ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 346

ผู้ชายที่บอกไม่เชื่อเรื่องผีรู้สึกหวาดกลัวเพราะเขาก็เห็นเหมือนกัน!

แล้วสิ่งที่เห็นตรงนั้นก็หายไปในพริบตา!

เขากลืนน้ำลาย “อาจจะมีคนวิ่งผ่านไปก็ได้...”

เด็กผู้ชายอีกคนที่ถือโทรศัพท์มือถือหวาดกลัวมาก “คนปกติไม่ได้เดินเร็วขนาดนั้น ถ้าจะเป็นการวิ่ง การเคลื่อนไหวเมื่อกี้ก็เรียบ ๆ นิ่ง ๆ เสียอย่างนั้น ไม่เหมือนคนวิ่งเลย...”

ทันใดนั้นใบหน้าซีดเซียวก็ก้มลงมาจากข้างบนด้วยน้ำเสียงแข็งทื่อและเย็นชา “พวกเธอมาทำอะไรที่นี่”

ผู้ชายทั้งสองและผู้ชมในห้องไลฟ์สด “! ! ! !”

“อ๊ากกกกก”

ผู้ชายสองคนที่บอกว่าไม่เชื่อเรื่องผีวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง

มู่กุยฝานตะคอกอย่างเย็นชา กล้าแค่นี้ก็อย่ามาที่แบบนี้เลย

ไม่รู้มาก่อนถึงไม่กลัว จะตายเข้าวันไหนยังไงก็ไม่รู้

ตอนนั้นเองที่มู่กุยฝานซึ่งถอยกลับมาถึงได้ออกจากโรงพยาบาลที่สี่จริง ๆ

**

วันต่อมา

นายหญิงซูพาซูจื่อซี ซู่เป่า และซูเหอเวิ่นไปโรงพยาบาล

พ่อของหานหานรู้ว่าเธอไม่ได้ทำการบ้านทั้งวัน จึงไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอก

เมื่อซู่เป่าเห็นว่าคุณยายกำลังจะพาพี่จื่อซีไปโรงพยาบาล เลยบอกว่าจะไปด้วย และเมื่อซูเหอเวิ่นเห็นซู่เป่า เขาจึงตามไปด้วย

ซูเหอเหวินอยากตามไปด้วย แต่มันจะดูเหมือนเขาติดน้องสาวมากเกินไป

น่าอาย

ซู่เป่าปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ในร้านหนังสือ โผล่หัวของเธอครึ่งหนึ่งออกมาจากหนังสือของซูเหอเหวิน “พี่ใหญ่ พี่ไปไหม”

ซูเหอเหวินไร้อารมณ์และไม่ได้รู้สึกสนใจ “น่าเบื่อ”

ซู่เป่าเม้มริมฝีปาก “เอาล่ะ งั้นเราไปกัน พี่อยู่บ้านต้องเป็นเด็กดีนะ!”

ซูเหอเหวิน “...”

เธอคิดว่าเขาเป็นพวกเขาเหรอ 'เชื่อฟัง' งั้นเหรอ เด็กจริง ๆ

ซูเหอเหวินงงและไม่ขยับไปไหนจนกว่าเสียงรถยนต์ของซู่เป่าจะเงียบหายไป และในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะวางหนังสือลง และเหยียดคอขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองดู

ทันใดนั้นเสียงแว๊กของเสี่ยวอู่ก็ดังขึ้น “คุณต้องการไหม หงอคง ถ้าต้องการก็แค่พูดมา ถ้าคุณไม่บอกฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณต้องการล่ะ”

ซูเหอเหวินจ้องไปที่เสี่ยวอู่ทันที

เมื่อครู่นี้นายหญิงซูบอกว่าเธอไม่สามารถพาเสี่ยวอู่ไปโรงพยาบาลได้ แต่ว่า...

ซู่เป่าชอบนกแก้วตัวนี้มาก เธอคงอยากจะเอามันไปด้วยใช่ไหม

ช่างเถอะ เขาลำบากเอามันไปส่งให้น้องสาวหน่อยแล้วกัน ยังไงซะประธานซูก็บอกไว้ว่าให้เขาดูแลน้องสาวให้ดี ๆ นี่ เขาจะทำตามที่ประธานซูว่า

เมื่อเห็นซูเหอเหวินจ้องมองมันอย่างใช้ความคิด เสี่ยวอู่ก็เอียงคอแล้วพูดว่า “แม้ว่าคุณจะมองฉันอย่างจริงใจ แต่คุณยังต้องบอกฉันว่าคุณต้องการอะไร คุณต้องการมันจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าคุณต้องการฉันจะให้ ถ้าคุณต้องการทำไมฉันจะให้คุณไม่ได้ล่ะ ฉันจะไม่ให้มันได้ยังไงถ้าคุณต้องการ คุณไม่ต้องการแต่ฉันให้คุณ ทุกคนมีเหตุผลนะ! ตอนนี้ฉันจะนับถึงสาม คุณต้องพูดให้ชัดว่าคุณต้องการไหม...”

บทพูดนี้มาจากเรื่องไซอิ๋ว กล่าวโดยพระถังซัมจั๋งที่จู้จี้จุกจิก

เสี่ยวอู่เรียนรู้ทุกคำพูด พูดฉอด ๆ ร้องแว๊ก ๆ และมีอุปนิสัยบางส่วนของพระถังซัมจั๋งจริง ๆ

ซูเหอเหวินจับคอของมัน และพูดอย่างไร้อารมณ์ “หนวกหูน่า!”

เสี่ยวอู่ “แว๊ก แว๊ก! ปล่อยนะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย เด็ก ๆ ถูกลักพาตัว!”

ซูเหอเหวินทนไม่ไหวอีกต่อไป และเปลี่ยนมาจับปีกของมันไว้

เสี่ยวอู่ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป “นายมันเจ้าเล่ห์ ฉันยอมแพ้นายจริง ๆ ไอ้เจ้าเล่ห์ มีนายอยู่ด้วยช่างอุ่นใจ แน่จริงก็ปล่อยฉันไปลุยเดี่ยวเซ่!”

ซูเหอเหวินมาที่ห้องของซู่เป่า หยิบกระเป๋าสัตว์เลี้ยงขึ้นมา แล้วยัดเสี่ยวอู่เข้าไป

เสี่ยวอู่ “%...&¥%¥#!!”

ขณะที่ซูเหอเหวินกำลังจะไป เขาก็ได้ยินเสียงนกแก้วร้องแว๊กแว๊กวิ่งไปมาในกระเป๋าสัตว์เลี้ยง “เดี๋ยวก่อน อย่างน้อยก็เอาสพันจ์บ็อบน้องชายคนดีของฉันมาด้วย!”

มันพูดบทในสพันจ์บ็อบออกมาอีกสองประโยค และปู่เต่าก็ค่อย ๆ คลานออกมาจากใต้โต๊ะพร้อมกับคาบสาหร่ายอยู่ในปากพอดี

ซูเหอเหวินเหลือบมองมันแล้วเอาเต่าใส่ไปด้วย

ปู่เต่า “?”

มันก็แค่ออกมาเดินเล่น ผิดอะไรอะ

**

ที่โรงพยาบาลแผนกประสาทวิทยา

เมื่อซูจื่อซียืนขึ้น มือเล็ก ๆ สองมืออันอ่อนนุ่มก็ยื่นออกมาทางด้านข้างทันที

ซู่เป่ากอดซูจื่อซี ตบ ๆ ต้นขาเขาแล้วพูดว่า “พี่ชาย รีบนั่งลงและต้องเป็นเด็กดีนะคะ! หมอบอกให้พี่อ้าปาก ไม่ใช่ให้ลุกขึ้นยืน!”

ซูจื่อซีมองลงมาที่ซู่เป่า เจ้าแก้มก้อนดูเป็นห่วงและกังวลมาก เธอกอดเขาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะวิ่งหนีไป

มีร่องรอยของความจริงจังเหมือนพ่อปรากฎขึ้นในดวงตาฉ่ำน้ำคู่โต

“...”

ซูจื่อซีนั่งลงอย่างเชื่อฟัง และอ้าปากอย่างไม่เต็มใจ

หมอเงียบไปสักพัก เยี่ยม ปฏิกิริยาดูเหมือนจะช้าไปหน่อยจริง ๆ...

เขาทำการตรวจเช็คตามปกติและไม่พบสิ่งใดผิดปกติ

เมื่อพิจารณาจากประสบการณ์หลายปีในวงการแพทย์ ซูจื่อซีไม่ได้มีปัญหาอะไร และถึงแม้จะมีปัญหาแต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรใหญ่โต อย่างน้อยก็ไม่ใช่เหตุฉุกเฉินเช่นวันนี้กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจตกกลางคืนก็ตาย ไม่ใช่สถานการณ์วิกฤติแบบนั้น

ขณะที่กำลังบันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ หมอก็พูดว่า “สถานการณ์แบบนี้ถ้าพามาตรวจเร็วหน่อยก็คงดี แต่บอกตามตรงว่ามันผ่านมาหลายปีแล้ว โดยทั่วไปก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร”

“เด็กบางคนดูเหมือนช้า แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาอาจไม่ได้ช้าก็ได้ ก็คือความเร็วของปฏิกิริยาที่แสดงออกภายนอกไม่ได้เร็วมาก แต่ความคิดในหัวก็ไม่จำเป็นต้องช้าเสมอไป”

“เด็กแบบนี้ ถ้าเขาพบเรื่องที่เหมาะกับเขา เขาก็จะมีสมาธิมากกว่าคนอื่น ๆ ในเรื่องที่เขาเชี่ยวชาญ คนอื่น ๆ ก็จะเก่งไม่เท่ากับเขา และเขาสามารถโดดเด่นได้”

ทันใดนั้นนายหญิงซูก็จำได้ว่าซูจื่อซีเล่นเกมเก่งมาก และมุมปากของเธอก็กระตุก

เรื่องที่เขาจดจ่อ จะไม่ใช่เกมใช่ไหม

นี่... นี่ยิ่งต้องรักษาให้หาย!

สุดท้ายนายหญิงซูก็อายุมากแล้ว ความคิดความอ่านของเธอก็ยังคงดูโบราณไปนิด แม้ว่าตอนนี้เธอจะมีอาชีพในอุตสาหกรรมเกม e-sports แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าอาชีพนี้ไม่ยั่งยืน

หมอพูดต่อว่า “แต่ถ้าพวกคุณกังวล ก็ตรวจและทำซีทีสแกนดูได้ครับ”

ซูจื่อซี ‘เหอะ ๆ พวกเขาพูดว่าเขาช้าจริง ๆ เหรอ’

ตรวจซีทีสแกนอะไร เขาไม่ได้อยากตรวจเช็คเครื่องอะไรนั่นสักหน่อย ถ้าเพื่อน ๆ ในห้องรู้เข้าคงโดนหัวเราะจนตายและบอกว่าเขามีปัญหาทางสมองแน่ ๆ

ซูจื่อซีกำลังจะพูด ทันใดนั้นซู่เป่าที่กำลังบีบมืออยู่ข้าง ๆ ก็พูดว่า “พี่ชาย ตรวจสักหน่อยนะคะ! เชื่อฟังนะ!”

ซูจื่อซี “...”

ก้นที่ยกขึ้นได้เพียงสองเซนฯ ก็กลับนั่งลงอย่างเชื่อฟัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน