ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 287

อันที่จริงคุณหวังสองจิตสองใจ เธอรู้จักพ่อของตัวเองดี เขากลัวเสียหน้าเป็นอย่างมาก

แต่นี่เกินกว่าที่เธอจะรับไหวแล้ว

คุณหวังถามขึ้นว่า “ลดอีกหน่อยได้ไหมคะ สี่แสนห้าได้ไหมคะ”

ผู้จัดการฝ่ายขายส่ายหน้าแบบไม่ต้องคิด “ลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในวันนี้เป็นราคาที่ดีที่สุดแล้ว ลดอีกไม่ได้แล้วครับ”

คุณหวังลุกขึ้นอย่างเหนื่อยล้าเล็กน้อย จากนั้นพูดขึ้นว่า “งั้นฉันขอคิดดูอีกหน่อยแล้วกันค่ะ”

ผู้จัดการฝ่ายขายเองก็ไม่เกรงใจเหมือนอย่างตอนแรกแล้ว เขาพยักหน้าอย่างส่งๆ “ได้ครับ คุณตัดสินใจแล้วค่อยมาละกันครับ!”

เมื่อทั้งสองคนเดินไปอีกทาง ผู้จัดการฝ่ายขายก็มองด้วยความเหยียดหยาม

เหอะ ทีแรกก็คิดว่าจะเป็นคนมีเงิน ที่แท้ก็เป็นแค่หมายาจก

สุสานชิงซาน พวกเขาคิดว่าใครอยากซื้อก็ซื้อได้เหรอ

ตระกูลซูตั้งหลุมฝังศพประจำตระกูลที่นี่ ไม่รู้ว่ามีคนอีกมากมายแค่ไหนที่อยากซื้อที่นี่แต่ซื้อไม่ได้ และวันนี้เปิดสุสานแห่งใหม่ แถมยังมีกิจกรรมอีกอีก

ปกติคนอื่นบอกว่าลดยี่สิบเปอร์เซ็นต์สิบเปอร์เซ็นต์ จะซื้อก็ต้องถามความสัมพันธ์

ซื้อไม่ไหวก็ไม่ต้องมา เสียเวลาคนอื่นเขา!

ขณะนี้เองมีชายหนุ่มสวมชุดสูทและรองเท้าหนังคนหนึ่งเดินมา เขาก็รีบไปรับหน้าอย่างเป็นมิตรทันที “ผู้จัดการซุนคุณมาแล้วเหรอครับ!”

“คุณว่าวันนี้จะจองได้แล้วใช่ไหมครับ...ที่ของเราดีแน่นอนครับ คุณดูสิครับนี่เป็นหลุมฝังศพของตระกูลของซูผู้ร่ำรวยอันดับหนึ่ง...”

ผู้จัดการฝ่ายขายเอารูปหลุมฝังศพของตระกูลซูออกมาอีกแล้ว ถึงยังไงตระกูลซูก็กลายเป็นป้ายโฆษณาของเขาไปแล้ว เอะอะก็หยิบรูปหลุมศพประจำตระกูลซูของพวกเขาออกมาโอ้อวด

“ตระกูลซูก็ตั้งหลุมศพของตระกูลที่นี่ คุณคิดดูสิครับตระกูลซูเขามีเงินขนาดนั้น ต้องเชิญซินแสอะไรมา...”

“ตระกูลซูมีเงินขนาดนั้น ย่อมมีควันสีเขียวลอยขึ้นมาจากหลุมศพ...ฮวงจุ้ยนี้ต้องก้าวหน้าในตำแหน่งอย่างรวดเร็วแน่...”

“...นั่นสิ โดยปกติพวกเราดูแล้วก็จองเลย น้อยคนที่จะติดว่าแพง ถึงยังไงฮวงจุ้ยสำหรับตั้งของที่นี่ก็...”

ขณะที่พูดอยู่นั้นพนักงานขายที่อยู่ข้างๆ ก็ยังมองไปที่สองพี่น้องตระกูลหวังอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ

น้องชายของคุณหวังแทบอยากจะหาตะเข็บดินมุดหนีไปในทันใด เมื่อเทียบอย่างนี้แล้วก็คิดว่าน่าขายหน้าเกินไปแล้ว

คนอื่นมาที่นี่ต่างก็จองเลยทั้งนั้น แต่พี่สาวของเขายังเอาแต่ต่อรองราคา!

ขายหน้าจะตายอยู่แล้ว!

เมื่อออกมาข้างนอกเขาก็พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “จองไปเลยไม่ได้หรือไง พี่มีอยู่ห้าแสนแล้ว ยังขาดอีกแค่หกหมื่นไม่ใช่เหรอ พี่ไปยืมกับคนอื่นก็ไม่สิ้นเรื่องแล้วเหรอ”

คุณหวังยิ้มด้วยความเย็นชา “ทำไม จะให้ฉันออกคนเดียวทั้งหมดเหรอ ถ้าจะยืมนายก็ไปยืมได้เหมือนกันนี่!”

น้องชายของเธอเบ้ปากจนเบี้ยวแล้ว จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยความโกรธว่า “ผมได้เงินเดือนแค่เดือนละสี่พันหยวน ผมเองก็จนปัญญาเหมือนกัน...”

คุณหวังพูดขึ้นว่า “งั้นซื้อแค่ศูนย์จุดสี่ตารางเมตรก็พอแล้ว”

น้องชายของเธอหันกลับมามองทีหนึ่ง ราวกับมองเห็นคนอื่นมองหยามได้อย่างนั้น

รู้สึกเพียงแค่เสียหน้ามากๆ เขาไม่สบอารมณ์จนไม่พูดไม่จา

เดินออกไปได้ระยะหนึ่ง จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นอีกว่า “พี่ครับ ถ้าซื้อศูนย์จุดสี่ตารางเมตรก็แค่สองแสนห้า พี่ยังเหลือเงินอีกสองแสนห้า ให้ผมยืมซื้อรถสักคันได้ไหม ผมเองก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว ถ้าไม่มีรถก็ไปรับเจ้าสาวไม่ได้...”

คุณหวังขมวดคิ้ว “นายกู้เงินซื้อเอาก็ได้นี่”

น้องชายของเธอรีบพูดขึ้นว่า “แล้วถ้าไม่อยากคืนล่ะ!”

คุณหวัง “...”

น้องชายของเธอพูดขึ้นอีกว่า “ความหมายของผมคือกู้เงินดอกเบี้ยมันสูง ยังต้องจ่ายดอกเบี้ยอีก ทำเงินให้ธนาคารฟรีๆ”

คุณหวังรำคาญจนขมวดคิ้ว “อีกอย่างนะ สุขภาพของพ่อตอนนี้ไม่แน่ว่าต่อไปอาจต้องทำคีโม ยังต้องจ่ายเงินอีก”

พูดจบเธอก็สาวเท้ายาวไปข้างหน้าราวกับเดินหนี

น้องชายของเธอไม่ได้รับคำตกปากรับคำ จึงเดินตามอยู่ข้างหลังอย่างไม่สบอารมณ์

สองพี่น้องมาถึงยังสุสานชิงซาน คุณหวังเดินเข้าไปในสุสานเงียบๆ มองสำรวจโดยรอบ

สุสานแห่งนี้หรูหราดีจริงๆ คนที่มาที่นี่ก็ร่ำรวยกันมากๆ

เดิมเธอไม่เคยคิดจะมาซื้อที่นี่อยู่แล้ว วันหนึ่งพ่อของเธอหยิบใบปลิวแผ่นหนึ่งกลับมา พูดขึ้นอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจว่า ฉันไม่ได้อยากซื้อหรอกนะ ก็แค่ใบปลิวที่คนอื่นบนถนนยัดใส่มือให้ ก็เลยเอากลับมาด้วยเลย

คุณหวังรู้ มีคนบนถนนที่ไหนจะยัดใบปลิวสุสานใส่มือคนอื่น

นี่เป็นความคิดของพ่อเธอ

“ทำไมต้องเอาเบอร์ของน้าด้วยล่ะ”

ปากถามอยู่ แต่เธอกลับรับสมุดเล่มน้อยกับปากกามาอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วเขียนชื่อและเบอร์โทรของตัวเองลงไปในนั้น

ซู่เป่ากระพริบตา ใบหน้าเล็กๆ เริ่มแดงเล็กน้อย “เพราะว่า...เอ่อ เพราะว่าซู่เป่าชอบคุณน้าค่ะ”

เพราะเธอโกหก ดวงตาจึงเปล่งประกายอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ แก้มร้อนผ่าวไปหมด

แต่คุณหวังกลับคิดว่าเธอเขิน เห็นแบบนี้ก็ยิ่งปลื้มใจเข้าไปใหญ่

เดิมเธออยากจะหยิกใบหน้าน้อยๆ ของซู่เป่า แต่คิดแล้วก็เสียมารยาทเกินไป จึงเปลี่ยนมาเป็นบีบผมจุกของเธอแทน

“ขอบคุณนะ น้าก็ชอบหนูเหมือนกัน”

เธอส่งสมุดเล่มน้อยคืนให้ซู่เป่า ซู่เป่ามองทีหนึ่ง เธอรู้จักเพียงตัวอักษรคำว่าหวังตัวเดียวเท่านั้น...

เธอเองก็ขีดเขียนลงไปในสมุดเล่มน้อยเช่นกัน จากนั้นก็ฉีกออกมา “คุณน้าคะหนูชื่อซู่เป่า นี่เป็นเบอร์ของหนูนะคะ!”

คุณหวังรับมาดูทีหนึ่ง เธอว่าจะไม่ขำแล้ว แต่ในกระดาษวาดนกตัวน้อยกับเต่าบิดๆ เบี้ยวๆ เอาไว้อย่างละตัว แล้วก็มีเลขหนึ่งอีกหลายตัว เลขศูนย์อีกหลายตัว ดูแล้วก็คือวาดไปอย่างนั้น

เธอพับขึ้นอย่างเคร่งขรึม แล้วพูดว่า “ขอบคุณนะ!”

ก่อนจะไป จู่ๆ ซู่เป่าก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง “คุณน้าคะ คนเราตอนที่ควรสับสนก็ควรสับสน ตอนที่ไม่ควรสับสนก็ควรคิดคำนวณดูให้ดีนะคะ!”

พูดจบก็โบกไม้โบกมือ กระโดดโลดเต้นจากไป

ไกลๆ มีชายหนุ่มสองคนเดินมาหา ตะโกนพูดอยู่ไกลๆว่า “ซู่เป่า อยู่ไหนน่ะ”

ซู่เป่ารีบพูดขึ้นว่า “อยู่นี่ค่ะ หนูอยู่ตรงนี้!”

คุณหวังมองเจ้าเด็กน้อยเดินจากไปด้วยความตกตะลึง ขณะนี้เองถึงก้มหน้าเดินกลับไปอย่างเงียบๆ

แต่น้องชายของเธอกลับยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาของเขาเป็นประกาย

หลุมศพตระกูลที่อยู่ลิบๆ นั่นหรูหราจัง...ดูโก้ดีจริงๆ...ดูคุ้นตาอยู่หน่อยๆ

นี่มัน...หลุมศพตระกูลซูที่ฝ่ายขายให้ดูเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ

น้องชายของคุณหวังรีบเดินตามพี่สาวของเขาไปทันที แล้วชิงกระดาษใบน้อยที่อยู่ในมือของเธอมา…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน