ซู่เป่าเขย่งเท้าและอยากดู
แต่มองไม่เห็น
เธอถามว่า “เป็นไปได้ไหมคะว่าเขาย้ายร่างแล้ว”
จี้ฉางส่ายหน้า “ถ้าหากเฉินชางอวี๋เปลี่ยนร่างแล้ว สามารถมองออกว่ารหัสชีวิตของเขาหรือรหัสชีวิตของคนที่ถูกเปลี่ยนเกิดความผิดปกติ”
หมายความว่าเฉินชางอวี๋ก็คือเฉินชางอวี๋ ไม่ได้มีการย้ายร่าง
ในเวลานี้เองมู่กุยฝานก็กลับมา
พ่อมู่ไม่มีความฮึกเหิมและทะนงตัวตอนกลับมาเหมือนเมื่อก่อน แต่ท่าทางซื่อๆ และเหมือนเด็กที่เชื่อฟัง
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณพ่อ” ซู่เป่าไม่เคยเห็นพ่อที่ท่าทางซื่อๆ แบบนี้
ถูกผีสิงเหรอ
เธอรีบวิ่งเข้าไปหา
นักพรตมู่เม้มปากและคุกเข่าลงต่อหน้าซู่เป่าพร้อมพูดว่า “เฉินชางอวี๋หนีไปแล้ว พ่อจับเขาไม่ได้”
ซู่เป่าถอนหายใจด้วยความโล่งออก เรื่องนี้นี่เอง
“ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ ครั้งนี้จับไม่ได้ แต่ครั้งหน้าต้องจับได้แน่ค่ะ” ซู่เป่ากอดพ่อและมือน้อยๆ ตบที่ไหล่กว้างหนาของเขาเบาๆ
เมื่อมู่กุยฝานรู้สึกถึงมือเล็กๆ นุ่มๆ ของซู่เป่าที่ตบตัวเองและมองใบหน้าน้อยๆ ที่จริงจังของเธออีกครั้ง ในใจของเขาก็อบอุ่นทันที
ว่ากันว่าลูกสาวคือแก้วตาดวงใจ มันดีมากตอนที่แก้วตาดวงใจของเขาไม่ทำนิสัยรั่ว...
ไม่สิ ตอนทำนิสัยรั่วก็ดีเหมือนกัน รั่วเพื่อให้เขาอารมณ์ดี...
ในใจของนักพรตมู่อ่อนโยนลงมาก เขาอุ้มซู่เป่าขึ้นพลางถามว่า “เมื่อกี้หนูกำลังคุยอะไรอยู่เหรอ”
ซู่เป่าพูดว่า “ท่านอาจารย์กลับมาแล้วค่ะ เมื่อกี้พวกเรากำลังคุย...”
เธอเล่าเรื่องที่คุยกับอาจารย์อีกรอบอย่างละเอียดยิบ เธอขมวดคิ้วน้อยๆ และเลียนแบบท่าทางของพ่อในการวิเคราะห์ แต่ก็วิเคราะห์ไม่สมเหตุสมผล
มู่กุยฝานจุดประกายความคิดในทันทีและนึกถึงหม่าหลินคามิลลี่ทันที
เขาวางซู่เป่าลง จากนั้นหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาแล้วเขียนชื่อสองสามชื่อลงในกระดาษ
“วิเคราะห์ง่ายมาก” มู่กุยฝานเขียนชื่อชายหัวล้าน เฉินชางอวี๋ หม่าหลินคามิลลี่ลงในกระดาษ จากนั้นลากเส้นเชื่อมเป็นวงกลมและเขียนเครื่องหมายคำถามในวงกลม
“วงกลมนี้แสดงถึงบุคคลลึกลับที่อาจมีอยู่”
“เห็นได้ชัดว่าชายหัวล้านและเฉินชางอวี๋มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน สามารถรู้ได้จากการที่เฉินชางอวี๋มอบผีชุดแต่งงานแดงให้ชายหัวล้าน สองคนนี้อาจมีความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์หรือเจ้านายกับคนรับใช้และอาจเป็นไปได้ว่าเป็นเจ้านายกับลูกน้อง แต่พ่อคิดว่าอาจเป็นความสัมพันธ์กึ่งอาจารย์กับลูกศิษย์และกึ่งเจ้านายกับคนรับใช้”
เรื่องนี้สามารถเดาได้จากปฏิกิริยาของชายหัวล้านหลังจากที่เขาถูกจับได้
ถ้าเป็นความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ ท่าทางและการแสดงออกต่อการจะซัดทอดถึงอาจารย์หรือไม่จะแตกต่างหลังจากลูกศิษย์ถูกจับและความสัมพันธ์ระหว่างเจ้านายกับคนรับใช้ก็เป็นการแสดงออกอีกแบบหนึ่ง
พูดสั้นๆ ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างชายหัวล้านกับเฉินชางอวี๋สามารถดาดเดาได้จากการแสดงออกของชายหัวล้าน มันง่ายมาก
ซู่เป่าฟังอย่างตั้งใจและความคิดในหัวก็โลดแล่นอย่างรวดเร็ว
ความสามารถในการเรียนรู้ของเธอสูงมาก แต่ตอนนี้เธอยังเด็กและไม่มีความรู้ แต่การคิดเชิงตรรกะเหล่านี้จะฝังลึกอยู่ในสมองของเธอและกลายเป็นหนึ่งในรากฐานที่แข็งแกร่งของเธอในอนาคต
มู่กุยฝานพูดต่อว่า “ต่อมาคือหม่าหลินคามิลลี่ ยันต์เสน่ห์ที่อยู่ในมือเธอน่าจะขอมาจากเฉินชางอวี๋ พ่อให้คนสะกดรอยตาม... ไม่ใช่สิ คือให้คนคอยสังเกตุหม่าหลินคามิลลี่ เธอไม่มีพฤติกรรมผิดปกติและไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับยันต์”
ซู่เป่า “อืมๆๆ”
พ่อเคยพูดเรื่องนี้เมื่อวานซู่เป่าจึงเข้าใจในทันที
มู่กุยฝานสรุปว่า “ดังนั้นในเมื่อเฉินชางอวี๋ไม่เคยย้ายร่างจึงเป็นไปได้ว่าเขาช่วยคนอื่นย้ายร่าง อาจเป็นไปได้ว่ามีบุคคลลึกลับจ่ายเงินมูลค่าสูงเพื่อให้เฉินชางอวี๋เต็มใจยอมทำงานให้เขา”
บางทีอาจไม่ใช่แค่เงิน แต่ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่เฉินชางอวี๋ไม่สามารถปฏิเสธได้ อย่างเช่น เฉินชางอวี๋อาจกำลังศึกษาค้นคว้าการย้ายร่างและตอนนี้มีคนเป็นหนูทดลองให้เขา”
“ช่วงนี้เฉินชางอวี๋คอยตระเวนไปทั่วหมิ่นหนาน อาจเป็นไปได้มากว่ากำลังหาคนที่เหมาะสม”
“อาจารย์ของหนูเคยบอกว่าปรมาจารย์นักพรตสามารถถอดวิญญาณไปยมโลกได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ดังนั้นเฉินชางอวี๋น่าจะไปขวางทางที่นรกในวันที่ซูจื่อซีผ่าตัดพอดี”
ทันใดนั้นหมอกทั้งหมดก็จางหายไปทันที จี้ฉางแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าหลังจากที่ได้ฟังการวิเคราะห์ของมู่กุยฝานจะรู้สึกว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องง่ายมากจริงๆ
แต่เมื่อสักครู่เขาไม่ได้คิดถึงขั้นนี้จริงๆ...
ยังไงกู้เสี่ยวปาก็อายุเพียงหกขวบกว่า กู้ชีชีอยากเรียกคุณป้าที่บ้านเก่ามา แต่กู้เสี่ยวปาก็ปฏิเสธอีก
“เมื่อก่อนฉันไม่สนใจความคิดเห็นของเธอเลยขอให้คุณป้ามาดูแลเธอ แต่เธอกลับดื้อกว่าและไม่กลับบ้านสองวัน”
น้ำเสียงของกู้ชีชีจนใจ “ดังนั้นตอนฉันไม่อยู่บ้านฉันจะคอยดูเธอผ่านกล้องวงจรปิดตลอด ส่วนใหญ่เธอสามารถดูแลตัวเองได้ดี แต่วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเห็นเธอฟุบอยู่บนโซฟาตั้งนานแล้วและโทรไปก็ไม่สาย ฉันเห็นเธอไม่ชัด...”
“ฉันโทรหาผู้ดูแลของนิติ แต่ผู้ดูแลไม่มีกุญแจและช่างสะเดาะกุญแจที่ติดต่อก็ต้องใช้เวลากว่าจะไปถึง...”
ตามตรรกะปกติกู้ชีชีไม่ควรโทรหาซู่เป่าเพราะซู่เป่าเป็นแค่เด็ก
ถึงแย่แค่ไหนก็โทรหาพ่อบ้านที่บ้านเก่าก็ได้เพราะพ่อบ้านมีกุญแจ
แต่ลึกๆ เธอรู้สึกว่าควรโทรหาซู่เป่า ดังนั้นเธอจึงโทรโดยไม่คิดมากอะไร
การโทรด้วยสมาร์ทวอทช์จะมีเสียงดังออกมาข้างนอก ในระหว่างที่กู้ชีชีกำลังอธิบายเหตุการณ์อยู่ มู่กุยฝานก็ได้ขับออกมาและซู่เป่าก็รีบออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว พร้อมบอกคุณยายว่าจะไปหากู้เสี่ยวปาแล้วขึ้นรถไป
นายหญิงซูสวมผ้ากันเปื้อนพลางวิ่งตามและจ้องรถออฟโรดที่วิ่งเร็วราวกับม้าที่หลุดจากสายบังเหียน จากนั้นตะโกนอย่างเปล่าประโยชน์ว่า “ขับช้าๆ”
ปกติมู่กุยฝานก็ขับรถอย่างป่าเถื่อน ตอนนี้ยิ่งเหมือนจะบินขึ้นฟ้าให้ได้และบึ่งรถไปชุมชนที่กู้ชีชีบอก
ตอนที่สองพ่อลูกมาถึง ช่างสะเดาะกุญแจก็เพิ่งมาถึงพอดี
เมื่อเห็นช่างถือเครื่องมือสะเดาะกุญแจอย่างเก้ๆ กังๆ มู่กุยฝานจึงพูดว่า “หลบไป เดี๋ยวผมเอง”
ช่างสะเดาะกุญแจหลีกทางให้จากสัญชาตญาณและนิติก็ถามว่า “เอ่อ คุณมีกุญแจบ้านของคุณหนูกู้เหรอคะ”
มู่กุยฝานจับลูกบิดประตูและมีเสียงดังค๊อกแค๊ก จากนั้นกลอนประตูก็พังทันที
เขาพูด “เปล่า ปกติผมใช้มือเปล่าเปิดประตู”
ช่างสะเดาะกุญแจ “...”
ซู่เป่า ทำตามเป็นแล้ว มือเปล่าเปิดประตู
ซู่เป่ารีบวิ่งเข้าไปทันทีหลังจากเปิดประตู เธอตกใจจนถลึงตาโตเมื่อเห็นภาพบนโซฟา...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...