ผีดวงซวยอยากแย่งชิงความดีความชอบ จึงพุ่งขึ้นไปเป็นตนแรก
ไม่นึกเลยว่าจะเป็นผีตนแรกที่ชนกับหุ่นกระดาษพวกนั้น
“ให้ตายเถอะ!” เขาตกตะลึงเล็กน้อย “แม่งทำได้ยังไงเนี่ย”
กระดาษที่พับเอาไว้ ไม่นานก็ตั้งขึ้นมาแล้วกลายเป็นหุ่นกระดาษ
ผีหลายใจฉีกหุ่นกระดาษตัวหนึ่ง จากนั้นก็พุ่งไปทางชายหนุ่มหัวล้านคนนั้นเลย แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “ไม่ว่าจะทำมันขึ้นมาได้ยังไง แต่จับโจรต้องจับหัวหน้าโจรก่อน!”
พวกเขาคือผีร้าย ย่อมไม่กลัวหุ่นกระดาษพวกนี้อยู่แล้ว นอกเสียจากอีกฝ่ายคือคนที่เก่งกาจเหมือนกับซู่เป่า ไม่อย่างนั้นหุ่นกระดาษพวกนี้ก็เก่งกาจไม่เท่าวิญญาณพยาบาทหรอก
ผีดวงซวยร้องโอดโอย หุ่นกระดาษเหล่านั้นเห็นผีหลายใจจะพุ่งเข้าไป จึงกรูกันกระโจนไปทางเธอ เขารีบเข้าไปช่วยผีหลายใจทันที แต่ไม่ทันได้ระวังดันไปกระชากผมของเธอหลุดออกมากำหนึ่ง
ผีหลายใจ “...”
ถูกหุ่นกระดาษเหล่านี้ขวางเอาไว้ขนาดนั้น เสียเวลาไปตั้งสองวินาที
ผู้ชายคนนั้นพุ่งออกมาจากบ้านผีสิงแล้ว
ผีขี้ขลาดตามไปติดๆ ข้างนอกคือสวนสนุก มีเด็กเล็กเยอะ
ที่ที่มีเด็กเล็กเยอะไอหยางจะแข็งแกร่ง เขาเองก็ไม่อยากจะชนกับเด็กน้อย หลบหลีกไปสองสามที ผู้ชายคนนั้นก็หายตัวไปท่ามกลางฝูงคนแล้ว
ภายใต้การรุมล้อม ปลาหลุดมือไปแล้ว!
เหล่าผีร้ายมองตากันปริบๆ
“นี่ยังเล็ดลอดไปได้อีกเหรอ หน้าล่ะ หน้าของผีร้ายอย่างเราล่ะ” ผีหลายใจโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เห็นผีดวงซวยตามมาเป็นคนสุดท้าย จึงตบไปที่หน้าของเขาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ฉาดหนึ่ง
ผีดวงซวย “??”
ผีขี้ขลาดขมวดคิ้ว “เขาเจ้าเล่ห์เกินไป...อีกอย่างยังคุ้นเคยกับสวนสนุกแห่งนี้ด้วย”
ผีทึ่มสับสนอยู่ในความสับสน เขาด่าตามประโยคหนึ่ง “ไอ้เศษสวะ!”
ผีดวงซวย “...”
เขาเป็นอะไรไปเหรอ!
เขาพุ่งตัวไปเป็นคนแรก
แต่ไม่นึกเลยว่าจะเป็นคนที่ถูกดุ
“ไม่สิ ทุกคนก็ตามไปด้วยกัน พอคลาดกันแล้วทำไมถึงมาด่าฉันคนเดียวล่ะ”
ผีดวงซวยถึงกับงง กวดผีร้ายตัวอื่นๆ ถามอยู่ข้างหลัง
ผีหลายใจกับผีขี้ขลาดกำลังโมโหกระฟัดกระเฟียด ไม่มีใครตอบเขา
ผีขี้ขลาดถอนหายใจ บนในหน้าเผยให้เห็นการตำหนิตนเองอยู่เล็กน้อย “ซู่เป่าเชื่อใจพวกเราขนาดนั้น แต่พวกเรากลับทำให้เธอผิดหวัง”
ผีหลายใจเองก็ไม่สบายใจเช่นกัน “จนปัญญา ผู้ชายเสร็จเร็วหัวล้านนี่มีความสามารถ นายดูเขาเมื่อกี้สิ เดาว่าถูกพวกผีร้ายอย่างเราตามไปก็น่าจะตื่นกลัวอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ยังฝืนขวางเราเอาไว้”
ผีดวงซวย “แล้วเดี๋ยวจะไปอธิบายกับซู่เป่ายังไง”
ผีหลายใจกับผีขี้ขลาดทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
พวกเขาเองก็ไม่อยากออกแรงพยายาม
แต่เจ้าเด็กน้อยน่ารักเรียกพวกเขาว่าพี่ชาย พี่สาว
แถมยังเชื่อมันในตัวพวกเขาขนาดนั้น ถึงขั้นปล่อยพวกเขาออกมาเลย โดยไม่กลัวว่าพวกเขาจะฉวยโอกาสหนีไปเลยแม้แต่น้อย
ผีทึ่มกวาดตามองทีหนี่ง จากนั้นกดเสียงแล้วพูดขึ้นว่า “พี่ๆ โอกาสที่ดีขนาดนี้ หรือว่าพวกเราจะไม่หนีกันเหรอ”
ผีหลายใจมองเขาอย่างหมดคำพูดทีหนึ่ง “นายหนีไปเถอะ ต่อไปอย่านึกเสียใจก็แล้วกัน”
ผีดวงซวยหัวเราะเยาะ “สมแล้วที่เป็นผีทึ่ม”
ผีขี้ขลาดพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันหนีไปไม่ได้ ไม่รู้ว่ากลับไปซู่เป่ายังจะให้อมยิ้มกับพวกเราอยู่อีกไหม”
ใบหน้าของผีทึ่มเต็มไปด้วยการดูถูก
“ดูท่าทางไร้ค่าของพวกนายสิ! แค่อมยิ้มไม่กี่อันก็ซื้อตัวพวกนายได้แล้ว ศักดิ์ศรีล่ะ”
ผีหลายใจลอยขึ้นมา แล้วพูดพึมพำๆ “ฉันเป็นผีไม่ได้เป็นคนสักหน่อย ยังจะหยิ่งในศักดิ์ศรีอะไรอีก”
ผีขี้ขลาดพูดเตือนอย่างมีเจตนาดี “ลองคิดดูดีๆ สิ ซู่เป่าเป็นคนธรรมดาเหรอ โอกาสไม่ได้มีบ่อยๆ หรอกนะ”
อยู่ในน้ำเต้าวิญญาณมานานขนาดนั้น ยังไม่รู้สถานการณ์แน่ชัดอีกเหรอ
แม้จะไม่สามารถยืนยันตัวตนสุดท้ายของซู่เป่าได้ แต่ทุกคนต่างก็พอรู้สึกได้อยู่บ้าง ตามซู่เป่าย่อมดีกว่าเป็นเพียงผีร้ายที่ทำร้ายคนตนหนึ่งอย่างแน่นอน
อนาคตไม่เหมือนกัน...
ผีขี้ขลาดถามพอเป็นพิธี พูดจบก็ไปเลย
ผีทึ่มตามอยู่ข้างหลังอย่างอืดอาดยืดยาด พึมๆ พำๆ “โอกาสอะไรกัน ก็แค่นักพรตที่เก่งกาจนิดหน่อยแค่นั้น...มีโอกาสอะไร...”
ซูเยว่เฟยถือโทรศัพท์อย่างเหม่อลอย
ไกลๆ ซู่เป่ากำลังยืนอยู่หน้าม้าหมุน ตะเวนเที่ยวพูดโน้มน้าวซูเหอเหวิน “พี่ใหญ่ พี่ไม่เล่นใช่ไหม!”
เธอหยิบเงินน้อยๆ ส่งให้พนักงานขายตั๋วพลางพูดยืนยันอย่างไม่วางใจ “งั้นหนูไม่ซื้อตั๋วของพี่นะ!”
ซูเหอเหวิน “...”
ก่อนเข้าบ้านผีสิง ไม่เล่น ยังไงก็ไม่เล่นเด็ดขาด เครื่องเล่นหน่อมแน้มของเด็กผู้หญิงประเภทนี้ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีทางเล่น
ตอนนี้ รู้สึกว่านี่ต่างหากถึงจะเป็นสิ่งที่เด็กผู้ชายควรเล่น...
ซูเหอเหวินกระแอมเสียงหนึ่ง ใบหน้าน้อยๆ ทำทีท่าเท่ๆ “เธอไม่ต้องซื้อ เดี๋ยวฉันซื้อเอง”
เขาชักกระเป๋าสตางค์ในมือซู่เป่ากลับมา จากนั้นก็ยัดเข้าไปในอ้อมแขนเธอ แล้วยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา “สี่ใบครับ”
ซู่เป่า หานหาน ซูเหอเวิ่น “??”
เขาไม่เล่นไม่ใช่เหรอ
สีหน้าของซูเหอเหวินยังคงเดิม “ฉันซื้อให้อาสามน่ะ”
อาสามเป็นผู้ใหญ่แล้ว คงไม่มีทางเล่นหรอก
รออาสามปฏิเสธ เขาก็จะถือโอกาสว่าไหนๆ ก็ซื้อตั๋วมาแล้วเลยต้องฝืนใจเล่น...
เสี่ยวเหอเหวินจอมยโส ฉลาดหาวิธีร้อยแปดพันเก้า
ซู่เป่าร้องอ๋อเสียงหนึ่ง ซูเยว่เฟยคุยสายเสร็จกลับมาพอดี เธอจึงพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “ลุงสามคะ เราไปเล่นม้าหมุนด้วยกันเถอะค่ะ! พี่ใหญ่ซื้อตั๋วไว้แล้ว!”
ซูเยว่เฟยกลับไปเป็นลุงสามที่อ่อนโยนและสง่างามอีกครั้ง เขาพยักหน้า “ได้สิ”
การเผชิญหน้าเมื่อครู่เหมือนฝันเกินไป ขายังคงปาสิ่งของเพื่อทำใจให้สงบต่อ...
ดังนั้นลุงสามจึงอุ้มซู่เป่าขึ้นมา แล้วไปนั่งบนม้าหมุนตัวที่ใหญ่ที่สุด ซูเหอเวิ่นกับหานหานคนหนึ่งนั่งตัวข้างๆ คนหนึ่งนั่งตัวด้านหลัง
เสียงเพลงดังขึ้นตามการหมุนของม้าหมุน ไม่นานก็มีเสียงหัวเราะอันแสนมีความสุขของซู่เป่าแว่วมา ในใจของซูเยว่เฟยก็ค่อยๆ ผ่อนคลายลง ใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย ใบหน้าของซูเหอเวิ่นกับหานหานเองก็เต็มไปด้วยความสุขเช่นกัน
ซูเหอเหวินที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่ “...”
เขาแอบซื้ออีกสักใบดีไหม
ทำไมไม่เป็นไปตามที่เขาคิดเอาไว้นะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...