พอเห็นซูจื่อหลินนิ่งงันไม่พูดไม่จา ซูจิ่นอวี้ก็ลอบถอนหายใจ
พี่รองเป็นคนเงียบ ถึงในใจจะมีคำพูดอยากพูดมากมายแค่ไหน แต่สุดท้ายก็จะกลายเป็นความเงียบงัน
เธอแสร้งทำเป็นผ่อนคลาย พูด “พี่สี่เอาเหล้าดีมาแล้ว พวกเราขึ้นหลังคาด้วยกันเถอะ!”
“ฉันจะไปเรียกพี่ห้ากับพี่แปดนะ!”
ซูจิ่นอวี้พูดก่อนจะออกไปด้วยสีหน้าตื่นเต้น ท่าทางอย่างกับอดรนทนไม่ไหว
ซูจื่อหลินมองเธอเงียบๆ
เขารู้จักเธอดี
เธอแค่ทำเป็นผ่อนคลายเท่านั้น
ซูอีเฉินมองเขาทีหนึ่งแล้วพูด “ไปกันเถอะ”
ซูจื่อหลินลุกขึ้นมา พูด “ผมจะไปดูหน่อย”
ดังนั้นทั้งสองจึงตามซูจิ่นอวี้อยู่ข้างหลังจนถึงห้องของซูอิ๋งเอ่อร์
ซูอิ๋งเอ่อร์กำลังนอนครอกๆ สองมือรองอยู่ที่ศีรษะ ชันขาข้างหนึ่ง ล้มพับไปด้านข้างเป็นครั้งคราว
ซูจิ่นอวี้กลั้นขำ เรียกก่อนทีหนึ่ง “ซูอิ๋งเอ่อร์!”
จากนั้นเธอก็นั่งยองลงทันที
ซูอิ๋งเอ่อร์ลืมตาขึ้นพรึบ สะลึมสะลือมองรอบๆ
ใครเรียกเขาน่ะ
ไม่เห็นมีใครเลย เขาสงสัยว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่า
แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงก๊อกแก๊กดังมาจากใต้เตียง ซูอิ๋งเอ่อร์มองไปตามสัญชาตญาณ...
มือขาวซีดข้างหนึ่งจับข้างเตียงขวับ จากนั้นผีสาวเส้นผมยาวปิดหน้าก็คลานออกมาจากใต้เตียง
เส้นผมบังใบหน้าเธอไปกว่าครึ่ง เผยดวงตาข้างหนึ่งจ้องเขาเขม็ง
ซูอิ๋งเอ่อร์ เฮ้ย!!!
เขากระโดดเด้งขึ้นมาราวถูกไฟช็อต ถอยหลังกรูด ของที่อยู่โต๊ะหัวเตียงตกลงมาระนาว
ซูจิ่นอวี้คลานขึ้นเตียง หัวเราะแหะๆ คลานไปทางเขาพลางเอื้อมมือข้างหนึ่ง “พี่ห้า...พี่ห้า...ไปดื่มเหล้าด้วยกันเถอะ!”
ซูอิ๋งเอ่อร์ “!!!”
ขณะที่เขากำลังจะถอนเท้าเผ่นแนบก็ชะงักงัน “อวี้เอ๋อร์!”
ซูจิ่นอวี้เบะปาก เก็บผมแล้วบ่นอุบ “ไม่สนุกเลย พวกพี่จำฉันได้หมด กว่าฉันจะได้เป็นผีสักครั้ง หลอกคนเป็นครั้งแรก พวกพี่ดันรู้ว่าเป็นฉันเสียได้”
“ไม่ให้โอกาสฉันได้วิ่งตามพวกพี่พันห้าร้อยเมตรเลย”
ซูอีเฉินและซูจื่อหลินที่อยู่นอกประตู “...”
ซูอิ๋งเอ่อร์เผยอปาก “อวี้เอ๋อร์ เอาอีกรอบนะ คราวนี้พี่จะต้องวิ่งพันห้าร้อยเมตรแน่นอน...”
ซูจิ่นอวี้ลอยไปกอดคอซูอิ๋งเอ่อร์ พูดกลั้วหัวเราะ “ไม่เล่นแล้ว พี่สี่รออยู่บนหลังคาแน่ะ!”
ซูอิ๋งเอ่อร์อ้าปาก มองซูจิ่นอวี้แบบตาไม่กะพริบ
อวี้เอ๋อร์ตายไปแล้ว...
ตอนนี้เขาเห็นเธอ กำลังฝันอยู่เหรอ
ถ้าอยู่ในฝัน โปรดให้เขาฝันนานอีกหน่อย อย่าตื่นเร็วอย่างนั้นเลย...
ซูจิ่นอวี้เห็นเขาเหม่อก็เลยโบกมือ “พี่ห้า พี่เหม่ออะไรน่ะ! เร็วเข้าสิ ฉันจะไปเรียกพี่แปดนะ!”
พูดจบก็ลอยไปทางห้องของซูอี้เซินด้วยความรีบร้อน
ซูอิ๋งเอ่อร์มองซูจิ่นอวี้ตาค้าง จากนั้นก็รีบตามไป
เมื่อนั้นจึงเห็นซูอีเฉินกับซูจื่อหลินก็อยู่ที่ปากประตูด้วย เขารีบถาม “พี่ใหญ่ พี่รอง พวกพี่เห็นอวี้เอ๋อร์ไหม”
ซูอีเฉินพยักหน้า ซูจื่อหลินนิ่งงัน
ซูอีเฉินห้ามสองคนที่จะตามไปแล้วพูดขึ้น “จื่อหลินไปเอาของ อวี้เอ๋อร์ชอบกินอะไรก็เอามาให้หมด”
ซูอิ๋งเอ่อร์ “พี่สี่เก็บเหล้าไว้ไหหนึ่ง คราวก่อนผมขโมยดื่มไปสองอึก...ผมจะไปหาพี่สี่”
เพื่อไม่ให้พี่สี่รู้ เขาเลยซ่อนเหล้าไหนั้นไว้ ตอนนี้พี่สี่กำลังอารมณ์เสียอยู่แน่
ในห้องของซูอี้เซิน เขากำลังนอนอยู่ อยู่ดีๆ ก็มีความรู้สึกจึงลืมตาขึ้น เห็นผีสาวตนหนึ่งในชุดสีขาวปลอด สยายผมลงมา ลอยอยู่เหนือเขา
พอเห็นเขาตื่น ผีสาวก็หึๆ เสียงหนึ่ง พูดด้วยความคับแค้นใจ “พี่...ตื่น...แล้ว...ฉันรอพี่มานานมากแล้ว...”
ซูอี้เซินนัยน์ตาหดเล็ก จากนั้นก็ตะลึงงัน!
เห็นผีสาวยื่นมือที่มีเล็บสีแดงแจ๋ออกมาตรงๆ จะบีบคอของเขา
ซูจิ่นอวี้พาดตัวอยู่กับราวกั้น กวักมือเรียก “พี่สี่ มีข้าวเกรียบกุ้งรสไก่งวงไหม ฉันจะกิน!”
ซูลั่วเงยหน้า เห็นซูจิ่นอวี้อยู่ชั้นบนกวักมือเรียกเขาเหมือนกับตอนเด็กๆ
เพียงแต่ตอนเด็กๆ เธอจับราวกั้นสองอันแล้วมุดศีรษะโผล่ออกมาจากราวกั้นเท่านั้น
ทำเอาพ่อแม่ตกใจจนทำราวกั้นให้มีช่องเล็กแบบที่เธอเอาหัวลอดออกมาไม่ได้ในคืนนั้นเลย
ตอนนี้เธอเอาตัวพาดอยู่กับราวกั้น โตแล้ว แต่ท่าทางยังเหมือนกับตอนเป็นเด็ก
ซูลั่วแววตาเศร้าเล็กน้อย ตอบเสียงนุ่ม “ต้องมีสิ”
เมื่อนั้นซูจิ่นอวี้จึงพอใจ อยากจะขึ้นหลังคาเสียตอนนี้เลย
เธอลอยตัวไปอยู่ข้างพวกพี่ชายเจื้อยแจ้ว
ประเดี๋ยวก็บอกว่าจะดื่มเหล้า ต้องดื่มให้เมาไปเลย
ประเดี๋ยวก็ถามอีกว่าผีดื่มเหล้าได้ไหม
หยุดแพล็บเดียวก็พูดไม่หยุดอีก พี่ใหญ่พี่สะใภ้ฉันล่ะ พี่สี่พี่สะใภ้ฉันล่ะ พี่แปดพี่สะใภ้ฉันล่ะ
พี่น้องตระกูลซูมองดูเธออยู่อย่างนี้ การได้อยู่พร้อมหน้าอย่างหาได้ยากนี้ ทำให้พวกเขาอดเจ็บแปลบในใจนิดๆ ไม่ได้
อาคารหลักของตระกูลซูมีอยู่ห้าชั้น ปกติครอบครัวจะรวมตัวกันอยู่ที่ชั้นสอง ชั้นสามเป็นห้องหนังสือ ห้องรับแขกอะไรทำนองนี้
ชั้นสี่เป็นห้องใหญ่ เป็นห้องแสดงวัตถุโบราณของคุณท่าน อีกฝั่งหนึ่งเป็นโต๊ะบิลเลียด โฮมเธียเตอร์อะไรประมาณนี้
ชั้นห้าครึ่งหนึ่งเป็นห้องกระจก ดาดฟ้า อีกครึ่งเป็นหลังคาพีระมิดแหลมทรงกลมและหลังคาที่ห้องกระจก
หลังคาที่ซูจิ่นอวี้บอกว่าจะไปไม่ใช่ดาดฟ้า แต่หมายถึงหลังคาที่ต้องปีนขึ้นจากห้องกระจก ตอนเด็กๆ มักถูกนายหญิงซูดุเป็นประจำว่าดาดฟ้าใหญ่ออกอย่างนั้นไม่อยู่ ต้องปีนขึ้นไปเหมืองลิงเหมือนค่างให้ได้
พอได้เห็นภาพนี้อีกครั้ง เหล่าพี่น้องก็พากันสะท้อนใจแบบเศร้าๆ รู้สึกอาลัยอาวรณ์และหดหู่เล็กน้อย
“ฉันขึ้นไปก่อนนะ” ซูอิ๋งเอ่อร์กล่าว
เหล่าพี่น้องแหงนหน้ามองด้านบน ทันใดนั้นเงาร่างเล็กๆ ก็ปรากฏอยู่ตรงชั้นบนสุดของบันไดแบบไม่สุ้มเสียง สยายผม กอดอะไรกลมๆ อยู่ในอก
“แม่...แม่...”
เหล่าพี่น้อง “!!!”
ดึกดื่นเที่ยงคืน...เด็กคนหนึ่งกอดอะไรกลมๆ ร้องเรียกแม่ๆ ด้วยเสียงเนิบนาบ
คราวนี้เหล่าพี่น้องตกใจกันจริงๆ แล้ว ตกใจจนแทบขวัญเตลิดเปิดเปิง...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...