีกครั้ง จนในที่สุดเขาก็พูดว่า “ซูอวิ๋นเจา เจ้าเป็นผู้มีบุญกุศลเต็มเปี่ยม มีกายแสงสีทอง... ชาติหน้าจะเหลือกินเหลือใช้ และมีโชคมีลาภ...”
ตามกระบวนการแล้ว เขาต้องเสนอทางเลือกของชีวิตให้ซูอวิ๋นเจาหลายๆ ทาง
“เจ้าสามารถเลือกเกิดใหญ่เป็นลูกหลานของตระกูลหลิน ชาตินั้นของเจ้าจะร่ำรวยและสุขสบายไปตลอดชีวิต จะมีภรรยาที่เพียบพร้อม และมีลูกหลานที่กตัญญู...”
“เจ้ายังสามารถเลือกเกิดเป็นลูกหลานของตระกูลจ้าว ชาตินั้นเจ้าจะเกิดมาพร้อมกับอำนาจบารมี จะได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้นำคนต่อไป จะได้รับการยกย่องและนับถือจากประชาชน...”
“หรือจะเลือกไปเกิดเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลเสิ่น ชาตินั้นเจ้าจะมีพี่ชายเจ็ดคน เจ้าจะเป็นที่รักของคนทั้งครอบครัว ได้ใช้ชีวิตที่สุขสบายและร่ำรวยตลอดชีวิต...”
ฉินก่วงหวังพลิกเปิดดูตำราต่อ และแล้วก็พบชะตาชีวิตที่ดีอีก “ยังมีอีก เจ้ายังสามารถเลือกเกิดเป็นลูกชายคนโตของตระกูลเย่ มีครอบครัวที่อบอุ่นรักใคร่กลมเกลียวกัน ตอนเด็กสุขสบาย เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะได้สืบทอดกิจการมูลค่าหลายหมื่นล้าน”
“แล้วก็มีอันนี้อีก ลูกคนสุดท้องของเจ้าตระกูลปั๋ว เจ้าจะมีพี่ชายหลายคน จะถูกตามใจและได้รับการดูแลอย่างดี เจ้าไม่ต้องแบกรับภาระใดๆ ของตระกูล เจ้าจะได้เป็นดาราที่คนโปรดโปรนและเป็นที่สนใจของทุกคน เจ้าไม่เพียงแค่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังมีพื้นเพทางครอบครัวที่แข็งแกร่ง และโด่งดังไปตลอดชีวิต...”
ชาติก่อนซูอวิ๋นเจาต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ อยู่เสมอไม่ใช่เหรอ?
อย่างนั้นก็ดีเลย เขาสามารถเลือกเกิดเป็นลูกคนสุดท้องของตระกูลปั๋ว
แต่ซูอวิ๋นเจากลับเอาแต่นิ่งเงียบ
ฉินก่วงหวังเงยหน้าขึ้นและถามว่า “ที่ข้าว่ามาทั้งหมดล้วนเป็นชะตาชีวิตที่ดีมากทั้งสิ้น ตระกูลหลิน ตระกูลจ้าว ตระกูลเสิ่น ตระกูลเย่หรือตระกูลปั๋ว เจ้าอยากไปเกิดที่ไหน”
รีบเลือกหน่อยเถอะ...
เขาอยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียวหลังเลือกจบ
เปี้ยนเฉิงหวังอดไม่ได้ที่จะเตือนว่า “เจ้าสามารถรับคำตัดสินไปเกิดใหม่ก่อน จากนั้นอยู่ในเฟิงตูเมืองผีสักพัก เมื่อถึงเวลาแล้วค่อยไปเกิดใหม่ก็ได้...”
หมายความว่าถ้าเขาไม่อยากจากญาติสนิทมิตรสหายไป ช่วงเวลานั้นก็เพียงพอที่จะให้เขารอจนญาติสนิทมิตรสหายลงมา(ตาย)
ถึงแม้จะไม่น่าฟัง แต่มันก็เป็นความจริง มีคนมากมายที่ปล่อยวางคนรักและญาติสนิทมิตรสหายที่อยู่ในโลกมนุษย์ไม่ได้ ต้องรอให้พวกเขาลงมาก่อนถึงจะยอมไปเกิดใหม่ด้วยกัน
ถ้าหากซูอวิ๋นเจายินยอม เขาก็สามารถช่วยเขายื้อเวลานี้ได้ แต่ก็ต้องเป็นไปตามกฎ
แต่ซูอวิ๋นเจากลับพูดอย่างแน่วแน่อีกครั้งว่า “ผมไม่อยากไปเกิดใหม่ และไม่ต้องการคำตัดสินนี้ครับ”
ฉู่เจียงหวังไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นจึงรีบพูดว่า “ซูอวิ๋นเจา เจ้าอาจจะยังไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี...”
“เจ้าควรรู้ไว้ว่าถึงแม้เจ้าจะคอยเฝ้าพวกเขา รอให้พวกเขาตายก่อนจึงจะยอมจากไป... แต่ถ้าถึงตอนนั้นเจ้าก็ไปไม่ได้แล้ว”
“ผีทุกตนในเฟิงตูเมืองผีล้วนผ่านการพิพากษามาแล้วทั้งสิ้น บ้างก็รอไปเกิดใหม่ บ้างก็ไปเกิดใหม่ไม่ได้ บ้างก็กำลังสั่งสมบุญเพื่อแลกกับชีวิตที่ดีในชาติหน้า...”
“หากเจ้าไม่เลือกไปเกิดใหม่ งั้นต่อไปเจ้าก็ไม่มีโอกาสไปเกิดใหม่แล้ว เจ้าลองดูสิถ้าคนรักหรือญาติสนิทมิตรสหายที่เจ้าเอาแต่ห่วงหาตายไปหรือไปเกิดใหม่ก็จะเหลือแค่เจ้าคนเดียวทนโดดเดี่ยวพันปีหมื่นปีจนกระทั่งวิญญาณเริ่มจางหายและแตกดับสลายในท้ายที่สุด...”
ฉู่เจียงหวังคิดในใจว่าเขาเคยเห็นวิญญาณที่เสียใจทีหลังมาแล้วจริงๆ
มีดวงวิญญาณหลายตนที่รอคนรักหรือญาติสนิทมิตรสหาย แต่สุดท้ายคนรักหรือญาติสนิทมิตรสหายก็ไปเกิดใหม่ ทิ้งเขาไว้คนเดียว
ตั้งแต่นั้นมาพวกเขาก็ไม่มีคนรักหรือญาติสนิทมิตรสหายอยู่บนโลกนี้อีกเลย ต้องโดดเดี่ยวเพียงลำพัง เผชิญกับความเหงาเปล่าเปลี่ยวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และค่อยๆ สูญเสียความเป็นตัวเองจนบ้าคลั่งและไร้สติ...
จากนั้นซูอวิ๋นเจายังคงพูดอย่างแน่วแน่ว่า “ผมคิดดีแล้วครับ และตัดสินใจดีแล้วว่าผมไม่ไปเกิดใหม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...