ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 357

โจวจวี่พูดไปด้วยหัวเราะไปด้วย เผยให้เห็นฟันหน้าของเขาที่หายไปและยิ้มอย่างกับตัวตลก

หวงต้าฉวนจ้องไปที่เขาพร้อมตำหนิ “คุณหมอซูมาก็เพราะว่าให้เกียรติพวกเรา แถมยังให้อั่งเปาตั้งหลายพันมาอีก? ส่วนนายล่ะจะให้เท่าไหร่!”

โจวจวี่ตอบทันทีว่า “ไอ้หยา แค่ล้อเล่นเฉยๆน่ะ ลุงห้าอย่าโกรธเลย มาๆๆเดี๋ยวผมรินให้ลุงสักแก้ว !”

หวงต้าฉวนไม่สนใจเขา

แต่ว่าปากโจวจวี่นี่มันเก่งจริงๆ ตื๊ออยู่นั่นแหละ บอกว่าถ้าไม่ดื่มก็ถือว่าไม่ให้อภัยเขา แม้จะแค่ชนแก้วเล็กน้อยแทนก็ยังดี!

หวงต้าฉวนก็ซื่อบื้อจริงๆ คิดแค่ว่าเป็นญาติกันทะเลาะกันไปก็คงไม่ดี ไม่ว่าอย่างไรอนาคตก็ต้องไปมาหาสู่กันอีก ก็เลยดื่มส่งๆไปครึ่งอึก

เสี่ยวหงออกมาเห็นภาพนี้ถึงกับโมโห เลยด่าโจวจวี่ไปชุดใหญ๋

โจวจวี่กอดไหล่ของหวงต้าฉวนไว้เอ่ย “เธอดูสิว่าลุงห้าก็ยังดีๆ อยู่ไม่ใช่หรือไง? อะไรก็ไม่ให้กิน แล้วถ้าไม่กินจะดีขึ้นได้ยังไงล่ะ? อีกอย่างฉันก็ตั้งใจรินเหล้าที่บ้านฉันหมักเองให้เลยนะ ดีกับสุขภาพแน่นอน!”

“ดูสิ หน้าลุงห้าแดงก่ำขึ้นเยอะเลย!”

โจวจวี่ไม่สนใจอะไรและรู้สึกว่าเสี่ยวหงทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเพราะเธอดูถูกเขาล่ะสิ!

เสี่ยวหงกำลังจะออกฤทธิ์ ก็โดนลูกพี่ลูกน้องของเธอห้ามเอาไว้และเกลี้ยกล่อมไปว่า “ช่างมันเถอะ ลุงห้าก็ไม่ได้เป็นอะไร พี่เขยเธอก็แค่อยากขอให้ลุงให้อภัยเฉยๆน่ะ เขาไม่ได้คิดร้ายอะไรหรอก…”

เสี่ยวหงหันเข้าไปในห้องครัวด้วยความโกรธ

หลังซูอี้เซินกลับไปทุกคนก็ปล่อยจอยดื่มต่ออีกสามรอบ ไม่มากก็น้อยต้องมีเมาบ้าง โจวจวี่มองไปที่เด็กชายคนหนึ่งที่กำลังแทะน่องไก่อยู่ข้างๆ แล้วพูดหัวเราะกับเขาว่า “เสี่ยวจวิ้นจวิ้น กินแต่น่องไก่เนี่ยหิวน้ำหรือเปล่า มาเดี๋ยวลุงเอาเครื่องดื่มให้หนู!”

เด็กชายตื่นเต้นนึกว่าตัวเองจะได้ดื่มเครื่องดื่มที่เป็นเครื่องดื่มจริงๆ ก็เลยดื่มไปอึกหนึ่ง แถมยังตื่นเต้นจนดื่มไปอึกใหญ่ แล้วค่อยรู้สึกว่ามันไม่ใช่ตอนที่เหล้าเข้าคอไปแล้ว ขมจนร้องไห้แงงออกมา

คนในบ้านก็รีบเข้ามาดูทันที แม่ของเด็กซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหง ขณะที่เธอกำลังช่วยงานอยู่ในครัว พอได้ข่าวก็รีบออกมาด่ากราดโจวจวี่ชุดใหญ่ทันที

“เป็นบ้าหรอ มาหลอกเด็กดื่มเหล้าเนี่ย!”

โจวจวี่ทำหน้าไม่สนใจ “ไม่ช้าก็เร็วผู้ชายยังไงก็ต้องได้ดื่มเหล้าหรือเปล่า ฉันแค่ช่วยปลูกฝังเฉยๆน่ะ”

พอเขาเห็นเด็กกำลังร้องไห้ ตัวเองกลับรู้สึกสนุกแล้วหัวเราะคิกคาก จนลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหงก็ขี้เกียจจะสนใจเลยรีบอุ้มเด็กหนีไป

เด็กชายนอนพาดอยู่ที่ไหล่ของแม่ แล้วเริ่มจะสะลึมสะลือแล้วซึมหลับไป

แต่ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าควรทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง คิดแค่ว่าเด็กไม่ระวังเผลอดื่มเหล้าไปสองสามคำอย่างมากก็เมา นอนไปสักพักก็คงหาย

ไม่นานนัก พอเห็นว่าเด็ก ‘กำลังนอน’ ลูกพี่ลูกน้องของเสี่ยวหงก็วางเด็กให้นอนไว้บนเตียงอย่างระมัดระวัง แล้วก็ไปทำงานของตัวเอง

พอพูดถึงซู่เป่า

รถขับออกไปอย่างช้าๆ ซูอี้เซินขับรถอยู่ข้างหน้า ส่วนซู่เป่านั่งอยู่คาร์ซีทด้านหลังด้วยความเชื่อฟังและมองทิวทัศน์ด้านนอกโดยไม่ส่งเสียงดัง

ซูอี้เซินมองเธอจากกระจกมองหลัง ขณะที่เขากำลังจะพูด ทันใดนั้นก็มีเงาสีดำโผล่ออกมาจากด้านหน้ารถ!

ซูอี้เซินเบรกกะทันหัน แต่เดิมรถก็ไม่ได้ขับเร็วเท่าไหร่ พอเบรกกะทันหัน สุดท้าย…

เขามองออกไปที่ระยะทางห้าเมตรข้างหน้า มองเห็นแมวตัวหนึ่งนอนอยู่บนพื้นด้วยความชำนาญคล่องแคล่ว

เห็นได้ชัดว่ารถอยู่ห่างกับมันตั้งหลายเมตร แต่มันกลับทำหน้าอย่างกับว่าตัวเองโดนชนแล้วร้องเหมียวๆ

สีหน้านั้นเหมือนกำลังบอกว่า ถ้าไม่เอาอาหารแมวมาให้มันสิบกระป๋อง เรื่องก็จะไม่จบ!

ซูอี้เซินตะลึงจนพูดไม่ออก เคยเห็นแต่ชายแก่หญิงชรามาแกล้งให้โดนรถชน เคยเห็นคนถือแจกันเอยกระเป๋าเดินทางเอยแล้วแกล้งให้ชน เคยเห็นหญิงสาวแกล้งดึงไหล่ตัวเองแล้วตะโกนไม่สุภาพต่างๆนาๆ…

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นแมวแกล้งให้โดนรถชน!

ซู่เป่า “ลุงเล็ก เกิดอะไรขึ้นคะ?”

ซูอี้เซินเม้มปากแล้วชี้ไปที่ข้างหน้า “ซู่เป่า แมวตัวนั้นใช่แมวตัวที่หนูเพิ่งเล่นด้วยหรือเปล่า?”

ซู่เป่าทำเสียงเอ๊ะ ชะโงกหน้าออกไปดู

ใช่จริงด้วย!

มันหนีไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ? ทำไมถึงมาอีกล่ะ?

ซูอี้เซินเปิดประตูรถออกไปแล้วอุ้มซู่เป่าลงไปด้วย

ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ก็นั่งยองๆ อยู่ตามถนนแบบนี้แล้วมองไปที่แมว

ซูอี้เซิน “ฟ้าดินเป็นพยาน ฉันไม่ได้แตะต้องตัวแกเลยนะ แกดูสิว่าแกอยู่ห่างจากรถตั้งไกลขนาดนี้น่ะ!”

เขากางแขนออกแล้วสาธิตให้ดู

แมวทำหน้าประมาณว่า ‘ฉันไม่สน ยังไงคุณก็เป็นคนชนฉัน’ แล้วเอียงหัวนอนอยู่บนพื้น

จี้ฉางลูบคางแล้วจ้องไปที่แมวด้วยความสนใจ “น่าสนใจ มันคงอยากให้เจ้าพามันกลับบ้าน”

ซู่เป่าส่งเสียง “ห๊า?” ด้วยสีหน้ากังวล

ถ้าเอาเจ้าแมวเหมียวกลับไปด้วยละก็ เธอก็กลัวว่ามันจะไปรังแกเสี่ยวอู่

ปกติเสี่ยวอู่ว่างๆ จะชอบไปกระโดดโลดเต้นในหญ้าที่สวน หรือไม่ก็ไปจิกเปลือกไม้เล่นบนต้นไม้

แต่เจ้าแมวเหมียวไม่เพียงแต่จะเคลื่อนไหวเร็ว แถมยังปีนต้นไม้ได้อีก ถ้าเกิดพามันกลับบ้านไปด้วย หลังจากนี้เสี่ยวอู่ก็คงต้องซ่อนตัวอยู่แต่ในห้อง…

แบบนี้มันเป็นการไม่รับผิดชอบต่อเสี่ยวอู่

แต่ถ้าไม่พามันกลับไปด้วย ซู่เป่าก็รู้สึกว่าเจ้าแมวเหมียวนี่ดูน่าสงสารเกินไป

พอเอากลับไปแล้วจะให้เอาไปขังไว้อย่างเดียวก็ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันกับเสี่ยวอู่ก็จะสู้กันอีกเสี่ยวอู่ตัวเล็กขนาดนั้น จะไปสู้มันไหวได้ยังไง?

อีกอย่าง ถ้าเกิดแมวมีเจ้าของล่ะ งั้นเธอก็จะกลายเป็นคนไม่ดีที่ลักพาตัวแมวอีก

จู่ๆ ซู่เป่าก็อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก นั่งยองๆ อยู่ข้างเจ้าแมวเหมียวแล้วคิด

เธอยื่นนิ้วออกมาห้านิ้ว “ปลากระป๋องห้าอัน พอไหม?”

เจ้าแมวเหมียวไม่มองหน้าเธอแม้แต่น้อย

ซู่เป่ากัดฟัน ยื่นมือออกมาสองข้าง “แล้วปลากระป๋องสิบอันล่ะ!”

เจ้าแมวเหมียวมองหน้าเธอเหมือนจะบอกว่าดูถูกไปหรือเปล่า

เหมือนมันไม่ได้อยากได้อาหารแมวกระป๋อง ไม่ว่าซู่เป่าจะเพิ่มอีกเท่าไหร่มันก็ไม่ลุก

ซูอี้เซินมองภาพที่อยู่ตรงหน้า

เจ้าเด็กน้อยอายุสี่ขวบนั่งยองอยู่ตรงหน้าแมวที่แกล้งให้โดนรถชน ยื่นนิ้วเจรจาเรื่องเสียเงินกับมัน

ก็ดูน่ารักดี แต่ก็ทำให้รู้สึกงงๆนิดหน่อย

ซูอี้เซินหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายวิดีโอเก็บไว้แล้วส่งไปในกลุ่ม

【ระหว่างทางโดนแมวตัวหนึ่งแกล้งให้โดนรถชน ฝ่ายตรงข้ามปลากระป๋องร้อยอันก็ไม่เอา แต่จะให้พวกเรารับผิดชอบดูแลชีวิตครึ่งหลังมัน ทำยังไงดี?ออนไลน์รออยู่ รีบหน่อย!】

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน