ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 15

เหวยหว่านเห็นหานหานวิ่งเข้าไปในห้องของซู่เป่าโดยพลการจึงรีบตามไป และพูดเกลี้ยกล่อมเบาๆ ว่า “ลูกรัก รีบออกมาเร็ว นี่เป็นห้องของน้องสาว...”

เสี่ยวอู่เห็นหานหานพุ่งเข้ามา จึงกระพือปีกเพราะตกใจ “อ้าก ๆ เด็กไม่ดีมาแล้ว ช่วยด้วย ช่วยด้วย”

เมื่อเหวยหว่านได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

ปกติสอนนกแก้วตัวนี้กันยังไง มันทำไมถึงว่าหานหานเป็นเด็กไม่ดีต่อหน้าหานหาน

ไม่มีการสั่งสอนเลยสักนิด

เหวยหว่านลากหานหาน “พวกเรารีบลงไปข้างล่างเร็ว คุณย่ารออยู่ข้างล่างนะ”

หานหานดิ้นหลุดจากเหวยหว่านและพูดอย่างดื้อรั้นว่า “ไม่ หนูจะเอานกแก้ว”

เหวยหว่านทำอะไรเธอไม่ได้ จึงทำได้แค่พูดจาดีดีเกลี้ยกล่อม “นี่เป็นนกแก้วของน้องสาว ถ้าหานหานชอบเดี๋ยวแม่จะไปซื้อมาให้สักตัว”

หานหานกระทืบเท้าโวยวาย “ไม่ ไม่เอา หนูจะเอาตัวนี้”

เธอพูดพลางปีนขึ้นไปบนโต๊ะ แล้วยื่นมือไปจับเสี่ยวอู่

เสี่ยวอู่ที่กำลังหวาดกลัวพยายามกระพือปีกอยากจะบินหนี แต่ถูกเธอดึงโซ่ที่ขาของมันให้กลับมาและคว้าคอของเสี่ยวอู่ไว้

แววตาของหานหานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น หลังจากจับเสี่ยวอู่ได้แล้ว เธอก็กอดมันแน่นและสั่งว่า “อย่าขยับ ถ้าขยับอีกเชื่อไหมฉันจะตีแกให้ตาย”

เสี่ยวอู่กลัวคนแปลกหน้ามาก สองวันที่ผ่านมากว่าจะยอมรับพวกคุณลุงของซู่เป่าได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตอนนี้นัยน์ของเจ้าถั่วเขียวมีแต่ความหวาดกลัว

มันร้องอ้าก ๆ เสียงดัง “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ตุ๋นนกแก้ว”

ที่ชั้นล่าง ทันใดนั้นซู่เป่าพลันลุกออกจากอ้อมกอดของนายหญิงซู และในเวลานี้ทุกคนก็ได้ยินเสียงนกแก้วร้องอยู่ชั้นบนพอดี

ซู่เป่ารีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนโดยไม่พูดอะไร และเมื่อคุณท่านซูรู้สึกตัวกลับมาได้ก็ตำหนิซูจื่อหลินด้วยความโกรธ “เป็นหานหานอีกแล้วเหรอ ฉันให้แกเอาเวลาไปสั่งสอนลูกบ้าง ปกติแกมัวทำอะไรอยู่”

ซูจื่อหลินคนไม่ค่อยพูดโกรธจนหน้าแดง แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ แล้วทุกคนก็ตามขึ้นไปชั้นบน

หานหานใช้ความพยายามอย่างมากแต่ก็ไม่สามารถควบคุมนกแก้วไว้ได้ มันเอาแต่กระพือปีกบิน และกรงเล็บของมันก็ข่วนแขนเธอจนได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเธอโกรธก็จับนกแก้วโยนกระแทกลงบนโต๊ะและพูดด้วยความโกรธว่า “ใครให้แกไม่เชื่อฟัง ตีแก ตีแก”

นกแก้วกรีดร้องอย่างน่าเวทนา

พอซู่เป่าเข้ามาก็เห็นภาพตรงหน้า ใบหน้าเล็ก ๆ พลันสีหน้าแดงก่ำทันที ราวกับสัตว์ร้ายตัวน้อยที่โดนยั่วยุให้โกรธ แล้วพุ่งเข้าไปทันที

เธอพูดด้วยความโกรธว่า “เธอตีเสี่ยวอู่ทำไม ตีเสี่ยวอู่ไม่ได้นะ”

เดิมทีหานหานเป็นโรคเจ้าหญิง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีใครพูดกับเธอว่าไม่ได้

เมื่อเห็นซู่เป่าเข้ามาแย่งนกแก้ว เธอรู้สึกเหมือนของของตัวเองถูกแย่งไป จึงผลักซู่เป่าออกอย่างแรงและตะโกนว่า “ของฉันนะ”

เธอบีบคอและถือนกแก้วไว้ในมือจนมันลิ้นจุกปาก

ซู่เป่าโกรธมาก

เธอกระชากหานหานอย่างแรงแล้วกดเธอล้มลงกับพื้นเสียงดังปัง จากนั้นกำหมัดเล็ก ๆ แล้วชกหานหาน

หมัดเล็ก ๆ ชกอย่างไม่เจาะจง ชกโดนจมูกบ้าง โดนตาบ้าง ซู่เป่าชกอย่างไม่ยั้งจนหานหานกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

และนกแก้วก็หลุดออกจากมือของหานหาน มันกระพือปีกบินด้วยความตกใจจนขนของมันปลิวว่อนไปทั่วห้อง

หานหานโตกว่าซู่เป่า แต่ไม่รู้ทำไมถึงชกต่อยไม่สู้ซู่เป่า จากนั้นร้องไห้ลั่นในทันที

ทุกคนล้วนประหลาดใจ พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าซู่เป่าที่เชื่อฟังจะดีแตกกะทันหัน จึงรีบเข้าไปห้าม

“พอแล้ว พอได้แล้ว...”

กว่าจะดึงทั้งสองคนแยกออกจากกันได้ไม่ง่ายเลยและซู่เป่ายังถีบหานหานไปทีหนึ่ง

เสียงร้องไห้เสียงแหลมของหานหานเกือบทำให้หลังคาบ้านเปิด

ซูจื่อซี ซูเหอเหวินและซูเหอเวิ่นที่เพิ่งกลับมา เด็กชายทั้งสามคนไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้มาก่อนต่างก็พากันตกใจ

เหวยหว่านทั้งโกรธทั้งกระวนกระวายใจและดุว่า “เธอชกตีคนอื่นได้ไง ถ้าเธอไม่อยากให้นกแก้วกับพี่สาวก็พูดดี ๆ สิ ทำไมต้องชกตีคนอื่น”

ซู่เป่าเบะปากและพูดเสียงสะอื้นว่า “พี่หานหานเป็นคนตีเสี่ยวอู่ก่อน...”

เธอไม่ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติก่อน เธอก็เป็นเด็กเหมือนกัน ทำไมพี่สาวทุบตีคนอื่นได้ แต่เธอกลับต้องอ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติก่อน

เจ้าตัวเล็กเพียงรู้สึกอึดอัดคับข้องใจมาก เมื่อก่อนตอนถูกตีไม่เคยร้องเลยสักแอะ แต่ตอนนี้นายหญิงซูกอดเธอและคุณท่านซูก็ปลอบใจเธอ เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

ทันใดนั้นซู่เป่าก็ร้องไห้ลั่นออกมา ราวกับระบายความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจทั้งหมดตลอดหลายปีที่ผ่านมาออกมา แล้วร้องไห้หนักกว่าเดิม

นักสู้ตัวจิ๋วทั้งสามที่แอบดูอยู่หน้าประตูรีบดึงร่างของตัวเองแล้ววิ่งไปที่ห้องของตัวเองอย่างเงียบๆ

สรุปแล้วน้องสาวทุกคนล้วนชอบร้องไห้ น่ารำคาญที่สุด

พวกเขาถึงไม่อยากมีน้องสาวแบบนี้

ในห้องของหานหาน เหวยหว่านเห็นรอยแผลข่วนที่แขนของลูกสาวสุดที่รักก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

และในเวลานั้นซูจื่อหลินยังเข้ามาพูดว่า “คุณเป็นอะไร ทำไมยังไม่ไปขอโทษซู่เป่าอีก”

เหวยหว่านระเบิดอารมณ์ในทันที แล้วโยนผ้าขนหนูเปียกลงพื้นและพูดด้วยความโกรธว่า “ซูจื่อหลิน คุณเป็นพ่อประสาอะไร ตอนนี้เป็นหานหานของเราที่โดนรังแก คุณดูหานหานสิ ตาบวมและแขนก็เลือดออกเต็มไปหมด”

ซูจื่อหลินแสยะยิ้ม “ถ้าลูกไม่ไปแย่งของของคนอื่น จะโดนคนอื่นชกตีเหรอ”

พอหานหานได้ยินเช่นนั้นยิ่งร้องไห้หนักขึ้น

ซูจื่อหลินนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้แล้วรู้สึกรำคาญจึงหันหลังจากไป

เดิมทีความสัมพันธ์ของซูจื่อหลินและเหวยหว่านก็ไม่ดีมาแต่ไหนแต่ไร ตอนนั้นหลังจากที่ทั้งสองมีความสัมพันธ์กันโดยไม่ได้ตั้งใจเหวยหว่านก็ตั้งครรภ์ ถึงแม้เขาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับเหวยหว่าน แต่เขาก็รับผิดชอบ

จนตอนหานหานเกิด ซูจื่อหลินถึงรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนั้นเป็นแผนการของเหวยหว่าน ตอนนั้นเขาเคยขอหย่าแต่เหวยหว่านไม่ยอมหย่า

และแม่ของเหวยหว่านก็ใช้ลูกทั้งสองคนเป็นเหตุผลเกลี้ยกล่อมไม่ให้เขาหย่ามาตลอด และตอนนั้นซูจิ่นอวี้ก็หายตัวไปพอดี คนทั้งตระกูลซูทุ่มเทแรงกายแรงใจในการตามหาซูจิ่นอวี้ เรื่องนี้จึงยืดเยื้อมาตลอด

ณ ตอนนี้เหวยหว่านเพียงรู้สึกเสียใจเป็นที่สุด เธอทำผิดอะไรเหรอ รักลูกตัวเอง ปกป้องลูกของตัวเอง ยังผิดอีกเหรอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน