มู่กุยฝานที่ไม่ควรค่าให้พูดถึง ในที่สุดในวินาทีสุดท้ายก่อนซูจิ่นอวี้จะจากไปก็ถูกพูดถึงแล้ว
เขากอดอก อดไม่ได้ที่จะยิ้มและส่ายหัวอย่างจนใจ มองดูซูจิ่นอวี้จากไป
ตระกูลซูเข้าสู่ความเงียบสงัดอย่างสมบูรณ์
คฤหาสน์ที่ใหญ่โตแห่งนี้ ราวกับสีสันความมีชีวิตชีวาได้มลายหายไปในชั่วพริบตา
ความคึกคักเมื่อครู่ ตอนนี้เหลือเพียงความเศร้าสลด
มู่กุยฝานเริ่มเข้าใจแล้ว เมื่อห้าปีก่อนตอนที่ซูจิ่นอวี้หายไปทั้งตระกูลซูใจสลายแค่ไหน...
ซู่เป่าพาดตัวอยู่ในอ้อมอกของซูอีเฉิน มองเงาร่างของซูจิ่นอวี้ตาไม่กระพริบ
จนกระทั่งสุดท้ายเธอหายไป มองไม่เห็นอีก
“ลาก่อนค่ะแม่ แม่คะ ไปสู่สุคตินะคะ...”
ซู่เป่าพูดพลางค่อยๆ หลับตาลง
ในฝันเธอส่งแม่ข้ามน้ำพุเหลือง และขึ้นสะพานไน่เหอ
ยายเมิ่งยกน้ำซุปมาให้ถ้วยหนึ่ง พอแม่ดื่มจนหมดก็เลียปากทำเสียงดังจุ๊บจั๊บๆ และพูดขึ้นอย่างอวดดีว่า เอามาอีกถ้วย
แม่ยังให้คำแนะนำในการดื่มด้วย แนะนำให้ยกระดับการปรุงยาเอย แนะนำให้ยกระดับความสามารถในการประกอบธุรกิจเอย...
ใบหน้าของยายเมิ่งเคร่งขรึม อาจารย์ยิ่งเอามือปิดหน้าราวกับขายหน้าอย่างนั้น...
ซู่เป่าที่กำลังนอนหลับฝันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะหึๆ ฮ่าๆ ออกมา สุดท้ายแสดงเป็นยิ้มอวดดีเหมือนกับแม่
ซูอีเฉินที่อุ้มซู่เป่าอยู่ “...?”
วันต่อมาขณะที่ซู่เป่าตื่นขึ้นมา ตระกูลซูก็เตรียมของเซ่นไหว้เสร็จแล้ว
พระอาทิตย์ขึ้น ชีวิตก็ยังต้องดำเนินต่อไป
ในรอยยิ้มของนายหญิงซูแฝงไปด้วยความเศร้าเล็กน้อย เบื้องหลังใบหน้าอันเคร่งขรึมของคุณท่านซูเหม่อลอยอยู่เป็นครั้งคราว เหล่าพี่น้องทั้งแปดแห่งตระกูลซูตั้งใจทำตัวให้ยุ่ง พยายามไม่คิดถึงเรื่องที่ซูจิ่นอวี้เพิ่งจากไปเมื่อวาน
ซูอีเฉินนิ่งเงียบ เมื่อวานอวี้เอ๋อร์เพิ่งจะปรากฏตัวแค่วันเดียวก็ทำให้ซูอีเฉินไม่อยู่กับร่องกับรอยขนาดนี้แล้ว หากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไประยะหนึ่ง คงยิ่งตัดใจไม่ได้สินะ...
ซู่เป่าใส่หมวกจิ๋วสีเหลือง สะพายกระเป๋าสัตว์เลี้ยงสัตว์อย่างเคย ไปที่ไหนก็อยากพาสองคู่หูของตัวเองไปด้วย เสี่ยวอู่กับคุณปู่เต่าเดินออกมาพร้อมกัน
หานหานคือคนที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวที่สุด วันนี้ไม่เพียงแค่ไม่ต้องทำการบ้าน แต่ยังได้ออกไปเล่นอีกด้วย แม้จะต้องไปหลุมศพเธอก็ดีใจ!
“ออกเดินทางๆๆ!” หานหานถามขึ้นอย่างกระตือรือร้นว่า “ต้องเอาสไปรท์ไปให้บรรพบุรุษสักหน่อยไหมคะ”
นายหญิงซูได้สติกลับมา ทั้งโกรธและทั้งตลก “หนูจะเอาไปให้บรรพบุรุษหรือว่าตัวเองกันแน่”
หานหานพูดขึ้นอย่างมีเหตุผล “ให้บรรพบุรุษสิคะ! หนูไม่ดื่มสไปร์ท”
ใบหน้าของซู่เป่าเต็มไปด้วยสีหน้า ‘หนูมองพี่ออกแล้ว’ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พี่หานหาน ที่พี่พูดเชื่อได้กี่ส่วน”
หานหานส่ายหน้าด้วยความซื่อสัตย์สุดๆ
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา แล้วมองความสนุกสนานที่ไร้กังวลของเด็กๆ ความหนักอึ้งสลายไปอย่างไม่รู้ตัว
นายหญิงซู คุณท่านซู ซูอวิ๋นเจา ซูจื่อหลินและหานหานนั่งรถคันเดียวกัน
ส่วนซู่เป่ากับลุงคนอื่นๆ นั่งรถไปอีกคัน
รถเป็นรุ่นยาวพิเศษ ด้วยเหตุนี้แค่สองคันก็นั่งพอแล้ว
บนรถ ซูอี้เซินถามขึ้นว่า “ซู่เป่า ปรโลก โลกใต้พิภพนี่มันเป็นยังไงเหรอ พอคนตายแล้ว...ไปเกิดใหม่ยังไง”
เขาอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหว อยากรู้ว่าหลังจากที่อวี้เอ๋อร์ตายไปแล้วจะไปเจอกับอะไร ตอนนี้ไปเกิดใหม่หรือยัง แล้วไปที่ไหน...
ซู่เป่ากำลังจับมือเล่นกับคุณปู่เต่า เมื่อได้ยินคำถามก็เอียงศีรษะแล้วพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้พูดแล้วก็ยาว งั้นไม่พูดดีกว่า!”
ทุกคนที่กำลังเงี่ยหูฟัง “...”
เจ้าเด็กน้อยเลียนแบบสิ่งแย่ๆ มาจากไหนกันนะ
สายตาของลุงๆ พร้อมใจกันมองไปที่มู่กุยฝานที่กำลังขับรถอยู่
มู่กุยฝาน “...”
เดิมเมื่อวานเขาจะกลับไปคฤหาสน์ตระกูลมู่ก่อน พอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ตรงดิ่งมาขับรถไปส่งซู่เป่าก่อน แล้วเขาค่อยกลับไประหว่างทาง ใช้เวลาไม่นานมาก
เมื่อพูดถึงตรงนี้ซู่เป่าชะงักไปครู่หนึ่ง
อืม...ทุกครั้งที่พูดถึงตรงนี้ เธอมักจะมีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกอย่างหนึ่ง
ซูจิ่นม่อกำลังบันทึกอะไรบางอย่างในโทรศัพท์ แล้วถามขึ้นว่า “จุดที่เก้าล่ะ”
ซู่เป่า “จุดที่เก้านรกสิบแปดชั้น หากมีความผิดก็เดินไปจุดที่เก้านรกสิบแปดชั้น ถ้าไม่มีความผิดก็ไปจุดที่สิบเอ็ดป้อมปราการโลกผี เหล่าผีจะอาศัยอยู่ตรงนี้! หรือเวียนว่ายตายเกิดเป็นผี หรือสั่งสมบุญ หรือบำเพ็ญตน...รอจนกว่าใกล้จะหมดอายุขัยผี แล้วค่อยเข้าไปยังตำหนักสิบเพื่อรับการพิพากษามาเกิดใหม่”
ซูลั่วตกตะลึงงัน “บำเพ็ญตนงั้นเหรอ”
ซู่เป่าพยักหน้า “อืม! อาจารย์บอกน่ะ หนูเองก็ไม่รู้เหมือนกัน! อาจารย์บอกว่าจุดที่สิบสองก็คือแท่นดอกบัว ที่นี่คือแท่นบัลลังก์ดอกบัวที่พระเต่จงอ๋องเทศนาธรรมในนรก”
“แต่อาจารย์บอกว่า ผีที่บำเพ็ญตนได้มีน้อยมาก สะสมส่วนบุญได้แค่นิดหน่อยเท่านั้น”
เหล่าพี่น้องตระกูลซู “...”
โลกใบนี้ ช่างแตกต่างจากที่พวกเขาคิดเอาไว้จริงๆ ...
ไปไกลแล้ว ซูอิ๋งเอ่อร์ดึงหัวข้อสนทนากลับมา “เมื่อกี้เธอยังไม่ได้พูดถึงจุดที่สิบเลย”
ซู่เป่าพูดขึ้น “จุดที่สิบก็คือหอส่วนกุศล ปรโลกจะให้ญาติเผากระดาษเงิน รถ โทรศัพท์ คฤหาสน์ เสื้อผ้าอะไรต่างๆ ให้คนตาย ก็จะมาถึงตรงนี้”
มู่กุยฝานขมวดคิ้ว “เหมือนกับไปรษณีย์ไหม”
คนเป็นส่งของให้คนตาย หอส่วนกุศลส่งด่วน
สถานีขนส่งพัสดุแห่งปรโลก??
ดวงตาทั้งสองของซู่เป่าเปล่งประกาย “พ่อช่างฉลาดเสียจริงๆ!”
อันนี้เปรียบเทียบได้ถูกต้องมากๆ
ซู่เป่าเตะเท้าน้อยๆ พลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงร่าเริง “จุดที่สิบสามจุดสุดท้ายคือผาคืนวิญญาณ ด้านหน้าของผาคืนวิญญาณมีหินสามชาติสามภพ สะพานทองเงิน ยายเมิ่งนั่งอยู่ที่หัวสะพาน หลังดื่มซุปของยายเมิ่งแล้วก็จะไปเกิดใหม่”
ซูอิ๋งเอ่อร์อดไม่ได้ที่จะถามว่า “งั้นแม่ของเธอ..จะไปเกิดใหม่ที่ไหนเหรอ”
ทุกคนบนรถอดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟัง ซูอีเฉินแสร้งมองข้อมูลในมือถือ แต่ทว่าปลายนิ้วกลับหยุดชะงัก หน้าจอดับไปและไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...