ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 341

จากการซักถามของซู่เป่า

วิญญาณชายชราผมขาวและวิญญาณหญิงชราที่ม้วนผมมวยกำลังร้องไห้ น้ำตาเลือดสองหยดไหลอาบหน้า ทำให้พวกเขาดูน่ากลัวยิ่งขึ้น

“ใช่แล้ว…ตายอย่างน่าเวทนาไม่ได้ฆ่าใครและเป็นคนดี ยมบาลจะให้ชีวิตพวกเราใช่ไหม”

ซู่เป่าตกตะลึงกับคำถามนี้

วิญญาณหญิงชราพูดต่อ “คนบนโลกต่างพูดกันว่ายมบาลทรงกุมชีวิตและความตายไว้ ตัดสินถูกผิด และมีความยุติธรรมที่สุด”

“คนบนโลกยังบอกอีกว่ายมบาลให้คุณตายยามสาม ใครจะกล้าปล่อยคุณจนถึงยามห้า”

“แล้วเราทำอะไรผิดล่ะ ยมบาลถึงอยากจะเอาชีวิตครอบครัวของเราไป”

“ในเมื่อมันไม่ยุติธรรมเลย งั้นทุกคนก็มาตายไปด้วยกันไปเลย!”

ซู่เป่าเงียบอยู่นาน

คำพูดเหล่านี้กระทบใจเธออย่างหนัก โดยเฉพาะคำว่ายมบาล ซึ่งทำให้เธอรู้สึกกลุ้มมากยิ่งขึ้น

จี้ฉางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าครอบครัววิญญาณตายโหงที่เขาคิดว่าเป็นเพียงครอบครัวธรรมดา ๆ จะแอบซ่อนบททดสอบที่สำคัญสำหรับซู่เป่าเอาไว้!

ถูกต้อง

ครอบครัวนี้น่าสงสารมากจริง ๆ

พวกเขาเป็นครอบครัวที่มีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้คน และเป็นคนดี

ผู้อาวุโสรักและเมตตากับคนรุ่นหลัง คนรุ่นหลังให้ความเคารพผู้อาวุโสและทำงานหนัก เด็ก ๆ เชื่อฟังมีมารยาท ประพฤติตัวดีและน่ารัก

แต่กลับตายอย่างเหี้ยมโหด

สิ่งที่โหดร้ายที่สุดเลยก็คือญาติที่สนิทและไว้ใจที่สุดของพวกเขาเองที่เป็นคนฆ่าพวกเขา

เมื่อเห็นซู่เป่าเงียบไป จี้ฉางก็ลดเสียงลง “ซู่เป่า...”

ซู่เป่าหันไปมองเขา แม้ว่าแววตาจะยังคงสดใสเหมือนเดิม แต่ก็ยังมีความสับสน “ท่านอาจารย์ เพราะอะไร”

จี้ฉางพูดได้แค่ว่า "ชีวิตและความตายคือโชคชะตา...”

แต่คำพูดเหล่านี้ยังไม่ค่อยมีน้ำหนักพอ ซู่เป่าถาม “แล้วใครที่เป็นคนกำหนดชะตากรรมของพวกเขา”

จี้ฉางเปิดปากของเขา

แน่นอนว่าเป็นยมบาล

เหตุแห่งชาติที่แล้ว ผลของชาติหน้า แม้ว่าในชาตินี้จะได้เกิดเป็นคนดี แต่ก็มีเหตุในชาติที่แล้วกำหนดไว้ว่าจะต้องชดใช้กรรมในชาตินี้

ชาติที่แล้วหลังจากที่พวกเขาตาย ยมบาลตัดสินความดีความชั่ว เมื่อได้รับการวินิจฉัยก็จะมีการตัดสินว่าพวกเขาจะกลับมาเกิดเป็นคนแบบไหนในชาตินี้

“มูลเหตุและผลในชาติก่อนได้ถูกกำหนดไว้แล้ว และผลกรรมในชาตินี้ของพวกเขาจึงเป็นเช่นนั้น” จี้ฉางพูดอย่างไร้ความเมตตาและไม่มีทางเลือก

แล้วเพราะอะไรโลกใต้พิภพถึงทำงานอย่างไร้หัวใจ เพราะไม่ว่าจะเป็นความเห็นอกเห็นใจ ความเกลียดชัง หรือมิตรภาพความรัก ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อการตัดสิน

ซู่เป่าไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ จึงเพียงถามคำถามตามแนวคิดที่ง่ายที่สุด “สิ่งที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วเป็นของชาติที่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในชาตินี้เป็นของชาตินี้ ทำไมความผิดพลาดในชาติที่แล้วถึงต้องมารับผิดชอบในชาตินี้ด้วยคะ”

จี้ฉางอบรมสั่งสอนอย่างอดทน “แล้วพวกเขาต้องรับผิดชอบยังไง ไม่อนุญาตให้พวกเขากลับมาเกิดอีกเหรอ ก่อนที่จะออกคำสั่งตัดสิน พวกเขาเองก็มีทางเลือกอื่น”

“จะไม่ให้กลับมาเกิดอยู่ในปรโลกตลอดไป หรือจะสั่งสมบุญในปรโลกให้เพียงพอและเริ่มต้นใหม่ในชาติหน้า หรือจะให้กลับมาเกิด แต่ต้องชดใช้กรรมในชาติหน้า”

แทนที่จะบอกว่ายมบาลกำหนดชีวิตในชาติหน้าของพวกเขา คงจะดีกว่าถ้าบอกว่าพวกเขากำหนดชีวิตในชาติหน้าของตนเอง

จี้ฉางถามอีกครั้ง “พวกเขาไม่ต้องการไปปรโลกหลังความตาย แต่จะอยู่ในโลกมนุษย์ ตอนนั้นพวกเขาฆ่าคนไปมากมาย และตอนนี้พวกเขาต้องการเอาชีวิตซูเหอเวิ่นและคนอื่น ๆ เจ้าอยากเห็นแบบนั้นหรือ”

จี้ฉางพยายามอย่างหนักเพื่อหาเหตุผลให้มากพอที่ซู่เป่าจะเข้าใจได้ เช่นพี่ชายพี่สาวที่เธอรักในตอนนี้

ถ้าไม่จับพวกเขาเพราะความเห็นอกเห็นใจ ต่อไปก็จะมีพี่ชายพี่สาวและสมาชิกในครอบครัวของคนอื่นถูกฆ่าตาย

ซู่เป่าตกตะลึง “ท่านอาจารย์ หนูแค่ถามว่าทำไม ไม่ได้จะไม่สนใจพวกพี่ชายพี่สาว...”

เธอก็แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้

ทำไมคนดี ๆ ถึงไม่มีชีวิตที่ดี และนำภัยพิบัติระยะยาวมาสู่คนรุ่นต่อไปด้วย

จี้ฉางไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปครู่หนึ่ง

ซูเหอเวิ่นคิดอยู่สักพักแล้วพูดว่า “เหมือนมีคนยืมเงินเธอไปแล้วไม่คืน เธอขอให้พวกเขาผ่อนชำระแต่พวกเขาก็ไม่ให้ ให้พวกเขามีเงินมากพอที่จะจ่ายคืนแต่พวกเขาก็ไม่ให้ เพราะฉะนั้นก็ต้องแจ้งตำรวจให้มาจับพวกเขาไป!”

สำหรับบางคนชาติหน้าคือการเริ่มต้นใหม่ แต่สำหรับคนบางคนอาจจะเป็นคุกก็ได้

จู่ ๆ ซู่เป่าก็ได้ความจริงกระจ่าง และเธอก็เข้าใจมันทั้งหมด!

ที่แท้ก็เป็นแบบนี้!

เป็นหนี้แล้วไม่คืนแน่นอนว่าไม่ได้อยู่แล้ว

ซู่เป่ามองไปที่ตระกูลผีหายโหงที่ยังคงอาฆาตแค้น บ่นพึมพำโทษคนอื่นไม่หยุด และพูดเสียงดังว่า “คืนเงิน!”

ตระกูลผีหายโหง “???”

จี้ฉาง “...”

ตระกูลผีตายโหง: ไม่ใช่ แล้วพวกเขาติดหนี้อะไรล่ะ

เมื่อเห็นเธอตะโกนอย่างมั่นใจเพื่อให้คืนเงิน ตระกูลผีตายโหงเลยเกือบจะสงสัยว่าพวกเขาเป็นติดหนี้เธอจริง ๆ หรือไม่

ซู่เป่าคิดออกและพูดว่า “ท่านอาจารย์บอกว่าติดหนี้ในชาติที่แล้วต้องคืนในชาตินี้ นี่คือสิ่งที่พวกคุณเลือก จะโทษคนอื่นไม่ได้”

“พวกคุณไม่อยากกลับมาเกิดแล้ว และยังไม่ยอมเลิกฆ่าคนอื่นด้วย งั้นฉันก็จะเก็บพวกคุณให้หมด!”

ปากของผีตายโหงน้อยถูกผนึกไว้ด้วยก้อนยันต์ เธอรู้สึกว่าเครื่องรางนั้นเริ่มกัดกร่อน และเธอก็เจ็บปวดอย่างมาก

“แง...แง...”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อกี้นี้กลายเป็นเสียงร้องไห้ของผี

ผีตายโหงน้อยร้องไห้เสียใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ดวงตามีแต่ความสับสน

ตระกูลผีตายโหงเริ่มวิตกกังวลและโกรธแค้นมากขึ้น ร้องตะโกนออกมาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ซู่เป่ารู้สึกว่าตัวเองถูกร้องไห้ใส่จนหัวโตขึ้น จึงได้เพียงแค่ปลอบใจ “เมื่อกี้เธอจะฆ่าคนไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอเชื่อฟัง ฉันจะเอายันต์กลับมา”

ผีตายโหงน้อยมองเธอทั้งน้ำตาและพยักหน้า

ซู่เป่าเอายันต์สีเหลืองกลับมาแล้วพูดว่า “ถ้าเธอเชื่อฟัง ฉันจะปล่อยเธอไป”

ผีตายโหงน้อยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

ซู่เป่าปล่อยเธอไป และมองดูเธอร้องไห้วิ่งเข้าไปกอดแม่ของเธอแน่น

ตระกูลผีตายโหงอดไม่ได้ที่จะหลั่งน้ำตาออกมาเป็นเลือด

พวกเขาไม่ยอม

แม้แต่น้องชายที่ป่วยเป็นโรคจิตของพวกเขาเองยังเอาชีวิตมาแล้ว ถือโอกาสที่เปลวไฟหยางของเขาดับลง บังคับเขาให้ฟันตัวเองจนตาย

เมื่อได้แก้แค้นแล้ว พวกเขากลับไม่มีความสุขเลย พวกเขาอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไป และการฆ่าเอาชีวิตคนก็แค่การพยายามหาผีมาแทน แต่ก็ไม่มีใครสามารถแทนที่พวกเขาได้

เมื่อมองดูผีตายโหงน้อยที่กำลังร้องไห้อย่างเศร้าโศก พวกเขาก็รู้สึกว่าได้ทำร้ายเธออย่างรุนแรง และเจ็บปวดใจอย่างมาก

จู่ ๆ แม่ผีตายโหงน้อยก็คุกเข่าลง...

การคุกเข่านี้ทำให้จี้ฉางขมวดคิ้วอีกครั้ง และมองซู่เป่าอย่างกังวล...

เป๋าน้อยจะผ่านด่านนี้ไปได้ไหม

และเธอจะแก้ปัญหาของตระกูลนี้ยังไง...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน