ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 17

เหวยหว่านอุ้มหานหานที่กำลังร้องไห้โวยวายอยู่ และตัวเองก็น้ำตาไหลพราก

เธอรู้สึกผิดหวังและเสียใจ ความสัมพันธ์ตลอดห้าหกปีที่ผ่านไม่สามารถมัดใจของซูจื่อหลินได้

และในเวลานี้คุณยายของหานหานก็วิดีโอคอลมา เมื่อเห็นทั้งสองร้องไห้สะอึกสะอื้นจึงรีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”

เหวยหว่านเล่าเรื่องทั้งหมดทั้งน้ำตา

ทางฝั่งคุณยายของหานหานโกรธเคืองมาก “แกดูสิ ฉันบอกแล้วว่าเมื่อก่อนตอนตระกูลซูมีหานหานเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวในบ้าน ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็โปรดปรานและเอาใจเหมือนเป็นเจ้าหญิง แต่ตอนนี้พอเด็กคนนั้นมา พวกเขาก็ไม่โปรดปรานและเอาใจหานหานอีกแล้ว”

เมื่อหานหานที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเช่นนั้น ก็นึกถึงที่ตัวเองโตขนาดนี้แล้วโดนตีเป็นครั้งแรก แต่พวกคุณลุงคุณอา คุณปู่คุณย่า พวกเขาไม่มีใครมาปลอบเธอเลยสักคน

ทันใดนั้นเธอยิ่งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม

เหวยหว่านพูดอย่างหงุดหงิดว่า “แม่ แม่หยุดพูดได้แล้ว”

คุณยายของหานหานถลึงตาโต “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ มันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ฉันละยอมจริง ๆ เด็กที่เกิดจากสายเลือดโดยตรงไม่สู้เด็กนอกนามสกุล”

เหวยหว่านพูดว่า “ต่อไปซู่เป่าก็จะนามสกุลซู”

คุณยายของหานหานส่ายหน้า “จบเห่แล้ว ต่อไปหานหานของเรายิ่งออกหน้าออกตาไม่ได้แล้ว ซู่เป่าเด็กบ้านนอกคนนั้นไม่ใช่คนที่จะยั่วยุได้ง่ายๆ แกรู้ไหม”

“ตอนอยู่หนานเฉิงเธอผลักแม่เลี้ยงตัวเองตกบันไดจนแท้งลูก แต่นั่นก็ช่างมันเถอะ แล้วพวกลุงๆ ของเธอยังปกป้องคนผิด ปกป้องจนออกนอกหน้า ซู่เป่าเป็นคนผิดชัดๆ แต่พวกเขากลับทำให้ตระกูลหลินล้มละลาย”

คุณยายของหานหานพูดอย่างกระแนะกระแหนจนเหวยหว่านขมวดคิ้ว “แม่เลี้ยงคนนั้นแท้งเองแล้วใส่ร้ายซู่เป่าไม่ใช่เหรอคะ”

คุณยายของหานหานพูด “แกรอเดี๋ยว ฉันจะส่งวิดีโอแฉให้แกดู”

ไม่นานเหวยหว่านก็ได้รับวิดีโอ

ในวิดีโอมีผู้ออกมาแฉคนหนึ่งที่ผ่านการดัดแปลงเสียงอ้างว่าตัวเองเป็นเพื่อนสนิทของมู่ชิ่นซิน แล้วยังโชว์บันทึกรายงานอุบัติการณ์ความเสี่ยงการแท้งลูกและแอดมิดโรงพยาบาลสองครั้งของมู่ชิ่นซิน

แล้วยังมีคลิปสั้นที่บอดี้การ์ดชุดดำโยนผู้อาวุโสตระกูลหลินทั้งสองและหลินเฟิงออกจากบ้านของตระกูลหลิน รวมทั้งคลิปสั้นที่ซูอิ๋งเอ่อร์กดหลินเฟิงกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง

และแน่นอนว่าในคลิปสั้นเหล่านั้นคนตระกูลซูถูกเบลอหน้าไว้ทั้งหมด มีเพียงซู่เป่าเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกเบลอหน้าไว้...

คุณยายของหานหานพูดต่อว่า “เห็นแล้วใช่ไหม บันทึกรายงานอุบัติการณ์ความเสี่ยงสองครั้ง ตกเลือดสองครั้ง จะมีแม่เลี้ยงคนไหนทำร้ายลูกในท้องของตัวเองเพียงเพราะเกลียดลูกเลี้ยง แล้วยังมีความเสี่ยงจากการตกเลือดถึงสองครั้ง ใครจะเอาชีวิตของตัวเองมาล้อเล่น”

“แล้วยังมีหน้ามาว่าหานหานร้ายกาจ คนที่ร้ายกาจจริง ๆ คือเด็กคนนั้น อายุแค่นี้เล่ห์เลี่ยมจัดชะมัด เป็นเด็กเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง”

“วันนี้เธอชกต้อยหานหาน แต่คนตระกูลซูกลับไม่มีใครปลอบใจหานหานเลยสักคน นี่แสดงถึงอะไร แสดงว่าเด็กคนนั้นฟ้องและพูดกรอกหูคุณท่านซูและนายหญิงซูแล้วน่ะสิ ไม่แน่อาจพูดไม่ดีให้หานหานลับหลังก็เป็นได้”

เหวยหว่านดูวิดีโอแล้วเพียงรู้สึกรังเกียจ

ตระกูลซูรับเด็กแบบนี้กลับมาจริง ๆ

“ดูเหมือนต่อไปต้องระวังเธอให้มากขึ้นแล้ว” เหวยหว่านพูด

สองแม่ลูกสนทนากันโดยไม่เลี่ยงการใช้คำเลยสักนิด หานหานได้ยินมันหมดทุกอย่าง

‘ซู่เป่าฆ่าน้องชายในท้องแม่เลี้ยง’ ‘ซู่เป่าเจ้าเล่ห์มาก’ ‘ซู่เป่าคือยัยเด็กเจ้าเล่ห์’... หานหานจำคำพูดเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำ

การเปิดเผยข่าวของมู่ชิ่นซินนั้นฉลาดมาก เขาเลือกที่จะไม่เปิดเผยต่อสื่อขนาดใหญ่ แต่เลือกเผยแพร่ในรูปแบบของการซุบซิบนินทา

เพียงแค่เวลาหนึ่งสัปดาห์ ข่าวซุบซิบเรื่องที่ซู่เป่าทำร้ายแม่เลี้ยงตัวเองจนแท้งและเกือบตาย และเรื่องตระกูลหลินล้มละลายเพราะยั่วยุซู่เป่าก็แพร่สะพัดในกลุ่มสุภาพสตรีชั้นสูงต่าง ๆ กลุ่มหญิงงามที่มีชื่อเสียง กลุ่มซุบซิบนินทาของตระกูลร่ำรวย และกลุ่มอื่น ๆ

ลูกทั้งแปดคนของตระกูลซูล้วนเป็นผู้ชาย จึงไม่มีใครสนใจเข้ากลุ่มซุบซิบนินทาอันน่าเบื่อแบบนี้ จึงไม่ได้พบเบาะแสให้ทันถ่วงที

จนกระทั่งถึงวันงานวันเกิดซู่เป่า

เพื่อเป็นการแก้ไขนามให้ซู่เป่า และให้ทุกคนรู้ว่าซู่เป่าเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพวกเขาตระกูลซู การ์ดเชิญมางานเลี้ยงวันเกิดของซู่เป่าจึงถูกแจกออกไปตั้งนานแล้ว และเชิญคนที่มีชื่อเสียงในวงการมามากมายหลายคน

วันนี้ในตู้เสื้อผ้าของซู่เป่าแขวนเต็มไปด้วยชุดเจ้าหญิง มีทั้งชุดโลลิต้า ชุดกระโปรงฟูฟ่อง และชุดกระโปรงที่เป็นชั้น ๆ...

ตั้งแต่สีแดง สีเหลือง สีชมพู ไปจนถึงสีเขียว มีหมดทุกสี ราวกับสายรุ้งหลากหลายสีสัน

“ซู่เป่า เลือกสักชุดสิจ้ะ” นายหญิงซูลูบศีรษะน้อย ๆ ของเธอด้วยความอ่อนโยน

เมื่อเห็นดวงตาเป็นประกายของเธอ ความเสียใจและความเจ็บปวดในใจก็ค่อยๆ แทนที่เข้ามา

ซู่เป่าเงยหน้าถามว่า “ชุดไหนก็ได้เหรอคะ”

นายหญิงซูพยักหน้า “ใช่จ้ะ ทั้งหมดนี้เป็นของซู่เป่าจ้ะ”

ซู่เป่าลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นขยับเข้าไปใกล้นายหญิงซูแล้วหอมแก้มเบาๆ ฟ้อดหนึ่ง “ขอบคุณค่ะคุณยาย”

หลินเฟิงพูดอย่างหงุดหงิดว่า “ตอนนี้จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อเสื้อผ้า”

มู่ชิ่นซินกระพริบตาปริบๆ แล้วพูดอย่างใสซื่อไร้เดียงสาว่า “ฉันรู้มาว่ามีที่ที่สามารถขายเลือดได้”

ในคฤหาสน์

ซูอีเฉินจูงซู่เป่าในชุดกระโปรงอันสวยงามพลางกอดกระต่ายตัวเก่าไว้ในอ้อมแขนลงมาชั้นล่าง

ซูอี้เซิน ซูลั่ว และซูเยว่เฟยก็ตามหลังเธอมา

แต่ไม่มีใครมองเห็นวิญญาณหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา

จี้ฉางยืนพิงราวบันไดและมองซู่เป่าด้วยรอยยิ้ม “เฮ้อ ค่อยยังชั่ว ดีที่มาทัน”

จี้ฉางยักคิ้วแล้วยกมือขึ้นดีดนิ้ว และในเวลานั้นแสงไฟทั้งหมดก็ส่องสว่างไปรวมยังตัวซู่เป่า

บนชุดกระโปรงสีชมพูม่วงของซู่เป่ามีแสงวิบวับ แสงไฟระยิบระยับนั้นราวกับแสงออร่า เหมือนแสงดาวบนท้องฟ้า ทั้งสวยงามและโอ่อ่า

นอกจากนี้ บนร่างกายของเธอดูเหมือนถูกปกคลุมด้วยแสงอันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เจ้าแก้มก้อนดูเหมือนเทพธิดาน้อยที่อยู่ในโลกมนุษย์

สีหน้าของทุกคนล้วนประหลาดใจ ช่างเป็นชุดที่สวยงามมาก และช่างเป็นเด็กที่ละเอียดลออมากจริง ๆ

พวกเขาทุกคนแอบชำเลืองซู่เป่าตั้งแต่หัวจรดเท้า

นี่นะเหรอแก้วตาดวงใจของตระกูลซู...

จุ๊ ๆ เธอเป็นที่โปรดปรานจริง ๆ ขนาดผู้บริหารสูงสุดผู้เย็นชาอย่างซูอีเฉินยังยอมก้มหัวจูงเธอ เหลือแค่ไม่ได้ยกกระโปรงให้เธอเท่านั้น

ในโอกาสนี้แบบนี้ เธอยังอุ้มกระต่ายน้อยตัวเก่า ได้ยินมาว่าแม่ของเธอทิ้งกระต่ายตัวนั้นไว้ให้เธอ พวกเขาคิดว่าซู่เป่าเสแสร้งเก่งจริง ๆ

เนื่องจากวิดีโอแฉนั้นของมู่ชิ่นซิน ปฏิกิริยาแรกของพวกเขาทุกคนเมื่อเห็นซู่เป่าก็คือ ‘อวดดี’ ‘เลี่ยมจัด’ ‘ยัยเด็กเจ้าเล่ห์’ กระทั่งกลัวว่าถ้าลูกของตัวเองคบค้าสมาคมกับเธอจะเสียเปรียบ จึงห้ามไม่ให้ลูกของตัวเองเล่นกับซู่เป่า

และแน่นอนว่า เมื่อมีความหวาดกลัวก็ต้องมีความเอาใจ มีพวกคุณนายบางคนที่แตกต่าง ผลักดันลูกของตัวเองให้ไปเล่นกับซู่เป่า

หานหานยืนเบะปากมองซู่เป่าที่รอบข้างมีผู้คนมารายล้อมเหมือนดาวล้อมเดือนจากชั้นสอง

เธอชี้ไปยังชุดกระโปรงของซู่เป่าพลางหันหน้ามาพูดว่า “คุณแม่คะ หนูก็อยากได้ชุดนั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน