ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 300

กู้เซิ่งเสวี่ยในใจรู้สึกมีลางไม่ดี รีบขึ้นไปชั้นบนโดยไม่แม้แต่จะกล่าวขอบคุณ

เคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป ก็พบว่าทั้งครอบครัวสีหน้าหม่นหมองราวกับเมฆครึ้ม แลดูไม่มีความสุข

ชายชรานั่งอยู่บนโซฟา ไออย่างหนักจนไม่สามารถหยุดไอได้ ราวกับว่ากำลังจะขาดอากาศหายใจตาย

หญิงชรากำลังรินน้ำชา ตบหลังเขาในขณะที่ปาดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ

กู้เซิ่งเสวี่ยไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ คนอื่นเป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ

วิญญาณร้ายในตัวชายชราหายไปแล้ว เมื่อวานนี้เธอยังเห็นด้วยตาตัวเองอยู่เลย

เพียงแค่รู้สึกจิตใจหดหู่ วิญญาณร้ายในตัวชายชราหายไปแล้ว เมื่อวานนี้เธอยังเห็นกับตาตัวเองอยู่เลย

หวังอี้กวางถามด้วยสีหน้ารีบร้อน “เธอมาหาใคร”

หวังเซิ่งเสวี่ยเดินออกไปโดยไม่ตอบคำถาม ก่อนจะพูดทิ้งท้ายไว้ “มาผิดทาง”

หลังจากสาวน้อยน่ารักหันหลังให้ หน้าเย็นชาของเธอก็แตกสลาย

ใครกันที่กระชากเคพีไอของเธอไปกลางดึก!

โกรธจนแทบคลั่งตายแล้ว เธอมาที่นี่แต่เช้า ทว่าเคพีไอกลับหายไป

กู้เซิ่งเสวี่ยกำหมัดแน่น ใบหน้าเล็ก ๆ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง พร้อมกับแสดงท่าทีไม่มีเหตุผล

รับไม่ได้ ! ใครเห็นผีก่อนก็เป็นของคนนั้นสิ

นี่อะไรแค่ชั่วข้ามคืนก็ถูกขโมยไปแล้ว!

น่าไม่อาย!

凸(艹皿艹 )

**

หวังเจียเจียตามหลังซุนซู่ไป ทั้งสองกลับถึงบ้านตามกันไปติด ๆ

ซุนซู่ไปอาบน้ำอย่างเหนื่อยล้า ไม่นานก็ออกมาพร้อมกับชุดอยู่บ้าน จากนั้นก็เอนกายพิงโซฟา

“ว่ามาสิ คุณคิดยังไง” เขาพูดพลางขมวดคิ้ว

หวังเจียเจียอยากจะร้องไห้

“ฉันผิดไปแล้ว ผิดเต็ม ๆ เลย” เธอมองไปรอบ ๆ อย่างว่างเปล่า ถึงพบว่าคำโบราณนั้นมันเป็นจริง

ลูกชายมีบ้าน ลูกสาวมีบ้าน

แต่ลูกสาวที่แต่งออกไปแล้ว เธอจะไม่มีบ้าน

อยู่กับครอบครัวสามีก็ถือว่าเธอเป็นคนนอก อยู่กับครอบครัวแม่ตัวเองเธอก็เป็นแค่แขก

ก่อนหน้านี้เธอเย้ยหยันความคิดพวกนี้ ทว่าตอนนี้เธอเพิ่งจะพบว่าความจริงมันเป็นเช่นนี้

หวังเจียเจียรู้สึกผิดหวัง อยากจะฝืนยิ้ม ทว่าน้ำตาก็หลั่งไหลออกมา “ฉันไม่มีบ้านแล้ว อันที่จริงฉันไม่มีบ้านตั้งแต่วันที่ฉันแต่งงานออกมาแล้ว”

หวังเจียเจียปิดหน้าและร้องไห้อย่างขมขื่น

ซุนซู่เม้มริมฝีปาก ดึงเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน พลางเอื้อมมือไปลูบหลังเธอ

แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่หวังเจียเจียก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้โฮ

แต่มันจะมีประโยชน์อะไร

เธอเอาแต่คิดถึงครอบครัวของสามีกับครอบครัวแม่ หนึ่งในสิ่งที่เธอไม่เคยทำนั่นก็คือคิดถึงตัวเอง

เธอดูแลพ่อแม่ของซุนซู่ ดูแลลูกสาวตัวน้อยของตัวเอง แล้วก็ดูแลพ่อแม่ของตัวเองด้วย แต่กลับไม่เคยดูแลตัวเองเลย

เงินหมดก็หาใหม่ได้ แต่พอเอาเข้าจริง นอกจากจะถอนหายใจให้กับความโง่ของตัวเอง ที่เหลือก็คือต้องทนกับความทุกข์

คนปากร้ายใจดีอย่างซุนซู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูด “เอาล่ะ ๆ อีกสักประเดี๋ยวฉันจะไปเอาใบรับรองอสังหาริมทรัพย์มาแล้วลบชื่อของฉันที่ด้านบนนั้นออก ตกลงไหม”

สิ่งที่เขาพูดหมายความว่า 'ที่นี่ก็คือบ้านของคุณ' แต่คนปากกรรไกรอย่างเขา ไม่มีคำพูดที่อ่อนหวานอยู่ในสายเลือด

เขายังคงถามต่อ “หลังจากนี้รู้หรือยังว่าจะทำอย่างไรต่อ พ่อแม่ให้คุณออกเงินซื้อสุสานอีก คุณจะให้เท่าไหร่”

หวังเจียเจียพูดอย่างอึกอัก “หนึ่งแสนห้าหมื่น”

ซุนซู่พูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง

หวังเจียเจียยังคงสะอึกสะอื้นก่อนจะพูดต่อ “ยังไม่ถูกอีกเหรอ”

ซุนซู่ยิ้มเย้ยหยัน “ถ้าน้องชายคุณเอาเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นไปซื้อที่เล็ก ๆ ล่ะ”

แบบนั้นก็ไม่เท่ากับว่าเธอออกหมดอยู่ดีเหรอ

หญิงชราถอนหายใจ ก่อนจะบ่นว่า “คุณพอใจหรือยัง บีบลูกสาวจนห่างเหินถึงขนาดนี้แล้ว!”

ผลจากเลือดออกในสมองทำให้ชายชรามือสั่นเทา

ลูกชายไม่ยอมจ่ายเงินเขาไม่ว่า แต่กลับเอาแต่บ่นลูกสาวตลอด

ทว่าบ่นไปก็ไร้ประโยชน์

สุดท้ายเมื่อเห็นบิลสี่หมื่นแปดพัน ที่หวังเจียเจียจ่ายไปแล้วสองหมื่นแปดพันกว่า แต่ยังเหลืออีกหนึ่งหมื่นเก้าพัน หวังอี้กวางก็เผ่นไปแล้วไม่เห็นแม้แต่เงา เขาก็ไม่กล้ารับการรักษาต่อ ดังนั้นจึงรีบออกจากโรงพยาบาล

หญิงชราโทรหาหวังเจียเจีย แต่หวังเจียเจียอดกลั้นไม่ยอมใจอ่อนให้ จึงทำได้เพียงโทรหาหวังอี้กวาง

หลังจากที่ติดต่อหวังอี้กวางไม่ได้ ในที่สุดชายชราก็ทนไม่ได้อีกต่อไป จึงควักเงินเก็บของตัวเองมาจ่าย

หวังเจียเจียจึงได้รู้ว่าอันที่จริงชายชราก็มีเงินอยู่แล้ว

ทันทีที่ชายชรากลับถึงบ้านก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง หวังอี้กวางยุให้เธอซื้อสุสานโดยบอกให้เธอจ่ายแค่หนึ่งแสนห้าหมื่นพอ

หวังเจียเจียยืนกรานที่จะดูสัญญา แผนของหวังอี้กวางจึงล้มเหลวไม่เป็นท่า

ตอนนี้สุสานชิงซานมีสุสานขนาด 0.4 ตารางเมตร ซึ่งลดราคาเหลือหนึ่งแสน เดิมทีหวังอี้กวางจะเอาเงินหนึ่งแสนห้าหมื่นจากพี่สาวไปซื้อขนาด 0.4 ตารางเมตรก็พอ พร้อมกับตกลงกับแผนกขายไว้เรียบร้อยแล้วด้วย...

แบบนี้ก็ไม่ต้องจ่ายสักบาท แถมยังได้ฟรี ๆ อีกตั้งห้าหมื่น...

เมื่อหวังเจียเจียดูสัญญาก็พูดเหน็บแนม “เป็นลูกกตัญญูไม่ใช่เหรอ ไหนว่าจะซื้อขนาดใหญ่ไง”

หวังอี้กวางเลยบ่น “ไม่ใช่เพราะพี่ไม่ยอมจ่ายเหรอ โทษผมได้ยังไง ถ้าผมมีเงินผมซื้อขนาดใหญ่แน่นอน พี่มันเห็นแก่ตัวเกิน! ผมไม่เคยเห็นพี่คนไหนจะมาคิดเล็กคิดน้อยขนาดนี้เลย”

หวังเจียเจียไม่อยากจะสนใจเขา หลังจากเซ็นยืนยันสัญญาก็โอนเงินไปหกหมื่น

หวังอี้กวางไม่มีเงิน จึงต้องขอเงินจากชายชรา สุดท้ายเงินสี่หมื่นชายชราก็ต้องเป็นคนออกเอง

ชายชราน้ำตาไหลนองหน้า เขาก็แก่มากแล้ว ทำไมต้องลำบากขนาดนี้ เขาลุกไม่ขึ้นด้วยซ้ำ ยังจะให้เขาทำอย่างไรอีก...

คิดมาตลอดว่าหลังจากทำงานหนักมาทั้งชีวิต จะได้ตายอย่างสุขสบายบนกองเงินกองทอง ไม่คิดเลยว่า...

ชายชรารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ ถ้าไม่ปล่อยให้เจียเจียแต่งงานเร็วขนาดนั้น เขาคงไม่จบแบบไม่เหลืออะไรเลยเหมือนในตอนนี้

ลูกสาวที่แต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนน้ำที่สาดออกไป เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ

**

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน