ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 411

เขตหมู่บ้านคนรวยในเมืองจิงแบ่งเป็นสี่เขต เขตบ้านตระกูลผู้ดีเก่าจะค่อนข้างปลีกวิเวกเงียบสงบอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ละแวกนี้ดีทั้งทิวทัศน์และสภาพแวดล้อม คฤหาสน์ตระกูลซูก็อยู่ในเขตนี้

ทางทิศตะวันตกจะเป็น “คฤหาสน์” อีกแบบหนึ่ง เช่นบ้านตระกูลซือของซืออี้หรัน บ้านพักทหารของมู่กุยฝานก็อยู่ในเขตนี้ แน่นอนว่าคฤหาสน์ตระกูลมู่ที่มู่กุยฝานอยู่ประจำอยู่ในอีกทิศหนึ่ง เขาจะมาอยู่ที่นี่น้อยมาก

ที่เหลือก็คือเขตอวี้หลงวานที่รวยมาก ๆ ๆ ๆ แต่ไม่ใช่ตระกูลผู้ดีเก่า แล้วก็ชิงซานฮัวหยวนที่ขึ้นชื่อเรื่องรวยกระทันหันแล้วก็ชอบแจกเงิน

ชิงซานฮัวหยวนฟังดูธรรมดา ๆ แต่บ้านของเศรษฐีเสเพลที่ขึ้นชื่อตั้งอยู่ในอีกด้านหนึ่งของชิงซานฮัวหยวน ชุมชนนี้มีพื้นที่ครอบคลุมมากกว่าสวนชิงซานฮัวหยวนอีก

รถที่ขับไปทางทิศนี้ส่วนใหญ่เป็นรถหรูอย่างมาเซราติ บูกาติ เฟอร์รารี รถพวกนั้นขับผ่านไปเสียงดังสนั่น ไม่สนใจกฎหมายจํากัดความเร็ว ถ้าถูกปรับคันหนึ่งแล้วก็เปลี่ยนไปขับอีกคันหนึ่ง เรื่องหักคะแนนใบขับขี่หรืออะไรยิ่งต้องไม่กลัวเลย

รถของมู่กุยฝานขับเข้ามาในเขตนี้ มาเซราติคันหนึ่งวิ่งผ่านรถของเขาไป ไม่เพียงแต่แซงเท่านั้น เพลย์บอยที่อยู่บนรถเปิดประทุนยังผิวปากและชูนิ้วกลางรถออฟโรดของมู่กุยฝานอีก

ซู่เป่าเกาะขอบหน้าต่างรถ เอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็นว่า "พ่อคะ เขาชูนิ้วนี้หมายความว่าอะไรคะ?"

เจ้าตัวเล็กชูนิ้วกลางใส่พ่อตัวเองอย่างไร้เดียงสา

มู่กุยฝาน: "..."

เขามองไปที่มาเซราติข้างหน้าด้วยสายตาเย็นชาและพูดว่า "มันเป็นความหมายไม่ดี เด็กผู้หญิงอย่าทําท่านี้ มันหยาบคาย"

ซู่เป่ารีบเก็บนิ้วกลับไปทันทีและพยักหน้าอย่างว่าง่าย "ค่ะ..."

มู่กุยฝานวางมือบนคันเกียร์ พูดเสียงทุ้มว่า "เด็กดี นั่งให้ดีนะลูก"

ซู่เป่าเอาหลังแนบชิดติดที่นั่งนิรภัยของเธอทันที กู้เสี่ยวปาที่ตามมาอย่าง "ไม่เต็มใจ" ยังไม่ทันรู้ตัวใบหน้าก็ไปแปะเข้ากับหน้าต่างกระจกอีกครั้ง

เสี่ยวอู่ที่ในกระเป๋าสัตว์เลี้ยง: "รู้สึกเหมือนบินอยู่เลย!!! อู้ว ~"

กู้เสี่ยวปา: "..."

กู้เสี่ยวปาตัวค่อนข้างสูง เธอนั่งอยู่บนที่นั่งนิรภัยที่ติดตั้งขึ้นมาชั่วคราว ตัวเธอสูงกว่าที่นั่งมากเลยทำให้ไปแนบหน้าต่างได้ง่ายเป็นพิเศษ

ซู่เป่าหัวเราะอิ ๆ "พี่เสี่ยวปา เดี๋ยวพอพ่อของหนูเร่งเครื่อง พี่ต้องอย่างลืมเอนตัวไปข้างหลังนะ!"

"ดูแบบหนูสิ แนบติดชิดเบาะนิรภัยอย่างแนบแน่น นี่~เหวี่ยงยังไงก็ไม่หลุด!"

กู้เสี่ยวปา: "..."

เธอถอนหายใจแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างและพูดว่า "ฉันไม่กลัวสักหน่อย"

ปากพูดไปแบบนั้น แต่มือกลับแอบจับเบาะนิรภัยไว้แน่น

ซู่เป่าดูออกแต่ไม่พูดออกมา

เสี่ยวอู่กลับปากพล่อย “เธอกลัวใช่ไหมล่ะ กลัวก็บอกมาสิ เธอกลัวแต่เธอไม่ยอมพูด แล้วฉันจะรู้ได้ไงล่ะ? การกลัวไม่น่าอายหรอก มาสิ พูดตามฉันอย่างกล้าหาญว่า โอ้ ฉันกะ… กลัวมากจริง ๆ”

กู้เสี่ยวปา: "..."

อยู่ดีๆ ก็เกิดอยากลองชิมว่าเนื้อนกแก้วรสชาติเป็นยังไง (ยิ้ม)

ในระหว่างที่พูดกันอยู่ รถออฟโรดของมู่กุยฝานก็กําลังขับไปทางชิงซานฮัวหยวน ในรถมีเด็กสองคน มู่กุยฝานจึงไม่ได้สนใจจะวัดกับมาเซราติคันนั้น

แต่เมื่อรถเขากําลังจะแซงมาเซราติคันนั้น มาเซราติก็เปลี่ยนเลนกระทันทันหันมาขวางลำอยู่หน้ารถมู่กุยฝาน

มู่กุยฝานหรี่ตา คนที่ไม่กลัวตายแบบนี้คนก่อนได้ตายไปแล้ว คนโง่เขลามักจะกล้าหาญจริง ๆ ด้วยสินะ

เขาไม่ได้สนใจรถหรูมากนัก รถออฟโรดคันนี้ก็เป็นรถที่ผลิตในประเทศ บวกกับที่เขาแต่งเพิ่มเอง อย่างมากก็แค่หนึ่งล้านต้น ๆ

มาเซราติคันละหลายสิบล้าน คิดว่าคงจะดูถูกรถของเขาที่ราคาไม่ถึงล้าน

พวกคุณชายเพลบอยที่ตามมาอยู่รอบ ๆ ต่างก็โห่ร้อง ผิวปาก ส่งเสียงหัวเราะกันเป็นแถว

เจ้าของมาเซราติค่อย ๆ ได้สติกลับมาและในไม่ช้าก็โดนความอับอายเข้าครอบงำ รถหรูราคาหลักสิบล้านของเขาถูกรถราคาไม่ถึงล้านเกี่ยวประตูกระเด็น!

เขากัดฟันและดูมาเซราติที่พังยับเยินของเขา

พังแล้ว!

เขาขาดทุนยับ แถมเรียกร้องค่าเสียหายไม่ได้ด้วย

คุณชายเพลย์บอยโทรเรียกรถอีกคันมา เขารู้สึกหงุดหงิดตลอดเวลาตั้งแต่ขึ้นรถมา แล้วเขาก็เห็นสุนัขสองตัวกําลังข้ามถนนจากระยะไกล ๆ เขาไม่เพียงแต่ไม่ชะลอความเร็ว แต่กลับเหยียบคันเร่งพุ่งชนสุนัขตัวหนึ่งอย่างแรง

สุนัขเคราะห์ร้ายกระเด็นไปข้างทาง มันตายคาที่

สุนัขอีกตัวหนึ่งตกใจมาก แต่ไม่นานก็ได้สติ มันรีบวิ่งไปหาเพื่อนที่ถูกชนตาย มันคร่ำครวญอย่างร้อนใจแต่ก็ทําอะไรไม่ได้

คุณชายเพลย์บอยมองดูสุนัขที่ถูกชนตายและสุนัขอีกตัวหนึ่งร้อนใจวิ่งวนอยู่กับที่อเนจอนาถอย่างไร้ค่าแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย เขาหัวเราะเยาะก่อนเหยียบคันเร่งจากไป

ในสายตาของเขา สุนัขก็เหมือนมดตัวเล็ก ๆ ที่เป็นที่ระบายอารมณ์เท่านั้น ยิ่งน่าสังเวชยิ่งทำให้เขามีความรู้สึกเหนือกว่า...

**

รถออฟโรดขับเข้าชิงซานฮัวหยวน พอจอดรถเรียบร้อย ซู่เป่าลงจากรถและมองไปรอบ ๆ ตัวรถด้วยความสงสัย

เมื่อกี้ตอนที่มู่กุยฝานขับก็รู้สึกแค่ว่าขับเร็วและเหวี่ยงไปมาสนุกดี แต่ระดับการเหวี่ยงแบบนี้อยู่ในขอบเขตความปลอดภัยที่เด็กยังรับได้ ดังนั้นซู่เป่าจึงไม่รู้ว่าเมื่อกี้มันดุเดือดแค่ไหน

แล้วดูที่รถออฟโรดแล้วก็ก็ไม่มีร่องรอยตามตัวรถแม้แต่น้อย เจ้าตัวน้อยก็สบายใจ

ไม่งั้นกลับไปต้องจะไม่ถูกยายแบะหัวด้วยมือเปล่าแน่…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน