ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 374

ซู่เป่าชี้ไปที่บ้านผีสิงและพูดกับลุงสามอย่างมีความสุขว่า “นี่ไง สิ่งที่เด็กผู้หญิงควรเล่น!”

ซูเยว่เฟยที่สุภาพอ่อนโยนยืนสับสนวุ่นวายอยู่หน้าทางเข้าบ้านผีสิง

เขาพยายามฝืนยิ้มอ่อนโยนเหมือนเช่นเคยและถามว่า “ซู่เป่าแน่ใจนะว่าอยากเล่นอันนี้”

ซู่เป่าพยักหน้ายืนยัน “ค่ะ!”

ภาพในจินตนาการของซูเยว่เฟยแตกสลาย

ถ้าเป็นอันนี้ล่ะก็ ไปเล่นรถไฟเหาะ ดรอป ทาวเวอร์ หรือทอร์นาโดยังดีกว่า...

ลุงสามสีหน้าคงเดิมไม่เปลี่ยนไป เขาพูดด้วยเสียงอ่อนโยน : “ซู่เปาหนูยังเด็กอยู่ เด็ก ๆ เข้าบ้านผีสิงไม่ได้”

ซู่เป่า: “ทำไมเด็ก ๆ ถึงเข้าบ้านผีสิงไม่ได้?”

ลุงสามอธิบายว่า “เพราะพัฒนาการทางจิตใจของเด็กยังไม่ครบถ้วน มันอาจจะเกิดเป็นPTSD (ความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ)ได้ง่าย”

ซู่เป่า: PTSDคืออะไร ?”

ลุงสามอธิบายให้ฟังอย่างใจเย็นว่า “หมายความว่าเคยได้รับการบาดเจ็บทางจิตใจอย่างรุนแรง เช่น ถูกทำร้าย ตกใจกลัว...จนก่อให้เกิดภาวะการตอบสนองต่อความเครียดเหล่านี้ “

ซูเยว่เฟยพยายามอธิบายด้วยคำพูดที่เด็กเข้าใจ จนถึงตอนนี้ลุงสามยังคงเป็นลุงสามที่สุถาพอ่อนโยนเช่นเดิม

ซู่เป่าตบหน้าอกตัวเองรับประกันว่า “ลุงสามไม่ต้องห่วงเรื่องนี้นะคะ มีแต่ผีเท่านั้นที่จะเป็นPTSD พวกเราไม่เป็นไรอยู่แล้ว!”

ลุงสาม: “...”

เขามองป้ายคำเตือนนักท่องเที่ยว “ดูป้ายคำเตือนสิ มันบอกว่าเด็ก ๆ ไม่สามารถเล่นได้”

ซู่เป่าอ่านหนังสือไม่ออก เธออ่านออกแค่เลขสองตัว 14 เธอกล่าวว่า: “มันบอกว่าอายุ 14 ปีไม่สามารถเล่นได้ เราไม่มีใครอายุ 14 ปีเลยสักคน!”

เธออายุสี่ขวบครึ่ง พี่หานหานเพิ่งอายุ 6 ขวบ พี่เล็กอายุ 7 ขวบและพี่ใหญ่อายุ 9 ขวบ

ไม่มีเด็กอายุ 14 ปีสักคน

หานหาน: “นั่นสิ!”

ซูเหอเวิ่น: “อาสาม ป้ายบอกว่าเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีต้องมีผู้ปกครองมาด้วย ไม่บอกว่าห้ามเด็กเข้าสักหน่อย”

ซูเยว่เฟย: “...”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของซูเหอเหวินจะยังคงเย็นชาแต่เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า “อาสาม อากลัวเหรอครับ?”

ซูเยว่เฟย: “...”

หากเจอปัญหา ต้องหาพี่ใหญ่

ซูเยว่เฟยส่งข้อความ: [พี่ใหญ่ ซู่เป่าอยากเล่นบ้านผีสิง ผมเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่ยอม]

ซูอีเฉิน: [ให้เธอเล่นสิ]

ซูเยว่เฟย: [?]

ซูเยว่เฟย: [คนหลอกคนน่ากลัวจนตกใจตายได้เลยนะ เด็ก ๆ ไม่เหมาะกับการเล่นอะไรแบบนี้นะ]

อีกด้านหนึ่งชองแชทซูอีเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

[คนหลอกคนไม่ค่อยดีจริง ๆ นั่นแหละ รอสักครู่นะ]

ซูเยว่เฟยโล่งอก

ยังไงพี่ใหญ่ก็เป็นพ่อของสองพี่น้องเหอเหวินกับเหอเวิ่น ถ้าเขาออกคำสั่งสองพี่น้องต้องไม่กล้าขัด แล้วถ้าพี่ชายสองคนไม่ไป ซู่เป่าก็ต้องยอมฟังพี่ชายของเธอแต่โดยดี

ครึ่งนาทีต่อมา

ซูอีเฉิน: [เรียบร้อยแล้ว ฉันจัดการให้แล้ว นายพาพวกเขาเข้าไปได้เลย]

ซูเยว่เฟย: [?????]

สิบนาทีต่อมา

ซูเยว่เฟยพาพวกเด็ก ๆ เขามายืนอยู่ที่ด่านแรกของบ้านผีสิง

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเข้ามาได้ยังไง!

นี่มันอะไรกันนี่?

ไหนบอกว่าเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีเข้าไม่ได้ไง...

ซูเหอเวิ่นยังพูดอีกว่า “เห็นไหม ผมบอกแล้วเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีต้องมีผู้ใหญ่มาด้วย ไม่ใช่เข้าไม่ได้...”

ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าคอของเขาเย็นวาบขึ้นมา ทำเอาเขาไม่กล้าที่จะส่งเสียงอีกต่อไป

บ้านผีสิงนี้ ถ้าพูดให้ถูกต้องเรียกว่าเกมเอาชีวิตรอดจากบ้านผีสิง

พวกเขาผ่านด่านแรกไปก็ต้องค้นหาไอเท็ม หรือไขปริศนาการฆาตกรรมในด่านนั้นถึงจะผ่านสู่ด่านถัดไปได้ จนกว่าพวกเขาจะหนีออกไปได้

เมื่อกี้มัวคิดแต่ว่าจะช่วยน้องสาวทำยอดเคพีไอ

เพราะแบบนี้ชื่อแม่นางหลันถูกลือไปทั่ว ไม่ทันได้แต่งฝ่ายชายก็ต้องมาตายแบบนี้ ถ้าแต่งไปแล้วจะขนาดไหน?

ทั้งครอบครัวจะไม่ต้องตายเพราะนางหรือ?

ในน้ำเต้าวิญญาณ ผีดวงซวยกับผีหลายใจไม่รู้ว่าจะโผล่หัวออกมาเมื่อไหร่

ผีน้าขี้เหร่ถามว่า “ขี้เหร่กว่าฉันอีกเหรอ?”

ผีดวงซวยถามว่า “ให้ตายเถอะ แต่งกับใครคนนั้นตาย? เป็นบรรพบุรุษฉันหรือเปล่าเนี่ย”

ผีหลายใจ: “น่าสงสารจริง ยังไม่ทันได้มีความสุขก็ต้องมาตายเสียแล้ว ยังไงก็ควรจะได้ร่วมหลับนอนสักหนก่อนสิ”

ผีทั้งหลาย : “...”

เป็นแค่ผีหลายใจไม่ใช่เหรอ? กลายเป็นผีแรดไปตั้งแต่เมื่อไหร่??

ซู่เป่าถามว่า “แล้วยังไงต่อ?”

ซูเหอเวิ่นบอกว่า “ต่อมามีบัณฑิตจากเมืองอื่นเข้าเมืองหลวงมาสอบ แต่เพราะว่าฐานะยากจน ไม่มีเงินติดตัว แม้แต่เงินจะไปสอบก็ไม่มีแล้ว ดังนั้นเขาจึงฉีกประกาศนั้นมา”

ผีหลายใจเอามือเท้าคางและพูดว่า “น่าเบื่อจัง เป็นบัณฑิตที่เข้าเมืองหลวงไปสอบอีกแล้ว เรื่องราวสมัยโบราณนี้ทำไมถึงมีแต่บัณฑิตเข้าเมืองหลวงไปสอบนะ”

ซูเหอเวิ่นพูดต่อ

บัณฑิตคนนี้ไปที่จวนหลัน ท่านขุนนางพอใจมากกับสถานะบัณฑิตของเขา คุณหนูหลันก็นพอใจกับรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาของเขามากเช่นกัน

“เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง พวกเขาจึงจัดการแต่งงานกันในคืนนั้นเลย...”

“ตระกูลหลันเชื่อมั่นว่าขอแค่แม่นางหลันได้แต่งงาน คำสาปทั้งหมดก็จะถูกทำลายลง”

สถานที่ที่ทั้งสองแต่งงานกันก็คือเรือนชั้นสามที่เป็นหนึ่งในสินสมรส สถานที่กว้างขวางมาก เพราะว่าแต่งกันกะทันหันในจวนจึงไม่มีใคร มีแค่สาวใช้สี่คน บ่าวผุ้ชายอีกสี่ กับบ่าวก้นครัวหนึ่งที่ติตามรับใช้คุณหนูหลังแต่งงาน

“แต่ดันมาเกิดเหตุในคืนวันแต่งงาน คืนนั้นลมกระโชกแรง มีเสียงร้องโหยหวนดังมาจากเรือนหลังใหม่”

“พูดให้ถูกมันคือเสียงกรีดร้องของเจ้าบ่าว และเสียงกินกระดูกดังกรวบ ๆ”

สาวใช้กับบ่าวนึกถึงข่าวลื่อของแม่นางหลันแล้วพากันหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าเข้าไปในเรือนด้านหลังเลย

พวกเขาต่างหนีออกไปตามคนอื่นมา รอจนจนในจวนขุนนางมากับครบ ประตูเรือนหลังใหม่ถึงถูกเปิดออกต่อหน้าทุกคน

เมื่อเห็นภาพด้านในก็มีคนตกใจจนหงายหลัง หน้าตาบิดเบี้ยว... ตกใจตายไปทั้งอย่างนั้น!

ซู่เป่า หานหานและผีที่ไม่มีใครเห็นต่างฟังกันอย่างเพลิดเพลิน รีบถามว่า “พวกเขาเห็นอะไร? สภาพข้างในเป็นยังไง???”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน