ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 408

และในวันเสาร์ มู่กุยฝานก็ได้ข่าวว่าเฉินชางอวี๋ยอมสารภาพแล้ว จึงได้พาซู่เป่ากลับไปที่บ้านตระกูลมู่ด้วย

ถึงแม้ซู่เป่าจะเป็นคุณหนูใหญ่ในบ้านตระกูลมู่ แต่ก็ไม่ค่อยได้กลับมาเลย...

คนส่วนใหญ่ยังจำซู่เป่าได้ มีผู้ชายวัยกลางคนได้ห้อมล้อมอยู่รอบๆข้างตัวซู่เป่า บางคนบอกว่าจะสอนเธอชกมวย บางคนก็บอกว่าจะสอนเธอยิงปืน...บรรยากาศคึกคักอย่างมาก

ทันใดนั้นว่านปาสือก็วิ่งเข้ามาอย่างกะทันหัน และได้คุกเข่าข้างเดียวพร้อมกับดวงตาสองข้างที่แดงก่ำ “นายท่าน…!”

มู่กุยฝานรู้สึกแปลกใจ ว่านปาสือเป็นคนที่ทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่ใช่คำสั่งของเขา ก็คงไม่มีทางออกห่างจากเฉินชางอวี๋อย่างเด็ดขาด และวิ่งมาตัวคนเดียวแบบนี้

เฉินชางอวี๋คงจะหลบหนีไปแล้วแน่ๆ

มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าที่กำลังกินสตรอเบอรี่แห้งขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

ซู่เป่า “??”

มู่กุยฝานถามขึ้นว่า “มันหนีไปได้ยังไง?”

นัยน์ตาสองดวงแดงจนคล้ายจะมีเลือดไหลออกมา พร้อมกับเม้มปากตอบว่า “กระผมเฝ้าดูเขามาสามคืนสามวันแล้ว แต่เมื่อกระผมได้ยินว่านายท่านกับคุณหนูใหญ่จะกลับมา... ”

“คุณหนูใหญ่อ่อนโยนล้ำค่า ไม่ควรที่จะไปเหยียบห้องใต้ดินให้มัวหมอง กระผมจึงได้เอาตัวเฉินชางอวี๋ไปเก็บไว้ที่ห้องคุมขัง”

ไม่ได้นอนมาสามวัน แม้จะมีกำลังแข็งแกร่งเพียงใด ก็สามารถเกิดปัญหาขึ้นมาได้

เพราะคำว่าประมาทเลินเล่อ จึงทำให้เฉินชางอวี๋หนีออกไปแล้ว

“แต่ขอให้นายท่านวางใจได้!ทั้งภูเขาแห่งนี้ได้ถูกปิดล้อมไว้แล้ว!เขาไม่มีทางที่จะหลบหนีออกไปได้”

มู่กุยฝานขมวดคิ้วและถามขึ้นมาอย่างฉับพลัน “นายไม่ได้นอนหลับมากี่วันแล้วนะ?”

มู่กุยฝานตอบไปตรงๆว่า “สามวัน…”

มู่กุยฝานหมดคำที่จะพูด

ในโลกนี้ทำไมถึงได้มีคนที่หัวทึบแบบนี้ แค่พูดว่าอย่าให้เฉินชางอวี๋ออกห่างจากสายตาแม้แต่นิดเดียว เขาถึงได้ไม่หลับไม่นอนเลย

ซู่เป่ามองดูว่านปาสือ จากนั้นก็ถอนหายใจใหญ่เฮือกหนึ่งเลียนแบบผู้ใหญ่ “เฮ้อ...ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว!อาปาสือรีบไปนอนหลับก่อนเถอะ!”

ว่านปาสือมองดูมู่กุยฝาน

มู่กุยฝานพูดขึ้นว่า “ต่อไปนายต้องเชื่อฟังคำสั่งของคุณหนูใหญ่ เธอพูดอะไรนายก็ต้องทำตามทุกอย่าง”

ว่านปาสือพูดตอบกลับมาว่าได้ครับ ในใจก็กลัวว่านายท่านจะไล่เขาออกไป จึงพูดขึ้นอย่างเร่งรีบว่า “นายท่าน เฉินชางอวี๋วิ่งไปที่ป่าไม้ด้านหลัง ตอนนี้ผมได้ปิดล้อมป่าตรงนั้นเอาไว้แล้ว”

มู่กุยฝานพยักหน้า มีคนกลุ่มหนึ่งมาถึงที่ป่าด้านหลัง

และได้ปิดล้อมทั่วป่าเอาไว้สองชั้นอย่างแน่นหนา

ว่านเทาวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า “นายท่าน คนๆนี้ต้องใช้เวทย์มนตร์ร้ายแน่ๆ... ”

พวกเขาคุ้นเคยกับป่าหลังวิลล่าอย่างมาก ตอนที่ทำการฝึกฝนการใช้ชีวิตอยู่ในป่า ก็ได้มาซ้อมที่ป่าแห่งนี้อยู่บ่อยๆ

แต่เมื่อกี้ตอนที่พวกเขาเข้าไป กลับหลงทางอยู่ในนั้น “

จี้ฉางมองดูต้นไม้ในป่า พร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น “ค่ายกลเก้าวังแปดทิศของขงเบ้ง?ซู่เป่า แก้ให้แตก!”

ซู่เป่าชูสตรอเบอรี่แห้งไว้ในมือ และพูดด้วยน้ำเสียงดุดันฉบับเด็กน้อย “แก้ให้แตก!ฮู้!”

ระหว่างที่พูดไปก็ได้อ้าปากและกินสตรอเบอรี่แห้งเข้าไปด้วย

จี้ฉาง “…”

มู่กุยฝาน “…”

เฉินชางอวี๋ซ่อนตัวอยู่ในป่า ด้วยใบหน้าที่ดูโหดเหี้ยม

แม้สิ่งที่เขาฝึกมาจะร้ายกาจเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าที่จะโต้ตอบกับปืนและกระสุนจริง

และในเวลานี้ เขามองเห็นมู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าเดินเข้ามาในป่า

เฉินชางอวี๋อึ้งไปชั่วครู่

แค่สองคนเหรอ ยังมีเด็กน้อยอีกคนหนึ่ง พวกเขายังกล้าเดินเข้ามา?!

ดูถูกศัตรูมากเกินไปแล้ว!

เฉินชางอวี๋พูดพึมพำว่า ‘โอกาสมาแล้ว’ กระโดดออกมาอย่างว่องไว และเคลื่อนที่ไปมาอย่างรวดเร็ว

“เฮอะๆๆๆ...พวกแกมาแล้ว!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

ซู่เป่าเกาะอยู่ที่หัวไหล่ของพ่อ ได้ยินเสียงหนึ่งดังมาจากทางด้านซ้าย จึงหันหน้าไปมอง——แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย?

ขณะที่กำลังคิดอยู่ เสียงนั้นก็ได้เปลี่ยนทิศทางไปอีกด้าน รอบนี้ดังขึ้นมาจากด้านขวา “พวกแกเป็นใครกันแน่...ทำไมต้องมาหาเรื่องฉันด้วย!”

มู่กุยฝานหรี่ตาลงและหันหลังไปอย่างกะทันหัน แต่ด้านหลังก็ไม่เห็นมีอะไรสักอย่าง

เธอดิ้นไปมาเพื่อจะออกมาจากอ้อมแขนของมู่กุยฝาน ในจังหวะที่พ่อก้มตัวลงมา จึงได้ลูบหัวพ่อเบาๆเหมือนคุณครูที่ปลอบใจเด็กอนุบาล “ไม่เป็นไรนะพ่อ ทุกคนก็หาไม่เจอเหมือนกัน มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว”

มู่กุยฝานรู้สึกอบอุ่นใจลึกๆ ลูกสาวตัวน้อยของเขาปลอบใจเก่งที่สุดเลย!

บังเอิญเฉินชางอวี๋ได้เปลี่ยนทิศทางพอดี ในป่าเต็มไปด้วยเสียงของเขา “อย่าเสียแรงอีกเลย พวกแกไม่มีวันหาฉันเจอหรอก พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีกว่า... ”

พูดยังไม่ทันจบประโยค

ซู่เป่าก็ได้หยิบก้อนหินขึ้นมาจากพื้นหนึ่งกำมือ จากนั้นก็ใช้มือโยนไปอย่างสุดแรง!

“อ๊าก——!!”

ในป่ามีเสียงร้องโอดครวญดังขึ้นมา!

ต่อจากนั้น มีสิ่งของหนึ่งอย่างตกลงสู่พื้น และเกิดเสียงครึกโครมดังขึ้นมา

มู่กุยฝาน “…”

ขอบใจนะ เหมือนยังไม่ได้รับการปลอบใจ

ก้อนหินได้โยนถูกสันจมูกของเฉินชางอวี๋อย่างแม่นยำ จนมีเลือดสาดเต็มใบหน้า เขาล้มอยู่บนพื้นอย่างตระหนกตกใจ

เป็นไปไม่ได้!

เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!

เด็กน้อยตัวคนเดียว ทำไมถึงสามารถหาเขาเจอได้ และยังโยนก้อนหินได้แม่นยำอีก!?

ต้องเป็นเพราะความโชคดี!

เฉินชางอวี๋ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน ก่อนที่มู่กุยฝานจะมาถึง จึงได้หายแวบเข้าไปในป่า

ซู่เป่ามองไปรอบๆ และได้เก็บก้อนหินขึ้นมาอีกหนึ่งก้อน “ออกมาสิ ไม่เช่นนั้นฉันจะโยนให้ฟันหน้าของแกหลุดกระเด็นไปเลย!”

เฉินชางอวี๋ปิดจมูกหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เจ้าตัวเล็ก…!เหอะ...แค่บังเอิญโชคช่วยก็นึกว่าตัวเองเก่งมากหรือไง?”

ซู่เป่าชูก้อนหินในมือขึ้นมา...

ฝั่งตรงข้ามไม่เชื่อ

เธอจึงต้องโยนอีกหนึ่งครั้ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน