เตียงน้ำรั่ว
มีเสียงดังครืน น้ำพุ่งทะลักออกมาทางรูรั่วอย่างรุนแรง
สีสำหรับวาดภาพของซู่เป่าที่อยู่บนตู้ปลายเตียงถูกน้ำพัดลงมาทั้งหมด ตอนนนั้นในห้องเต็มไปด้วยสี พรมบนพื้นก็เปียก เละเทะยุ่งเหยิงไปหมด
ซู่เป่า หานหาน ซูจื่อซีและซูเหอเวิ่นพวกเขานอนเปียกอยู่บนเตียงหน้าตางงงวย ผ้าห่ม หมอนและของอื่น ๆ ก็เปียกหมด
ปลั๊กไฟที่ถูกน้ำสาดช็อตดังแปรี๊ยะ เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและมีควันพวยพุงออกมา
เสี่ยวอู่ที่กําลังหลับสนิทตกใจกลัวจนบินว่อนร้องกร๊าก มันตะโกนเสียงดังว่า “ช่วยด้วย ช่วยด้วย คราวนี้ไฟไหม้จริง ๆ”
คฤหาสน์ตระกูลซูตกอยู่ในความมืด
ซูเหอเหวิน “...”
ครึ่งนาทีต่อมาพลังงานสำรองจะเริ่มทำงาน ช่างไฟฟ้าก็เร่งซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน
นายหญิงซูจึงรีบวิ่งมาดูสภาพเละเทะภายในห้อง รู้สึกว่าความดันกำลังขึ้นสูง
“ฝีมือใคร?” นายหญิงซูตะคอก
เด็ก ๆ พากันก้มหน้า ไม่กล้าส่งเสียงสักแอะ
ซู่เป่ายกมือขึ้นอย่างระมัดระวัง “คุณยาย เป็นความคิดของซู่เป่าเองค่ะ”
นายหญิงซู “...”
หานหานรีบพูดต่อขึ้นมาว่า “หนูก็มีส่วนด้วยค่ะ”
ซูเหอเวิ่นก้าวออกมา “ทั้งหมดนี้เป็นฝีมือผมเองครับ”
ซูจื่อซี: “... ผมก็มีส่วนร่มด้วยด้วย”
ซูเหอเหวินเงียบไปพักใหญ่ ช่างมันเถอะ ใครใช่ให้เขาเป็นพี่คนโตล่ะ
“คุณย่า เตียงน้ำนี่ผมเป็นคนทําเอง น้อง ๆ ไม่รู้เรื่องด้วย ผมเป็นผู้นำที่ไม่ดีเอง มันเป็นความผิดของผม”
ซูเหอเหวินที่น่าสงสาร เข้ามาไม่ได้ทำอะไรแต่ก็มาเป็นแพะรับบาปแทน
นายหญิงซูถลึงตา “ออกไปยืนทำโทษทั้งหมดเลย! เดี๋ยว เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วค่อยไป ออกไปยืนทำโทษทูนกะละมังน้ำไว้บนหัวด้วย”
เด็ก ๆ ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเชื่อฟัง แต่ละคนทูนกะละมังน้ำไว้เหนือศีรษะ เอามือจับขอบสองข้างไว้ ยืนชิดกับกําแพงไม่ตุกติก
เมื่อซูอีเฉิน มู่กุยฝานกับคนอื่นตาม ก็เห็นเด็ก ๆ ยืนเรียงเป็นแถวอยู่ที่โถงทางเดิน
แต่ละคนมีกะละมังใส่น้ำบนหัวคนละใบ โดนลงโทษให้ยืนน่าสงสาร
นี่คือการ... รับผิดชอบร่วมกันจริง ๆ
ซูจิ่นอวี้มองเด็กๆ ที่ถูกลงโทษให้ยืนเรียงแถวแล้วก็อดไม่ได้ขำพรวดออกมา
คิดถึงภาพตอนที่เธอถูกลงโทษเมื่อตอนเด็ก ๆ พี่ชายทั้งหลายต่างมายื่นทำโทษเป็นเพื่อนเธอ
ไม่คิดว่าผ่านไปสิบกว่าเกือบยี่สิบปีแล้ว เธอจะได้เห็นฉากแบบนี้อีกครั้ง
สมกับที่เป็นแม่ของเธอจริง ๆ เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
มู่กุยฟานนึกขำถามว่า “เกิดอะไรขึ้น พวกลูกถอดแผงวงจรกันหรือไง?”
ซู่เป่าพูดด้วยความซื่อสัตย์ว่า “พ่อคะ เปล่านะ เราแค่ทําเตียงน้ำแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง แล้วเตียงน้ำก็รั่ว...”
หานหานเปิดปากพูดตามอย่างไร้เดียงสา “แล้วน้ำก็สาดใส่ปลั๊กไฟ...”
ซูจื่อซีทําหน้าไม่แยแส “จากนั้นไฟฟ้าก็ลัดวงจรแล้วก็ช็อตไหม้”
ซูเหอเวิ่นพูดว่า “เอ่อ เป็นเพราะเตียงน้ำที่ผมทําไม่แข็งแรงพอ... ผมรู้แล้ว เราใช้วัสดุไม่ถูกต้อง”
หานหาน “หนูว่ามัดปากไม่แน่นมากกว่า!”
ซู่เป่า “หนูคิดว่าหนูหนักเกินไป และพวกเราไม่ควรกลิ้งไปกลิ้งมา”
เด็ก ๆ คุยกันจอแจ ปรึกษากันว่าทําไมเตียงน้ำถึงแตกและสรุปประสบการณ์ในครั้งนี้ การทําเตียงน้ำครั้งต่อไปต้องใช้ถุงพลาสติกครอบสองชั้น
การโดนลงโทษให้ยืนทูนกะละมังน้ำไว้บนหัวก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาหยุดพูดได้
นายหญิงซูปวดขมับ กัดฟันมองซูอีเฉินและมู่กุยฝาน เตียงน้ำอะไร กลิ้งไปกลิ้งมาอะไร เด็กรู้เรื่องพวกนี้ได้ไง”
ซูอีเฉิน “...”
มู่กุยฟาน “...”
ไม่เกี่ยวกับพวกเขาสักหน่อย!!
นายหญิงซู “นี่แต่ละวันพวกเธอสอนอะไรแกตอนไปข้างนอกบ้างเนี่ย ไม่มีใครฟังคนแก่อย่างฉันแล้วใช่ไหม? ให้เร็วเลย ไปยืนกันให้หมด!”
ซูอีเฉิน and มู่กุยฝาน “...”
พวกเขาควรจะอยู่ในห้อง ไม่ควรมาอยู่ที่นี่
ดังนั้นในแถวเด็ก ๆ จึงมีเงาร่างสูงใหญ่หลังตรงเด่วเพิ่มขึ้นอีกสองคน...
เมื่อกี้เพิ่งเห็นแม่ยิ้มอยู่แท้ ๆ แต่จู่ ๆ ท่านก็ดูเศร้าสร้อยขึ้นมา
ซู่เป่ารู้ว่าแม่ต้องกลัวคุณยายเสียใจ เลยไม่กล้ามาเจอคุณยายอีก
แล้วคุณยายจะอยากเจอแม่อีกไหม?
นายหญิงซูลูบหัวเล็ก ๆ ของซู่เป่าท่านปวดใจมาก “ซู่เป่าคิดถึงแม่เหรอลูก? ยายก็จะคิดถึงแม่ของหนูเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร แม่ของหนูยังอยู่ในใจของเราเสมอ...”
ซู่เป่าเงยหน้ามองท่าน “คุณยาย คุณยายอยากเจอแม่ไหมคะ?”
นายหญิงซูยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ตอบว่าอยากเจอหรือไม่เจอ เพียงแต่พูดว่า “นอนเถอะ”
ท่านก็อายุเจ็ดแปดสิบแล้ว
รอท่านแก่ตายก็จะได้เจออวี้เอ๋อร์ของท่านแล้ว!
ดังนั้นจะเจอหรือไม่เจอก็ไม่สําคัญ ที่สําคัญกว่านั้นคือซู่เป่าของท่านต้องอยู่ดีมีสุข
ซู่เป่าเม้มริมฝีปาก แม่กําลังจะไปเกิดใหม่แล้ว ต่อไปจะไม่มีใครได้เจอท่านอีกแล้ว
แต่แม่ก็เคยเจอลุงใหญ่แล้ว แม่กับยายดูเหมือนจะกลัวการบอกลามากทั้งคู่...
นี่เป็นเพราะอะไรกันนะ?
ซู่เป่าตัวน้อยไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ของผู้ใหญ่ได้ เธอค่อย ๆ หลับตาและจมลงไปในความฝัน
หานหานที่อยู่ด้านข้างพลิกตัว ฟี้... ฟี้... ฟี้...
นายหญิงซูยิ้ม ท่านคลุมผ้าห่มบาง ๆ ให้กับเด็กสองคนและปรับเครื่องปรับอากาศให้ถึงได้ออกไป
ซูจิ่นอวี้ยืนอยู่ที่ประตู อดไม่ได้ที่จะเรียกเสียงเบาว่า “แม่...”
นายหญิงซูไม่เห็นอะไร แค่มีความรู้สึกน่าอัศจรรย์บางอย่างเกิดขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ
เธอพึมพําว่า “อวี้เอ๋อร์แม่รู้ว่าลูกต้องอยู่ที่นี่แน่ ๆ ลูกอยู่ที่นี่ตลอดเลยใช่ไหม?”
“ขอแค่แม่รู้แค่นี้ก็พอแล้ว”
ท่านไม่ได้คาดฝันว่าจะต้องได้เจอกัน เพียงแต่หวังว่าทุกคนจะอยู่ดีมีสุข ทั้งซู่เป่า อวี้เอ่อร์และลูกหลาน ๆ... แค่นี้ก็พอแล้ว
ซูจิ่นอวี้มองแผ่นหลังที่เดินโซเซของนายหญิงซูแล้วจู่ ๆ ก็คิดได้ขึ้นมา
เจอหรือไม่เจอเป็นเพียงทางเลือกหนึ่ง ไม่ใช่ผลลัพธ์...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...