ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 286

ซู่เป่าส่ายหน้า “ไม่รู้ค่ะ!”

“หน้าผาคืนวิญญาณมีห้าเส้นทางไปเกิดใหม่ ทางแรกเป็นเทพ ทางที่สองเป็นคน ทางที่สามเป็นเดรัจฉาน ทางที่สี่เป็นผีที่หิวโหย ทางที่ห้าเป็นนรก...”

“อาจารย์บอกว่าแม่อาจจะไปเกิดเป็นปลาหลีฮื้อ น่าจะเกิดในชาติของไก่ผัดดีๆ”

เมื่อได้ฟังจนถึงตรงนี้พวกซูอีเฉินเขาก็ไม่เข้าใจมากๆ

ซูอี้เซินถามขึ้นว่า “ไม่ได้หกทางเกิดใหม่เหรอ”

ใบหน้าน้อยๆ ของซู่เป่าทำท่าจริงจัง สั่นนิ้วชี้เลียนแบบท่าทางของจี้ฉาง “ไม่ถูกๆ ทางเต๋าห้าทาง ทางพุทธถึงจะมีทางเกิดใหม่หกทาง”

ทุกคน “อ๋อ...” ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ดูเข้าท่าดี

ลุงห้าที่มีคำถามเยอะแยะมากมายถามขึ้นอีก “ไม่สิ ผีจะกลับชาติมาเกิดเป็นผีอีกได้ยังไง ก่อนหน้านี้ตกนรกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังมีทางนรกอยู่อีกล่ะ”

ซู่เป่ามองไปที่ซูอิ๋งเอ่อร์ “ลุงห้า ลุงนี่โง่จริงๆ นี่มันขัดแย้งกันเหรอ”

ตอนมีชีวิตอยู่ไม่เป็นคนดีก็ต้องไปเกิดเป็นผีที่หิวโหย เป็นคนไปไม่ได้ชั่วนิรันดร์ และไม่สบายอย่างที่ป้อมปราการโลกผีด้วย

ตอนมีชีวิตทำแต่เรื่องไม่ดี ก็ต้องไปนรก ได้รับความทรมานอยู่ในนรกจนกว่าวิญญาณจะแตกสลาย

เข้าใจยากเหรอ

ซู่เป่ามองซูอิ๋งเอ่อร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

ซูอิ๋งเอ่อร์ “...”

ช่างเถอะ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะเข้าใจได้อยู่แล้ว

“ถึงแล้ว” มู่กุยฝานมองนาฬิกา “ผมจะมารับซู่เป่าสายหน่อยนะครับ”

ซูอีเฉินพยักหน้า แล้วลงจากรถไปก่อน

ซู่เป่าโอบคอมู่กุยฝาน แล้วจูบเขาทีหนึ่ง “เจอกันค่ะพ่อ!”

มู่กุยฝานลูบศีรษะน้อยๆ ของเธอ “อืม ระวังตัวด้วยนะ”

ซู่เป่าพยักหน้า “อืมๆ ค่ะ”

เมื่อสิ้นเสียง เธอก็กอดกระเป๋าสัตว์เลี้ยงกระโดดลงจากรถไป

มู่กุยฝาน “...”

ซูอีเฉินยกมือขึ้นรับซู่เป่าที่กระโดดลงมาเอาไว้ ในน้ำเสียงมีความจนใจ “ระวังหน่อย”

ซู่เป่าวิ่งไปหาพวกซูเหอเวิ่นเขาที่หน้ารถด้วยความเร็วราวกับบิน พลางพูดขึ้นว่า “ลุงใหญ่วางใจเถอะค่ะ หนูไม่ล้มหรอก!”

สิ้นเสียงเธอก็ล้มตึงลงไป พึมพำๆ แล้วกลิ้งไปรอบหนึ่ง

หัวใจของทุกคนเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่กลับเห็นซู่เป่าปีนขึ้นมา ตบก้นๆ แล้วรีบวิ่งไป

เสี่ยวอู่กระพือปีก “ไอ้หยาหน้าแตก ไอ้หยาๆ หน้าแตก!”

ซู่เป่ารีบเอื้อมมือเข้าไปในกระเป๋าสัตว์เลี้ยงแล้วปิดปากของเสี่ยวอู่

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะขำออกมา

หานหานยืนอยู่หน้าสุสานชิงซาน เธอเงยหน้าพยายามอ่านตัวอักษรสองสามตัวนั่น “ชิง...ซาน...ดิน...ซาน...ดินสานชิงซาน”

ซูเหอเหวินทนไม่ไหว “นั่นมันสุสานชิงซาน!”

มีข้างๆ อ่านข้างๆ ไม่มีข้างๆ อ่านตรงกลางใช่ไหม

หานหานสะบัดมือ “ไอ้หยาไม่เป็นไรนะ ก็ความหมายเดียวกันนั่นแหละ”

สุสานคือที่ที่ฝังหีบศพ ดินก็เอาไว้ฝังหีบศพเหมือนกัน

เปลือกตาของซูเหอเหวินกระตุก

ในฐานะที่เป็นเด็กสายศิลป์ ย่อมทนกับความผิดเล็กน้อยนี่ไม่ได้อยู่แล้ว เขากำลังอธิบายความหมายของคำว่าสุสานกับดินสานบ้าอะไรนั่นให้หานหานฟัง

แต่กลับเห็นหานหานหนีไปแล้ว

หานหานเห็นซู่เป่าวิ่งมา ก็เข้าไปจูงมือเธอเอาไว้ “ซู่เป่า ทำไมพวกเธอเพิ่งถึงล่ะ พ่อเธอขับรถช้ามากๆ! ไม่เหมือนพ่อของฉัน พ่อของฉันกล้าฝ่าไฟแดง”

ซู่เป่าตกตะลึง “ห๊ะ ฝ่าไฟแดงไม่ถูกสิ!”

ซูจื่อหลินถือของพลางพูดขึ้นอย่างอู้อี้ “ไม่ทันระวังน่ะ”

กำลังนึกถึงเรื่องของอวี้เอ๋อร์อยู่จึงสติหลุดนิดหน่อย ไม่ทันระวังก็เลยฝ่าไฟแดงเข้า

“สุสานส่วนนี้ราคาเท่าไรคะ” เธอมองใบรายการขายอย่างลังเล

พนักงานขายคิดคำนวณด้วยความรวดเร็ว “เอ่อ ราคาเดิมคือ...ตอนนี้มีกิจกรรม...ลดแล้วเหลือห้าแสนหกเองค่ะ!”

คุณหวังประหลาดใจ “แพงขนาดนี้เลยเหรอ”

ห้าแสนหก...หนึ่งตารางเมตรเนี่ยนะ

พนักงานขาย “ไม่แพงเลยจริงๆ ค่ะ! พวกเรายังแถมป้ายสุสาน ทำศพแบบเผาแล้วก็โถเก็บอัฐิด้วยนะคะ ถึงเวลานั้นพวกคุณวางใจได้เลยค่ะ แค่มาส่งก็พอแล้ว”

คุณหวัง “...”

เธอลุกขึ้นแล้วส่ายหัวพูดว่า “ไว้ค่อยว่ากันละกันค่ะ”

ทันใดนั้นสายตาของพนักงานขายก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง ก่อนจะพูดขึ้นใหม่ว่า “งั้นคุณเอาแบบศูนย์จุดสี่ตารางเมตรก็ได้นะคะ อันนี้ราคาสองแสนห้าเองค่ะ”

ท่าทีของเธอไม่ได้กระตือรือร้นขนาดนั้นแล้ว

คุณหวังกำลังพูดอยู่ ทันใดนั้นชายหนุ่มที่ห้อยป้ายผู้จัดการฝ่ายขายก็เดินออกมา เขายิ้มเล็กน้อย “คุณหวังครับ ถ้าชอบก็รีบจองเถอะครับ เลยวันนี้ไป ไม่แน่ว่าเราอาจจะไม่จัดกิจกรรมแล้ว”

เขายื่นสมุดเล่มหนึ่งมาให้ ข้างบนคือหลุมฝังศพของตระกูลอันหรูหรา “คุณดูสิครับ ตระกูลซูที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งยังตั้งหลุมฝังศพของตระกูลกับเราเลย พิสูจน์ได้ว่าฮวงจุ้ยของเราผ่านการทดสอบแล้ว อยู่ที่นี่ได้ ลูกชายลูกสาวรุ่นหลังจะไม่ลำบาก”

“ได้ยินเสียวหลี่บอกว่าคุณจองสุสานเอาไว้ให้คุณพ่อของคุณ คนอย่างรุ่นพ่อของเราน่ะ พวกเขาอยากได้อะไรก็ไม่พูด แต่ถ้าพวกเขาได้มาที่นี่ คิดว่าคงปลื้มใจมากแน่ๆ ครับ”

พอพูดมาอีก คุณหวังก็ลังเลอีก

แต่แพงมากจริงๆ...ห้าแสนหกได้หนึ่งตารางเมตร เป็นคน...ก็ลำบากมากอยู่แล้ว สุดท้ายจะอยู่ก็อยู่ยาก จะตายก็ยิ่งไม่ได้...

พนักงานขายแอบเบะปาก มองไปทางคุณหวังกับชายหนุ่มที่ไม่พูดไม่จาที่อยู่ข้างหลังเธอ

แม้จะไม่พูดอะไร แต่ในสายตากลับราวกำลังพูดว่า ไม่มีเงินก็ไม่ต้องมาซื้อที่นี่

ทันใดนั้นชายหนุ่มอายุราวยี่สิบห้ายี่สิบหกที่อยู่ข้างๆ คุณหวังก็ทำท่าทางราวกับนั่งอยู่บนพรมเข็ม เขาพูดเร่งเร้าว่า “พี่ครับ ถ้างั้นก็จองเลยเถอะ! หนึ่งตารางเมตรจะได้เหลือเฟือหน่อย หรือว่าพี่ไม่อยากให้พ่อได้อยู่สบายๆ หลังจากไปเหรอ”

คุณหวังชำเลืองมองเขาทีหนึ่ง “เงินไม่พอ ไม่งั้นนายก็จ่ายมาเพิ่มอีกหกหมื่นสิ”

น้องชายของคุณหวังเผยอปาก พูดขึ้นพึมพำๆ “ผมไม่มีเงินสักหน่อย...”

พูดจบยังมองพี่สาวด้วยความไม่พอใจทีหนึ่ง คิดว่าพี่สาวของเขาตั้งใจพูดให้เขาขายหน้าต่อหน้าผู้คน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน