คอนโดของถานจื่อจวินเป็นห้องแบบสำหรับอยู่คนเดียว ห้องครัวเป็นครัวแบบเปิด ด้านนอกห้องครัวเป็นห้องนั่งเล่น หน้าโซฟาจะมีโต๊ะน้ำชาเล็กๆ อยู่
ห้องไม่กว้างมากนัก แต่ก็ดูอบอุ่นเป็นอย่างมาก ดูออกได้เลยว่าปกติขยันเก็บกวาดเป็นอย่างมาก
ซูเป่านั่งลงบนโซฟา เธอยกแก้วน้ำผลไม้ขึ้นดื่มอึกใหญ่ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างมีความสุข “ฮ่า~”
ถานจื่อจวินเทน้ำผลไม้ให้เธออีกแก้ว แล้วถามขึ้นมา “ซู่เป่า หนูกับพ่อของหนูทำไมถึงมาที่นี่ดึกๆ ดื่นๆ กัน….”
ตอนกลางวันที่ชนรถฮัมเมอร์ของทั้งสองคนนั้น ก็พอดูออกว่าองพ่อลูกนี้มีเงิน ไม่น่าจะมาอยู่แถวนี้
ซูเป่าที่ถือแก้วผลไม้อยู่นั้น กำลังคิดอยู่ว่าจะโกหกยังไงดี…..ไม่สิ พ่อบอกว่าแบบนี้ไม่เรียกว่าโกหกธรรมดา แต่เป็นการโกหกเพราะหวังดี
อืม….ถ้าอย่างนั้นจะโกหกเพราะหวังดียังไงดีนะ?
จากนั้นก็ได้ยินพ่อเอ่ยออกมาเสียงเรียบ “งานของผมจะนับว่าเป็นนักสืบครึ่งตัวก็ได้ ช่วงนี้กำลังสืบคดีๆ หนึ่งอยู่ พอดีได้ทราบเบาะแสก็เลยมาที่นี่”
ถานจื่อจวินรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่
อะไรคือนักสืบครึ่งตัว เป็นนักสืบเป็นแค่ครึ่งหนึ่งก็ได้?
อีกอย่าง นักสืบที่ไหนจะพาลูกสาวออกมาทำงานด้วยกัน……
มู่กุยฝานกอดอก แค่อ้าปากข้ออ้างมากมายก็พรั่งพรูมาอย่างลื่นไหล “วันนี้ผมทำงานดึก ลูกของผมเพิ่งเรียนพิเศษเสร็จก็รออยู่ที่ห้องทำงานตลอด รอจนถึงตอนนี้เนี่ย”
ถานจื่อจวินและซู่เป่าคิดขึ้นมาพร้อมกัน ยะ อย่างนั้นเหรอ……
ถานจื่อจวินไม่ค่อยอยากจะเชื่อเท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นเขาใบหน้าเข้มครึม ก็เลยไหลตามน้ำไป……
คงไม่ได้โกหกหรอกมั้ง
ถานจื่อจวินเอ่ยถาม “คดีอะไร……เกี่ยวกับฉันไหม?”
เธอรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที พยายามนึกย้อนไปว่า นอกจากที่เธอเล่นโทรศัพท์จนดึกดื่นแล้ว เธอก็ไม่ได้ทำเรื่องผิดอะไรเลยนะ!
นอกจากเรื่องนี้ ก็คือชนรถของพวกเขาเมื่อตอนกลางวันเท่านั้นเอง……
มู่กุยฝานไม่ได้พูดอะไรมาก เขาถามออกมา “ก่อนหน้านี้มีผู้หญิงคนนึงโดนฆ่าตาย แล้วศพของเธอก็หายไปหาไม่เจอแล้ว”
ถานจื่อจวิน “……..”
เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ศพ….. หายไป!?
เธอเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกัก “ฉะ……ฉันเองก็……ไม่เคยเห็นเหมือนกัน……คะ คงไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม…”
มู่กุยฝานมองไปรอบๆ
อยู่หรือไม่อยู่ใครจะไปรู้ล่ะ!
เขาแค่ฟังเรื่องเล่ามาจากซู่เป่าเท่านั้นเอง ว่ามีผีหญิงโดนขังไว้ที่นี่
เด็กน้อยเคยบอกเขาว่า คนบางคนเวลาตายด้วยอุบัติเหตุนั้น จะไม่สามารถออกไปจากที่ที่ตัวเองตายได้
เขาก็เลยยกเอาเรื่องนี้มาพูดมั่วๆ เท่านั้นเอง
เรื่องอื่นเขาเองก็ยังไม่ทันได้คุยกับซู่เป่าเลย ทำได้แค่พูดมั่วๆ ไปก่อนเท่านั้นเอง
“ช่วงนี้คุณเจอเรื่องอะไรแปลกๆ บ้างหรือเปล่า? หรือว่าได้ยิน หรือเห็นอะไรก็ได้”
มู่กุยฝานเม้มปาก เขาเอ่ยเสียงเข้ม ราวกับว่าจริงจังเป็นอย่างมาก
ถานจื่อจวินเอ่ยออกมาทันที “มะ…..ไม่มี”
อยู่ๆ ซู่เป่าก็จับมือของมู่กุยฝาน ก่อนที่จะกระซิบบอกอีกฝ่าย “พ่อคะ ที่ตู้เสื้อผ้า….”
มู่กุยฝานลุกขึ้นทันที ก่อนที่เขาจะล้วงเอาถุงมืออกมาจากกระเป๋ากางเกง
เขาค่อยๆ ใส่ถุงมืออย่างช้าๆ ก่อนที่จะเอยเสียงเรียบ “ไม่มี? คุณลองคิดดูให้ดี”
ซู่เป่าที่อยู่ด้านข้าง “ว้าว…..”
แม้ไม่รู้ว่าพ่อกำลังทำอะไรอยู่
แต่เธอรู้สึกว่าพ่อนั้นดูเป็นมืออาชีพมากเลย
ก็อย่างที่คุณยายพูด พูดเรื่องไร้สาระด้วยสีหน้าจริงจัง….?
เรียนเรื่องไม่ดีอีกแล้ว!
ถานจื่อจวินโดนท่าทางของมู่กุยฝานกดดัน สมองของเธอแล่นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะคิดอะไรขึ้นมาได้จึงรีบเอ่ยออกมาทันที “มีค่ะ!”
เธอลุกพรวดขึ้นมา “ช่วงนี้ฉันมักจะได้กลิ่นหนูตายอยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่ากลิ่นมันออกมาจากตรงไหน”
ถานจื่อจวินพูดถึงตรงนี้ ขนหัวก็ลุกขึ้นมาทันที
กลิ่นหนูตายนั้น คงไม่ใช่เป็น…..กลิ่นของศพหรอกนะ?!
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ศพนั้นอยู่ใกล้ๆ ห้องที่เธอเช่าอยู่ หรืออาจจะถูกซ่อนไว้แถวๆ นี้?
ถานจื่อจวินขนลุกไปหมด เธอตกใจจนแทบร้องไห้ออกมา
ซู่เป่าสงสัย “พี่คะ ด้านในเหม็นแบบนี้แล้ว พี่ไม่รู้สึกแปลกใจบ้างเหรอคะ?”
ถานจื่อจวินส่ายหน้า “พี่คิดว่าหนูตายอยู่ด้านใน ยังโทรไปบอกเจ้าของห้องอยู่เลย”
มือของมู่กุยฝานชะงักงัน เขาหมดคำจะพูด
คนหนุ่มสาวบางคนที่พึ่งเข้ามาในสังคมบางทีก็ไร้เดียงสาเกินไป แต่ทั้งไร้เดียงสาและก็ไม่คิดอะไรเลยแบบนี้นี่มัน จริงๆ เลย……
วันไหนถ้าถูกหลอก เผลอๆ ยังขอบคุณยกย่องอีกฝ่ายเข้าให้ด้วย
เทปใสถูกดึงออกจนหมด กลิ่นเหม็นฟุ้งออกมาด้านนอกทันที
ซู่เป่ารีบยกมือปิดจมูกทันที
ผีหญิงที่เธอประกอบร่างให้เองก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็นิ่งไปครู่ใหญ่
“พวกคุณเป็นใคร?” เธอเอ่ยถาม
ซู่เป่าไม่ตอบ เพราะว่าพ่อเคยบอกเธอว่า เวลาอยู่ด้านนอกห้ามพูดคุยกับผี
หลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นคิดว่าเธอเป็นโรคประสาท…..
แม้ว่าซู่เป่าคิดว่าคงไม่เป็นแบบนั้นหรอก แต่ที่พ่อพูดจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน ดังนั้นเธอจึงจำและทำตาม
ผีหญิงเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าคนธรรมดามองไม่เห็นผีอยู่แล้ว คนที่มองเห็นนั่นแหละคือผิดปกติ
เธอทำได้แค่มองซู่เป่าอย่างสงสัยเท่านั้น เพราะเมื่อกี้เธอได้ยินเสียงถีบประตูออกเท่านั้น แล้วก็มียันต์ลอยเข้ามา……
จากนั้นร่างของเธอก็แตกออก
ผีหญิงไม่มั่นใจ ว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าของเธอเป็นคนที่ทำให้ร่างของเธอแตกสลายหรือเปล่า?
หรือว่า…..
ผีหญิงเลื่อนสายตาไปมองที่มู่กุยฝาน
ผีหญิงลอยเข้าไปหา ก่อนที่จะเอยขึ้นข้างหูของมู่กุยฝานแบบใกล้มาก “นายเหรอ? นายมองเห็นฉัน ใช่ไหม?”
มู่กุยฝานใบหน้าเรียบนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้
ซู่เป่างุนงง “…..”
พี่ผี พี่กำลังทำอะไรอยู่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...