ซู่เป่าปราบผีทึ่มได้อย่างง่ายดาย
เธอดีใจสุด ๆ ก่อนจะถามอย่างตื่นเต้น “พี่ หนูสุดยอดเลยว่าไหม หนูโคตรเก่งเลยใช่ไหม”
ซูเหอเวิ่นตะลึงจนหน้าเหวอ
ไม่ใช่แค่สุดยอดแล้ว นี่มันโคตรของโคตรสุดยอดเลย
ไม่สิ น้องสาวเราพัฒนาไปไกลขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย
คราวก่อนก็เสกหล่อแกแปดทิศกับตาข่ายกักวิญญาณสีแดงออกมา
คราวนี้มีระฆังสีทองกับค้อนอันใหญ่อีกไปเรียนมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย...
ซูเหอเวิ่นงุนงง “สุดยอดมาก... กล้าหาญสุดๆ!”
ทำอย่างไรได้ล่ะ...ก็น้องเก่งมากจริง ๆ ความเลื่อมใสที่มีต่อน้องสาวเริ่มมากขึ้นจนไม่สามารถควบคุมได้
ซู่เป่ารู้สึกดีใจขึ้นมาทันใด
“คุณพ่อ หนูปราบวิญญาณชั่วนั่นได้แล้ว! เขาเป็นผีทึ่ม!” เจ้าตัวเล็กหันหน้าไปอวดมู่กุยฝาน
มู่กุยฝานลูบศีรษะเล็ก ๆ ของซู่เป่าด้วยความรัก ก่อนที่จะชมโดยไม่ลังเล “ลูกรักของเรายอดเยี่ยมมาก”
น่าเสียดาย...เขาไม่เห็นอะไรเลย
เขาหลุบตาลงเล็กน้อย ร่องรอยของความซับซ้อนปรากฏในดวงตา
มู่กุยฝานยกมือขึ้นดูเวลาอีกครั้ง ซึ่งเป็นเวลาหกโมงเช้าแล้ว
ข้างนอกท้องฟ้าแจ่มใส ได้ยินเสียงคนเฒ่าคนแก่ที่กำลังออกไปจ่ายตลาดทักทายกันแว่ว ๆ
เขาจึงพูด “เรากลับกันได้แล้วล่ะ ถ้ายายหนูรู้ว่าหนูหายไปอีก พ่อเดาว่ายายต้องฆ่าพ่อด้วยมือเปล่าแน่นอน”
ซู่เป่านำผีร้ายทั้งสี่ใส่ลงในน้ำเต้าวิญญาณก่อนจะยืดเส้นยืดสาย ตามด้วยเสียงบิดขี้เกียจเหมือนเด็กน้อย “อ่อย~”
อดคิดไม่ได้เลยว่าเธอคือยมบาลตัวน้อยที่เพิ่งจับวิญญาณชั่วร้ายทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่สีม่วงจนกลับคืนสู่ร่างเดิม!
ในครัว หวังเจียเจียและสามีของเธอยังคงโต้เถียงกัน...
ทั้งสองต่อปากต่อคำเถียงกันไม่ยอมหยุด หวังเจียเจียกำลังด่าทอ สามีของเธอก็พูดเหน็บ สองฝ่ายต่างไม่มีท่าทีที่จะยอมกันเลย
ซู่เป่าถอนหายใจ ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า “คุณลุงคุณป้า พวกเรากลับก่อนนะคะ!”
ขณะนั้นเองหวังเจียเจียเพิ่งจำได้ว่าตัวเองกำลังต้มน้ำไว้อยู่จึงรีบพูด “อ้าว...จะกลับแล้วเหรอ เอ่อ นั่งต่ออีกสักเดี๋ยวสิ ฉันจะชงชาให้พวกคุณ”
ซู่เป่าโบกมือ พลางค่อย ๆ สลายพลังหยินออกจากร่างกายของเธอ
ครุ่นคิดแล้วก็พูดต่อ “คุณป้า ชีวิตคนเรามีโอกาสคิดได้ตอนสายไม่มากนัก หากเรายิ่งเลอะเลือนบ่อย ๆ ผีก็จะยิ่งสิงได้ง่าย!”
หลังจากพูดจบก็มองไปทางสามีของหวังเจียเจีย “คุณลุง คุณยายของฉันบอกว่าถ้าคนเราเอาแต่พูดเหตุผลแต่กลับไม่ทำอะไรสักอย่าง นั่นแย่กว่าการไม่พูดอะไรเลยเสียอีก"
ซู่เป่าพูดจบก็โบกมือเล็ก ๆ จากนั้นก็เดินตามพ่อตัวเองออกไปอย่างกระฉับกระเฉง
สองสามีภรรยาหยุดนิ่งอยู่กับที่โดยไม่พูดอะไร
สามีของหวังเจียเจียนั่งอยู่บนโซฟาอย่างเงียบ ๆ ไม่รู้ว่านานแค่ไหนก่อนจะพูดขึ้นมา “ที่ผมให้คุณกับพ่อแม่คุณแบ่งเส้นแบ่งเขตกันชัดเจนก็เพื่อประโยชน์ของคุณเองนะ!”
“น้องชายคุณบอกว่าจะซื้อบ้าน คุณก็ให้เงินไป”
“พ่อคุณไม่มีเงินรักษาตัวในโรงพยาบาล คุณก็ให้เงินไป พ่อคุณจะซื้อสุสาน คุณยังต้องเป็นคนออกเงินให้อีก หรือว่าหลังจากนี้คุณจะเลี้ยงดูครอบครัวไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ”
หวังเจียเจียเม้มริมฝีปาก “ไม่หรอก เรื่องของพ่อฉันจะเป็นครั้งสุดท้าย...”
สามีเธอเยาะเย้ย “ใช่เหรอ ถ้าอย่างนั้นผมขอถามคุณหน่อย ถ้าอีกไม่กี่ปีแม่ของคุณป่วยขึ้นมา แล้วถ้าน้องชายของคุณไม่มีเงิน คุณจะเข้าไปยุ่งอีกไหม แล้วอีกไม่กี่ปีน้องชายของคุณก็จะมีลูก หรือถ้าเกิดมีเหตุการณ์ต้องนอนโรงพยาบาลแล้วมาขอยืมเงินคุณอีก คุณจะให้หรือเปล่า”
หวังเจียเจียอึกอักพูดอะไรไม่ออก
สามีของเธอพูดต่อ “เมื่อก่อนฉันไม่เคยอยากยุ่งเรื่องของครอบครัวคุณเลย เรื่องของครอบครัวคุณมันน่ารำคาญจริง ๆ แต่มาวันนี้สิ่งที่ซู่เป่าพูดก็ถูก ที่ผมทำมันก็ไม่ถูก”
หวังเจียเจียได้ยินเสียงไอก็รีบหยิบน้ำไปให้เขา
หวังอี้กวางยกน้ำขึ้นมาอย่างเสแสร้ง “ผมเองผมเอง”
ส่วนด้านในก็ไอไม่หยุดเป็นพักใหญ่ หญิงชราจึงตามเข้าไป ไม่นานก็พยุงชายชราเดินออกมาด้วย
“เสี่ยวซู่ก็มาเหรอ เช้าขนาดนี้มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ซุนซู่พูดตามตรงโดยไม่ชักช้า “พ่อแม่ครับ ที่ผมมาวันนี้ผมต้องการจะพูดให้ชัดเจน อย่าถือสาถ้าผมพูดตรง ๆ...”
เขาชะงักไปครูหนึ่ง ก่อนที่จะถามขึ้นมาทันที “ผมอยากจะถามว่าบ้านของพวกท่านหลังนี้ ในอนาคตจะมีส่วนแบ่งของเจียเจียไหมครับ”
ทุกคนกำลังตกอยู่ในความตะลึง
คำถามนี้สร้างความประหลาดใจอย่างมาก จึงทำให้คนที่ยังคงอยู่ในอาการมึนงงสับสนนิดหน่อย
ทว่าชายชรารู้สึกไม่สบายใจมาก ถ้าไม่เต็มใจจะออกเงินให้เขาก็ไม่เป็นไร แต่นี่เขายังไม่ทันตายก็อยากได้บ้านหลังนี้แล้ว
เขาพูดอย่างลังเล “บ้านหลังนี้ฉันกับแม่ของเธอซื้อมา เจียเจียลูก ลูกสาวที่แต่งออกไปก็ไม่ต่างกับน้ำที่สาดออกไป สำหรับบ้านหลังนี้ฉันคิดว่าไม่ได้จำเป็นสำหรับพวกเธอทั้งสองคน...”
หวังเจียเจียถึงกับอึ้ง
ถึงแม้เธอจะไม่เคยจะสนใจบ้านหลังนี้ของพ่อแม่ แต่ว่า...พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่าเธอ....
เธอมองไปยังหญิงชรา
หญิงชราไม่มีเวลาคิดคำพูดสวยหรู จึงพูดออกไปอย่างตะกุกตะกัก “เจียเจีย พ่อแม่ไม่ได้บอกว่าจะไม่แบ่งให้เธอ แต่น้องชายของเธอไม่มีเงินเก็บเลย...เธอกับเสี่ยวซู่ต่างก็มีความสามารถมาก อย่างนั้นก็...ก็ให้น้องชายของเธอไปเถอะ แม่รู้ว่าเรื่องนี้เธอต้องน้อยใจ...แต่น้องชายเธอยังไม่ได้แต่งงาน ในอนาคตเลี้ยงลูกไม่รู้ว่ายังต้องการอะไรอีกบ้าง...”
หวังเจียเจียตกตะลึง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยสนใจมรดกของพ่อแม่ แต่...คำตอบนี้มัน ทำให้เธอรู้สึกใจหาย...
ทว่าสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ อาการใจหายแบบนี้มันเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...