จี้ฉางหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ มองดูซู่เป่าด้วยสีหน้าสงสัย
มันเป็นไปไม่ได้ แค่ความบังเอิญเท่านั้น?
เขาถอนหายใจไปเฮือกหนึ่ง“เรียกผีผู้หญิงกลับเข้ามาเร็วๆวิชาย้ายวิญณาณที่สอนไปยังจำได้ไหม?ถ้าจำไม่ได้ก็... ”
ยังพูดไม่ทันจบประโยคซู่เป่าก็ยกแขนขึ้นมา
นิ้วมือน้อยๆก็ได้ทาบไปที่กระจกแล้วทำท่าหยิบจับไปมา
ในชั่วพริบตา ผีผู้หญิงก็ได้กลับเข้าไปอยู่ในน้ำเต้าวิญญาณแล้ว
จี้ฉางจับจมูกไปมา
นี่มันคือวิญญาณยี่ห้ออะไรเนี่ย...
แล้วนมที่ชงเสร็จแล้วก็ได้ยกเข้ามา เขายื่นแก้วรูปทรงกลมๆให้ซู่เป่าพร้อมกับพูดว่า“รีบดื่มนะ!”
ซู่เป่ารับเอาไว้จากนั้นก็พูดอย่างเสียงอ่อนหวาน“ขอบคุณลุงห้านะคะ!”
ซูจื่อหลินยิ้มอย่างเกรงใจ
ถึงเขาจะมีลูกแล้วสองคนแต่ไม่ค่อยได้มีเวลาอยู่กับลูกเลย
เขายอมรับว่าตัวเองยังทำหน้าที่พ่อได้ไม่ดีนัก
วินาทีนี้เขารู้สึกละอายใจขึ้นมา จึงเอามือลูบหัวของซู่เป่า จากที่เงียบกริบไม่พูดจาอะไรก็เอ่ยปากถามขึ้นมาว่า“ซู่เป่า หนูคิดว่าลุงรองควรจะหย่ากับป้าสะใภ้รองไหม?”
ซู่เป่าเงยหน้ามองดูเขาและถามว่า“ลุงรอง ทำไมถึงต้องหย่ากันด้วยคะ
แต่งงานกันแล้วก็มาหย่ากันอีก?”
เธอเคยได้ยินคำว่าหย่ามาบ้าง เพราะเมื่อก่อนคุณพ่อมักจะพูดอยู่บ่อยๆว่าจะหย่ากับคุณแม่
ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ยังไม่เข้าใจว่าการหย่าคืออะไร มาทีหลังถึงได้รู้ว่า——แท้จริงแล้วการหย่าคือการไปแต่งงานกับน้าคนใหม่
ซู่เป่าไม่เข้าใจพวกผู้ใหญ่เลย ในเมื่อตอนแรกก็ได้เลือกมาอย่างดีแล้ว?
แต่ทำไมถึงไม่อยากได้ขึ้นมาในภายหลัง
ซูจื่อหลินโดนถามจนอึ้งเงียบเหมือนคนใบ้
คำถามของซู่เป่า ทำให้เขาไม่รู้จะตอบกลับยังไง
เขาเม้มปากพร้อมกับพูดอย่างกดดันว่า
“เพราะว่าตอนนั้นมีพี่จื่อซีอยู่ข้างในท้องของป้าสะใภ้รองไงล่ะ”
ไม่ว่ายังไงก็เป็นเรื่องที่ตัวเองก่อขึ้นมา แต่เรื่องที่ทำให้ซูจื่อหลินเสียใจจนถึงวินาทีที่หานหานคลอดออกมาก็คือ เขาเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองถูกวางแผนมาตลอด
ตอนนั้นน้องสาวซูจิ่นอวี้กำลังป่วยหนักและมาหายตัวไปอีก เขากลุ้มใจมากจนไม่มีกะจิตกะใจไตร่ตรองอย่างรอบคอบ
ซู่เป่าขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ“แล้วในท้องของป้าสะใภ้รองมีพี่จื่อซีได้ยังไงคะ?
ลุงรองชอบป้าสะใภ้รองไหม?”
ซูจื่อหลินส่ายหน้าปฏิเสธ“น่าจะไม่ชอบ!”
ซู่เป่า “……”
เธอจ้องมองซูจื่อหลิน
ซูจื่อหลินรู้สึกขนลุกที่โดนจ้องแบบนี้ก่อนจะถามขึ้นว่า“ทำไมเหรอ?”
ซู่เป่าจึงพูดว่า“ลุงรองไม่ชอบป้าสะใภ้รอง แต่ก็มีพี่จื่อซีกับป้าสะใภ้รอง
ลุงรองคือผู้ชายเฮงซวยที่คนอื่นเค้าชอบพูดกันหรือคะ?”
เธอทำหน้าไร้เดียงสาอย่างน่ารัก ท่าทางดูเอาจริงเอาจัง
ซูจื่อหลินอ้าปากจะพูด แต่ก็หยุดชะงักลงเพราะคิดไม่ออกว่าจะพูดอะไร“เอ่อ……”
ซู่เป่าตบไหล่ซูจื่อหลินแสดงท่าทางเหมือนเข้าอกเข้าใจพร้อมกับพูดปลอบว่า
“ไม่เป็นไรนะลุงรอง ซู่เป่าเข้าใจ”
ซูจื่อหลิน“???”
อะไรนะ เธอจะเข้าใจได้ยังไงล่ะ?
ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ ซูอิ๋งเอ่อร์ก็เข้ามาพอดี “ซู่เป่า เด็กดีของลุงห้า!”
ซูอิ๋งเอ่อร์ยังไม่ได้ถอดหมวกนิรภัยออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
ยื่นมือทำท่าจะอุ้มซู่เป่าอย่างดีอกดีใจ
ซูจื่อหลินปัดมือของเขาออกอย่างรวดเร็ว“รู้จักรักษาความสะอาดหน่อยสิ?”
ซูอิ๋งเอ่อร์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นคิดแต่จะอุ้มอย่างเดียว จากนั้นก็อุ้มซู่เป่าพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง
“ซู่เป่าตอบลุงห้ามาสิ อยู่ที่นี่น่าเบื่อหรือเปล่า?ไป เดี๋ยวลุงห้าจะพาหนูไปเดินเที่ยวที่ไซต์งานก่อสร้าง!”
เมื่อกี้ไปเดินสำรวจตรวจสอบมาแล้ว เมื่อทำงานเสร็จก็ตั้งใจไว้ว่าจะพาหลานสาวที่รักไปเดินอวดเพื่อนๆที่ทำงานสักหน่อย
ซูจื่อหลินยิ่งไม่เห็นด้วย “ไซต์งานก่อสร้างเป็นสถานที่ๆอันตรายมาก
และห้ามไม่ให้คนนอกเข้าไปเด็ดขาด!”
.ซูอิ๋งเอ่อร์พูดอย่างไม่สนใจว่า“ซู่เป่าไม่ใช่คนนอก แต่เป็นผู้อำนวยการตัวจิ๋ว?”
ซู่เป่าพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“ใช่แล้วคะ ซูเป่าไม่ใช่คนนอกสักหน่อย
ซู่เป่าพูดอย่างใจร้อน เมื่อกี้น้าขี้เหร่บอกว่า ป้าสะใภ้รองไปที่ไซต์งานฝั่งนั้น
ต้องมีอะไรซ่อนอยู่ในรูปปั้นทองสัมฤทธิ์นั้นแน่ๆ
เธออยากจะไปสำรวจดู
แล้วซูอิ๋งเอ่อร์ก็อุ้มซู่เป่าเดินไปอย่างตื่นเต้นดีใจ เมื่อเดินผ่านใครก็จะทักทายไปทุกครั้ง
“เหล่าจาง นายดูสิ นี่คือหลานสาวของฉัน!”
ซูจื่อหลิน“……”
ซูอิ๋งเอ่อร์นั่งลงด้านหน้าของซู่เป่า และคอยๆพูดแนะนำเครื่องมือแต่ละชิ้น
“นี่คือค้อนช่างไม้ ไว้สำหรับตอกตะปูทั่วไป”
“นี่คือค้อนช่างหิน...นี่คือค้อนหัวขวาง…”
ซูอิ๋งเอ่อร์หยิบมาแต่ค้อนเล็กๆ ที่ซู่เป่าสามารถถือได้
ซูจื่อหลินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อเห็นเจ้าแก้มก้อนทำหน้าจริงจัง ถือค้อนขึ้นมาลองยกเล่นๆ
และหยิบค้อนแต่ละด้ามดูไปดูมา
ที่แท้ก็แค่ดูค้อนจริงๆ
จี้ฉางลอยอยู่ข้างๆ และพูดชี้แนะให้ซู่เป่าว่า“เป๋าน้อย หยิบอันนั้นขึ้นมา แล้วทุบรูปปั้นนี้ทิ้ง!”
ซู่เป่า“แต่หนูยกไม่ไหว.. …”.
ดูค้อนเหมือนจะหนักมาก
จี้ฉางเบ้ปาก“เจ้ายังไม่ได้ยกเลย รู้ได้ยังไงว่ายกไม่ไหว?”
เมื่อเห็นซู่เป่าแตะไปที่ค้อนอันใหญ่ ซูอิ๋งเอ่อร์จึงพูดขึ้นว่า“อันนี้สุดยอดมาก!
ใช้สำหรับงานหนักทุบกำแพง!ด้ามของมันนุ่มมากและสามารถงอได้ด้วย
ที่ออกแบบมาแบบนี้ก็เพื่อป้องกันการเกิดแผ่นดินไหว…”
ซูเป่าอยากจะลองยกขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว
จี้ฉางจึงพูดว่า“ใช่แล้ว ยกขึ้นมาแล้วก็ทุบได้เลย!”
ซู่เป่าพูดอีกว่า“ลุงห้า ของยืมค้อนของลุงหน่อยนะคะ!”
ซูจื่อหลินกับซูอิ๋งเอ่อร์ลืมเรื่องที่เธอเคยหักราวเหล็กจนงอไปชั่วครู่
และสิ่งแรกที่คิดได้คือหนักขนาดนี้ยังไงเธอก็ยกไม่ไหวอยู่แล้ว
จากนั้นก็ได้ยินเสียงเบ่งพลังของเจ้าแก้มก้อน‘ย๊าก’พร้อมกับยกค้อนขึ้นมาเหวี่ยง
และทุบลงไปที่รูปปั้นนั้นอย่างแรง!
เจ้าแก้มก้อนเหวี่ยงมือไปพร้อมกับพูดตะโกนว่า“แปดสิบ!แปดสิบ!”
แล้วก็ได้ยินเสียงตู้ม~ดังขึ้นมา ที่ขาของรูปปั้นโดนทุบจนเป็นรูขนาดใหญ่
ข้างในมีเสียงคล้ายของอะไรตกลงมาพร้อมกับเกิดฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่ว
ซูจื่อหลินกับซูอิ๋งเอ่อร์ถึงกับอึ้งจนตาค้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...