ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 26

ตั้งแต่ที่ผลงานของหลานเสวี่ยเอ๋อร์ถูกเลือกเข้ากลุ่มจิตกรตัวน้อย แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์ก็ภูมิใจเป็นอย่างมาก มักจะพูดถึงเรื่องนี้ให้คนอื่นฟังอย่างไม่ตั้งใจเสมอๆ

เธอคิดว่าลูกสาวของเธอเสวี่ยเอ๋อร์นั้นโด่งดังมาก อาจารย์ที่อยู่ในแวดวงการวาดภาพระดับประเทศต้องรู้จักเสวี่ยเอ๋อร์อย่างแน่นอน

คิดไม่ถึงเลยว่า อาจารย์เหลาจะจำลูกเธอไม่ได้สักนิด

แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์หน้าแดงไปหมด ส่วนเสวี่ยเอ๋อร์นั้นเธอยังเด็ก อดที่จะถามออกมาไม่ได้ “คุณปู่เหลา คุณมารับลูกศิษย์ไม่ใช่เหรอคะ?”

อาจารย์เหลา “อ้ะ ใช่ ทำไมเหรอ?”

เสวี่ยเอ๋อร์ “ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณปู่ยังไม่รับหนูเป็นศิษย์อีกคะ?”

อาจารย์เหลา “……..”

แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์รู้สึกกระอักกระอวนใจขึ้นมาทันที……

อาจารย์เหลาเอ่ยตอบมาทันที “ขอโทษทีนะหนูน้อย ฉันรับลูกศิษย์ไปแล้ว”

หัวใจของแม่เสวี่ยเอ๋อร์นั้นเต้นแรง ก่อนที่จะยิ้มบางๆ แล้วเอ่ยออกมา “อ้อๆ ศิษย์ที่คุณรับคือคุณซู่เป่าใช่ไหมคะ?”

อาจารย์เหลาพยักหน้ารับ เมื่อพูดถึงซู่เป่าเขาก็อดไม่ไดที่จะยิ้มออกมา “ครับ ซู่เป่าเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์มาก”

เมื่อพูดจบเขาก็พยักหน้าให้กับทั้งสองคน จากนั้นก็ขึ้นรถจากไป

แม่เสวี่ยเป่ารับความรู้สึกแย่ที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้ไม่ได้ อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา “คนตระกูลซูใช้เงินแก้ปัญหาจริงๆ สินะ……”

เสวี่ยเอ๋อร์ตะลึงงันไป

เธอโดนซู่เป่าแย่งตำแหน่งลูกศิษย์ไปแล้ว?

อยู่ๆ เสวี่ยเอ๋อร์ก็ร้องไห้ออกมาแล้ววิ่งหนีไปอีกทาง!

เธอเกลียดซู่เป่า ตอนแรกคุณปู่เหลาจะรับเธอเป็นศิษย์แท้ๆ แต่กลับโดนอีกฝ่ายแย่งไป!

แม่ของเสวี่ยเอ๋อร์รีบวิ่งตามไปทันที

**

เมื่อส่งอาจารย์เหลาเรียบร้อย ซู่เป่าก็กลับมาที่ห้อง อาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนเรียบร้อย

ชุดนอนขนนุ่มสีชมพูมีหมวกฮู้ด บนฮู้ดนั้นมีหูกระต่ายยาว ทำให้เด็กน้อยดูน่ารักมากขึ้นไปอีก

นายหญิงซูลูบหัวเธออย่างเอ็นดู ก่อนที่จะเอ่ยออกมา “ให้ยายนอนเป็นเพื่อนซู่เป่าไหม?”

ซู่เป่าจับผ้าห่มก่อนที่จะส่ายหน้าไปมา “ไม่ต้องค่ะ ซู่เป่านอนคนเดียวได้”

นายหญิงซูลูบผมนุ่มของเด็กน้อย เด็กคนนี้น่ารักรู้เรื่อง ทำให้อดเอ็นดูไม่ได้

“มีอะไรก็เรียกยายนะ กดปุ่มนี้เลย”

ซู่เป่าพยักหน้ารับ ก่อนที่จะบอกราตรีสวัสดิ์กับคุณยายอย่างว่าง่าย รอจนคุณยายเดินออกไป

จี้ฉางยืนพิงอยู่อีกฝั่ง เหอะๆ ๆ

คิดถึงเมื่อกี้ตอนที่อยู่ในห้องหนังสือ ตาแก่นั้นแย่งลูกศิษย์ของเขาไป

สมัยนี้ ขนาดเป็นอาจารย์ก็ยังมีคู่แข่งเหรอเนี่ย??

“เฮ้อ เป๋าน้อย อาจารย์จะสอนพลังเวทย์ให้แล้วกัน รู้จักพลังเวทย์ใช่ไหม? แค่ร่ายนิดเดียวก็เกิดลูกบอลไฟขึ้นมาได้แล้ว”

“ถ้าไม่เอา ให้ข้าสอนจับผีก็ได้ แต่ว่าต้องเบิกเนตรให้เจ้าก่อนนะ ต้องเบิกเนตรก่อนเจ้าจึงจะเห็นข้าได้”

ซู่เป่าเอียงศีรษะ “หนูไม่เรียนหรอก!”

“หนูจะเรียนวาดภาพกับอาจารย์เพื่อนยาก นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่เด็กควรทำ”

จี้ฉางแค่นหัวเราะออกมา “เด็กควรต้องทำอะไร?”

ซู่เป่ายกมือขึ้นมานับ “กินข้าว นอน วาดรูป เล่นกับเสี่ยวอู่”

ห้องของซู่เป่าและห้องด้านข้างนั้นทุบให้เป็นห้องเดียวกันแล้ว ห้องด้านข้างทากำแพงให้บรรยากาศเป็นป่าไม้ของเขตร้อน เสี่ยวอู่อยู่ที่นั่น

ห้องใหญ่มาก มีเพียงประตูกั้นกลางระหว่างห้องเธอและข้างๆ เท่านั้น

เสี่ยวอู่ที่กำลังจะนอนนั้นลืมตาขึ้นมาทันที ก่อนที่จะเอียงหัวแล้วร้องออกมา “เล่นกับเสี่ยวอู่! เอิ้กๆ ๆ~!”

ซู่เป่าหัวเราะออกมาทันที ก่อนที่จะแกล้งทำเป็นโดนยิงแล้วสลบลงบนเตียง “อ้ะ ฉันตายแล้ว”

เสี่ยวอู่ “แกว๊ก ๆ ๆ !”

จี้ฉางมุมปากกระตุกขึ้นมาทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเห็นร่างกายของเธอที่แปลกไม่เหมือนใคร เหมาะกับการใช้พลังเวทย์แล้วล่ะก็…..

เอ้ย ถุ้ย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขารับปากซูจิ่นอวี้ไว้ เขาไม่มีทางมาขอร้องเด็กแบบนี้หรอก!

จี้ฉางลูบจมูกไปมาก่อนที่จะเอ่ยออกมา “เป๋าน้อย ลืมไปแล้วเหรอว่าตอนอยู่บนสวรรค์แม่ของเจ้าบอกกับเจ้าไว้ว่าอย่างไร?”

วันนั้นที่เขาช่วยให้ซูจิ่นอวี้มาเข้าฝัน ในฝันซูจิ่นอวี้ฝากฝังให้ซู่เป่าดูแลคุณยาย จากนั้นก็หมดเวลา เธอจึงหายไป

สุดท้ายเสี่ยวซู่เป่าก็ร้องไห้ไม่หยุด

เขาไม่มีทางเลือก จึงปลอมเป็นซูจิ่นอวี้อยู่บนเมฆขาวกับเธอ เล่นกับเธออยู่บนสายรุ้งอยู่นาน กว่าซู่เป่าจะหายเศร้า

ในเวลาเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะทิ้งคำพูดเพื่อตัวเองไว้ด้วย

“ถ้าอย่างนั้นซู่เป่าไม่อยากมี! ซู่เป่าไม่อยากมีตาที่สาม!”

“มันเหมือนเทพเจ้าสามตา น่าเกลียดจะตาย!”

จี้ฉาง “……..”

เทพเจ้าสามตาเท่จะตาย!

ถ้าเทพเจ้าสามตามาได้ยิน จะปวดใจขนาดไหนเนี่ย

จี้ฉางเอ่ย “เนตรสวรรค์จะไม่ปรากฎออกมาให้เห็น มันจะซ่อนอยู่ในสองตาของเจ้า”

ซู่เป่าถอนหายใจ “ถ้าอย่างนั้นก็ได้…..แบบนั้นโอเคอยู่”

จี้ฉางเอ่ยต่อไป “มา ท่องตามอาจารย์ เพ่งจิตไปที่ลมหายใจ รวมสมาธิไว้ที่ดวงตา บลาๆ ๆ…….”

เสี่ยวซู่เป่า “เพ่งจิตไปที่ลมหายใจ รวมสมาธิไว้ที่ดวงตา บลาๆ ๆ…….”

ดวงตาของจี้ฉางมีแววความสนุกสนานสว่างวาบ “ใช้แรงเบ่งตรงท้อง เอาตดเหม็นออกมา”

เสี่ยวซู่เป่าท่องตามอย่างว่าง่าย “ใช้แรงเบ่งตรงท้อง เอาตดเหม็นออกมา”

เธอพูดตามไปเหมือนโดนจับวาง

แล้วก็มีตดเหม็นๆ ออกมาดังปู๊ด

จี้ฉางหลุดหัวเราะออกมา ตลกแทบตาย

เป๋าน้อยนี่ตลกจริงๆ ตลกมากเลย!

ทว่าเด็กน้อยยังคงหลับตา ปากก็เอ่ยถามออกมา “อาจารย์คะ ทำไมหนูมองอะไรไม่เห็นเลย!”

จี้ฉางเอ่ยออกมา “เบิกเนตรสวรรค์ไม่ได้ทำกันง่ายๆ คนที่ข้าเจอมีพรสวรรค์มากที่สุด ยังต้องใช้เวลาถึงสี่สิบเก้าวันเลย”

ตอนนี้เอง อยู่ๆ เสี่ยวซู่เป่าก็ลืมตาโพล่งขึ้นมา

เธอเหมือนเห็นแสงสว่างวาบเข้ามาในตาแล้วหายไป จากนั้นอยู่ๆ เธอก็เห็นเงาสีขาวๆ อยู่ในห้อง

เขายืนพิงตู้แล้วแคะหูไปด้วย “ดังนั้นเจ้าไม่ต้องใจร้อนไปหรอก อาจารย์ลองคาดคะเนดูแล้ว พรสวรรค์อย่างเจ้าก็น่าจะประมาณสี่สิบเก้าวันนั่นแหละ”

พูดไป เขาก็ใช้มือที่แคะขี้หูยื่นไปตรงจมูกตัวเองแล้วดม

ซู่เป่ากระพริบตาปริบๆ ก่อนที่จะเอ่ยถาม “อาจารย์ ทำไมต้องดมขี้หูด้วย?”

จี้ฉางหัวเราะออกมา “พูดมั่วอะไร! ข้าทำที่ไหนล่ะ….เดี๋ยวก่อนนะ! เจ้ามองเห็นข้าแล้ว?”

“????”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน