เสวี่ยเอ๋อร์รับรู้ได้ถึงความดีใจของแม่ ในใจเธอเองก็ดีใจไปด้วย
เธอสูดลมหายใจเข้าเพื่อรวบรวมความกล้า จากนั้นจึงเอ่ยออกมาต่อหน้าอาจารย์เหลา
“สวัสดีค่ะคุณปู่เหลา! หนูชื่อเสวี่ยเอ๋อร์ หนูชอบผลงานภาพวาดของคุณมากเลย! คุณเป็นไอดอลของหนูเลยค่ะ”
ตอนนี้เองที่อาจารย์เหลาพึ่งจะรู้ตัวว่า มีเด็กน้อยอยู่ตรงนี้ด้วย เขาพยักหน้าก่อนที่จะเอ่ยออกมา “ดีๆ ขอบคุณมากหนู!”
อาจารย์เหลาเป็นคนรักสันโดษ ไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับใครนัก แต่ว่าเขานิสัยดี เข้าถึงง่าย
เสวี่ยเอ๋อร์ดีใจมาก รู้สึกว่าอาจารย์เหลาต้องชอบตนเองอย่างแน่นอน
เธอกำลังจะเอ่ยอะไรออกมาอีก ทว่าตอนนี้เองซู่เป่าที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็เดินลงมาจากด้านบน
ในมือของเธอยังถือภาพวาดไว้มากมาย ซูอี้เซินจับมือของเธอแล้วเอ่ยเสียงเบา “คุณปู่เหลาคนนั้น คืออาจารย์เหลา”
ซูเป่าพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินไปใกล้ แล้วก้มหัวให้อีกฝ่าย ก่อนที่จะเอ่ยออกมาเสียงหวาน “สวัสดีค่ะ อาจารย์เหลา!”
อาจารย์เหลาตะลึงงัน ก่อนที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง “ดีๆ ๆ! เสี่ยวซู่เป่าเหรอ!”
เด็กๆ อายุประมาณนี้ ส่วนใหญ่ก็เรียกเขาว่าปู่ทั้งนั้น
แต่ว่าเจ้าแก้มก้อนคนนี้กลับเรียกเขาว่าอาจารย์เหลา ด้วยสีหน้าจริงจังตั้งใจ
อาจารย์เหลาคิดว่าเจ้าแก้มก้อนนั้นน่ารักเป็นอย่างมาก เขาล่ะยอมใจเลย เห็นเด็กน้อยแล้วมีความสุขไม่น้อย
เขายกมือขึ้นลูบจุกของเสี่ยวซู่เป่าก่อนที่จะเอ่ยออกมา “ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?”
เสี่ยวซู่เป่าชะงักงันไป ก่อนที่จะเงยหน้ามองคุณปู่เหลา
คุณปู่คนนี้ ดูเหมือนจะไม่ฉลาดเท่าไหร่เลย!
วันนี้จัดงานวันเกิดครบสี่ปีของเธอ แน่นอนว่าเธอก็ต้องสี่ขวบน่ะสิ
เสี่ยวซู่เป่านิ่งคิด แต่ก็ตอบไปอย่างว่าง่าย “อาจารย์เหลา วันนี้วันเกิดครบรอบสี่ปีของซู่เป่า สี่ขวบแล้วค่ะ”
อาจารย์เหลา “……”
ทำไมอยู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงสายตาดูแคลนของเด็กน้อยตรงหน้ากันนะ มันเกิดอะไรขึ้น?
เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ก่อนที่จะพยักหน้ารับ “ใช่ๆ ๆ ดูสิอาจารย์โง่จริงๆ เลย!”
เสี่ยวซู่เป่าหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเอ่ยตบ “ไม่เป็นไรค่ะ! บางทีซู่เป่าเองก็โง่เหมือนกัน”
ที่จริงแล้วสิ่งที่เธอต้องการจะสื่อนั้นก็คือ บางครั้งก็ลืมคิดไปจนเหมือนอาจจะทำอะไรโง่ๆ ไปบ้าง เธอเป็นคนพูดอะไรตรงไปตรงมา แต่น่าจะเพราะไม่มีคนสอนให้รู้จักใช้คำ หรืออาจจะเพราะคำศัพท์ในหัวเมื่อก่อนมีไม่มาก ยังไม่สามารถสื่อสารออกมาอย่างที่ใจคิดได้
อาจารย์เหลายิ่งรู้สึกว่าเธอนั้นไร้เดียงสา น่ารัก ยิ่งชอบเธอเข้าไปอีก
เสวี่ยเอ๋อร์ที่ยืนอยู่อีกด้าน รู้สึกว่าซู่เป่าแย่งความสนใจไป ไม่พอใจขึ้นมาทันที!
แม่เสวี่ยเอ๋อร์เองก็พึมพำว่าโชคร้ายชะมัด
ยิ่งเมื่อเห็นภาพวาดในมือซู่เป่า เธอยิ่งหมดคำจะพูด
จริงๆ เลย ถือสิทธิ์ว่าตัวเองเป็นลูกรักของตระกูลซู ก็มาแย่งความสนใจไปแบบนี้เหรอ?
คิดว่าอาจารย์เหลาจะรับใครทุกคนก็ได้เหรอ?
คุณท่านซูหัวเราะก่อนที่จะเอ่ยออกมา “เพื่อน มานั่งเล่นบนชั้นสองด้วยกันเป็นยังไง?”
อาจารย์เหลาแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะได้ดูภาพวาดอื่นๆ ของซู่เป่าแล้ว เขารีบพยักหน้ารับทันที “ดีๆ”
เสวี่ยเอ๋อร์ตะลึงงัน ถ้าเขาไป แล้วเธอจะทำอย่างไร?
จะรับเธอเป็นลูกศิษย์ไม่ใช่เหรอ?
เสวี่ยเอ๋อร์กำมือ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างร้อนรน “อาจารย์เหลา แล้วหนูล่ะคะ?”
อาจารย์เหลาเหลือบตามามองเธอ ก่อนที่จะเอ่ยออกมา “หนูก็เป็นเด็กดีมากเลย เดี๋ยวปู่ขอไปทำงานก่อนนะ!”
จากนั้นนายท่านซูก็อุ้มซู่เป่า แล้วพาอาจารย์เหลาไปแบบนั้นเลย!
แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์ตะลึงงัน เสวี่ยเอ๋อร์เองก็เช่นกัน
แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะโกรธยังไงก็ต้องอดทนเก็บอาการเอาไว้!
เพชรยังไงก็เป็นเพชรอยู่วันยังค่ำ คนของตระกูลซูมีเงินก็จริง แต่ว่าอาจารย์เหลาเป็นใคร? ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสามารถขอเขาเป็นศิษย์ได้นะ
หาเรื่องให้ตัวเองโดนด่าเปล่าๆ
แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์หันมาปลอบลูกสาว “เสวี่ยเอ๋อร์เด็กดี นั่งรอก่อนนะคะ”
สองแม่ลูกไม่รู้เลย ว่าการรอครั้งนี้ ต้องรอไปเนิ่นนานเลยทีเดียว…..
ห้องหนังสือชั้นสอง บ้านตระกูลซู
ซู่เป่านั่งอยู่บนโซฟาอย่างเรียบร้อย เธอแอบประเมินผู้อาวุโสตรงหน้า
นายท่านซูเอ่ยออกมา “ซู่เป่า ท่านเป็นอาจารย์ที่เก่งที่สุดในวงการวาดภาพของประเทศเรา รีบเรียกว่าอาจารย์เหลาเร็วเข้า!”
ซู่เป่าเอ่ยออกมาอย่างว่าง่าย “อาจารย์เหลา!”
อาจารย์เหลานั้นรู้สึกชอบเด็กตรงหน้าจากใจ เขาเอ่ยถาม “ซู่เป่า ภาพพวกนี้หนูเป็นคนวาดใช่ไหม?”
ซู่เป่าพยักหน้ารับ “ค่ะ”
เหมือนกับว่าได้เจอเพื่อน แม้ว่าอายุจะห่างกันมาก แต่ว่าซู่เป่าได้นับเขาเป็นเพื่อนแล้วเรียบร้อย
อืม คุณตาพูดถูก เขานับว่าเป็นเพื่อนยากได้จริงๆ
ซู่เป่าโบกมือให้อีกฝ่าย ก่อนที่จะเอ่ยออกมา “กลับบ้านดีๆ นะคะ อาจารย์เพื่อนยาก!”
อาจารย์เหลามองเด็กน้อยตรงหน้า คิดไม่ถึงเลยว่าการมาครั้งนี้จะได้ลูกศิษย์หัวไวแบบนี้กลับไป เขารู้สึกปิติยินดีเป็นอย่างมาก
ดังนั้นเขาเลยโบกมือกลับ แล้วเอ่ยตอบ “เพื่อนตัวน้อย แล้วเจอกันนะ!”
ต่างฝ่ายต่างมองกันและกันเป็นเพื่อน ใบหน้าแต่งแต้มไปด้วยความสุข
อาจารย์เหลาที่นั่งอยู่บนรถนั้น อดไม่ได้ที่จะเปิดรูปในโทรศัพท์ออกดู ภาพวาดของซู่เป่า
หนึ่งในภาพวาดนั้น มีภาพ ‘สวนสนุกบนสวรรค์’ เด็กน้อยที่เป็นตัวเอกกำลังจูงมือผู้ใหญ่ คุณยายก้อนเมฆขาวทักทายเธอ สวนพี่สาวสายรุ้งเองก็เรียกให้เธอมาเล่นสไลด์เดอร์
พระอาทิตย์นั้นเป็นชิงช้าสวรรค์ ด้านบนมีไอศกรีมที่กำลังละลายแขวนอยู่……
ทุกอย่างในภาพวาดนี้ชัดเจนแจ่มแจ้ง ยกเว้นคนที่จูงมือซู่เป่าอยู่นั้น ร่างกายของคนคนนั้นเป็นเงาสีขาว เหมือนมีเมฆหมอกอะไรที่กำลังกีดกัน ให้อีกฝ่ายไม่เข้าพวกกับที่นี่
นี่เป็นจุดเดียวของภาพวาด ที่อาจารย์เหลาไม่เข้าใจความหมายของมัน ซู่เป่าเองก็ไม่ได้อธิบายให้ฟัง
อาจารย์เหลาโพสรูปเหล่านี้ลงในบัญชีเว่ยป๋อของเขา จากนั้นก็เขียนชื่นชมอย่างจรงใจ จิตกรตัวน้อยที่มีจินตนาการและจิตวิญญาณอันยอดเยี่ยมงดงาม!
อาจารย์เหลาไม่ใช่คนที่จะชมคน รูปภาพที่สามารถทำให้เขาเอ่ยชมขึ้นมาได้ คือรูปภาพที่อยู่ในพิพิธภัณ์โบราณพวกนั้น
คืนนั้น ในวงการของนักวาดภาพลุกเป็นไฟ ทุกคนต่างพยายามหาคำตอบว่าคนที่วาดภาพเหล่านั้นเป็นใคร…..
รถพึ่งขับออกมาจากบ้านตระกูลซู่ ด้านหน้าก็มีคนโบกมือไปมา คนขับชะลอรถทันที
“อาจารย์เหลา ดูเหมือนจะมีคนอยากพบครับ?”
อาจารย์เหลาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นแม่เสวี่ยเอ๋อร์กับเสวี่ยเอ๋อร์ที่บนใบหน้ามีรอยยิ้ม
เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วมุ่น เขาลงจากรถตามมารยาท แล้วเอ่ยถามออกมา “”พวกคุณคือ?
แม่เสวี่ยเอ๋อร์เมื่อเห็นว่าอาจารย์เหลาลงจากรถมาเอง ก็ยิ่งรู้สึกว่าลูกของตนนั้นยังพอมีหวัง!
เธอรีบเอ่ยออกมาทันที “อาจารย์เหลาคะ ยังจำพวกเราได้ไหมคะ? นี่คือเสวี่ยเอ๋อร์ไงคะ! ก่อนหน้านี้ที่ได้รับเลือกเข้ากลุ่มเป็นจิตกรตัวน้อยอันดับหนึ่งระดับประเทศ หลานเสวี่ยเอ๋อร์!”
พูดแบบนี้ไป เขาน่าจะจำได้แล้วไหม?
ใครจะคิดว่าอาจารย์เหลากลับมีสีหน้างุนงง “หลานเสวี่ยเอ๋อร์ไหนกัน?”
แม่เสวี่ยเอ๋อร์ “……..”
เขาจำลูกเสวี่ยเอ๋อร์ของเธอไม่ได้!?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...