ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 417

เสี่ยวอู่เอียงหัวและมองสุนัขข้างนอกผ่านแคปซูลอวกาศ จู่ ๆ มันก็คาบซิปแล้วรูดซิปเปิดออกมายืนจ้องมองสุนัขจรจัดอยู่บนกระเป๋าสัตว์เลี้ยง

ก็ไม่รู้ว่าสมองเล็กของมันกําลังคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาหมุนตัวเป็นวงกลมบนกระเป๋าสัตว์เลี้ยง

มู่กุยฝานเห็นเสี่ยวอู่ไม่ยอมพูดสักทีจึงบอกว่า “ส่งไปสถานสงเคราะห์สัตว์เถอะ”

หาสถานสงเคราะห์สุนัขและแมวจรจัดที่น่าเชื่อถือและทำงานจริงจัง แบบนี้เราก็สบายใจด้วย

สุนัขทั้งสองตัวน่าจะเป็นสุนัขจรจัด ขนของมันค่อนข้างสกปรกแถมผอมโซ

มองทะลุชั้นขนสกปรกของขนมันเข้าไปก็ยังพอมองเห็นลายบนตัวของพวกมันอยู่บ้าง มันเป็นสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ทั้งสองตัว แต่ไม่ใช่พันธุ์แท้ มีการผสมกับสายพันธุ์อื่น มองแวบแรกดูเหมือนสุนัขพื้นเมืองเล็กน้อย

แต่เจ้าสุนัขกลับถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง แววตาของมันโศกเศร้าและหวาดกลัว

มันไม่แน่ใจว่าสองคนที่อยู่ตรงหน้าจะทำเหมือนกับที่คนเมื่อกี้เพิ่งทําไปหรือเปล่า มาให้ความหวังมันแล้วก็จากไป

เหมือนกับเมื่อกี้ที่มันอยู่ตรงนี้มาตั้งนาน สายตาของคนเดินถนนหลายคนที่เดินผ่านไปมาหยุดมองมัน แต่ในที่สุดก็เดินจากไปอย่างเฉยเมย

แม้ว่าสุนัขจะไม่เข้าใจหลักการที่ว่า "ยิ่งมีความหวังมาก โอกาศผิดหวังก็ยิ่งมาก" แต่ความสิ้นหวังและมืดมนหลังจากถูกเจ้าของทอดทิ้งทําให้มันน้อยเนื้อต่ำใจจนไม่กล้าจะเรียกร้องอะไรมากไปกว่านี้

สุนัขคาบศพของเพื่อนและลากมันไปทางป่าหญ้าอย่างยากลําบาก แต่เพราะมันผอมเกินไปหลังจากลากไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ลากต่อไม่ไหว

กู้เสี่ยวปาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า "ช่างเถอะ เอามันไปด้วยดีกว่า"

เธอเบือนหน้าหนีหน้าทําหน้า 'รังเกียจ'

ซู่เป่าเห็นว่ากู้เสี่ยวปาก็คิดเหมือนกับเธอ เลยพูดอย่างมีความสุขว่า “ใช่ไหมล่ะ? พี่เสี่ยวปาก็คิดเหมือนหนูเลย! พวกเราใจตรงกัน!"

กู้เสี่ยวปา: "..." เชอะ

สีหน้าดูถูก แต่มุมปากกลับแอบยิ้มน้อย ๆ แต่ไม่นานก็กลับมาทำท่าทางเย็นชาเหมือนเดิม...

ซู่เป่าหันหน้ามาถามว่า "เสี่ยวอู่ แกคิดว่าไง?"

"คุณปู่เต่าล่ะว่าไง?"

ปู่เต่า: "..." ถึงอยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ได้อยู่แล้ว

มันยังไงก็ได้ ยิ่งข้างนอกคึกคักเท่าไหร่ ชีวิตของมันก็ยิ่งสงบมากขึ้นเท่านั้น

ดูสิ เจ้านกแก้วน่ารำคาญตัวนี้อยากจิกมันตั้งแต่ออกจากบ้านแล้ว แถมยังใช้หลังของมันลับปากอีก

ทันใดนั้นเสี่ยวอู่ก็บินไปเกาะที่หัวสุนัข เหยียบหัวมันแล้วส่ายหัวตัวเอง "เฮ้ เรียกพ่อสิ!"

มันเลียนแบบ "คาถา" ที่เพิ่งซู่เป่าใช้ได้เหมือนเปี๊ยบ แม้แต่เสียงก็ยังเหมือนซู่เป่าเลย

ทุกคน: "..."

สุนัขที่ใสซื่อและไร้เดียงสาตาสองข้างเบียดเข้าด้วยกันเล็กน้อย มันมองไปที่นกแก้วบนหัว จากนั้นก็หลุบตาลงมามองซู่เป่า

ทำท่าเหมือนยอมจำนน แล้วแต่จะรังแกมันยังก็ได้

ผู้ใหญ่ในร่างเด็กซู่เป่าถอนหายใจ "เฮ้อ ~ ไปเถอะ ๆ เดี๋ยวพาแกไปอาบน้ำก่อนแล้วกัน แล้วก็คงต้องลําบากคุณยายออกไปเป็นธุระให้"

คราวก่อนที่เจ้ากระดิ่งกลับมา ก็คุณยายนี่แหละพาไปอาบน้ำ

ซู่เป่าคิดแล้วคิดอีกว่าจะพาเจ้าสุนัขกลับไปก่อน ถ้ามันไม่ชอบอยู่บ้านตระกูลซู เธอค่อยปล่อยมันไปทีหลัง

แล้วก็จะทำคอกสุนัขไว้หน้าบ้านและเอาอาหารไปวางให้มันกินทุกวัน

ซู่เป่าที่ไร้เดียงสาคิดเพียงว่า อย่างไรเสียมันก็เป็นสัตว์ มันคงจะชอบโลกที่กว้างใหญ่มากกว่า การไปบังคับรับเลี้ยงมันก็คงไม่ดี

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว มู่กุยฝานก็ขับรถพาซู่เป่าและเจ้าสุนัขออกเดินทางไปยังร้านสัตว์เลี้ยง

ส่วนสุนัขอีกตัวที่ถูกชนตาย… มู่กุยฝานหยิบถุงห่อศพออกมาจากท้ายรถ

แล้วเอาสุนัขใส่เข้าไปข้างใน

เขาทำเอาจี้ฉางพูดไม่ออก คาดไม่ถึงว่าเขาจะพกถุงห่อศพติดกระโปรงหลังรถไว้ด้วย? คิดได้ไง คนคนนี้นี่...

**

อีกด้านหนึ่ง

ผู้ชายที่เพิ่งถ่ายคลิปเมื่อกี้กลับมาถึงที่พัก มันเป็นบ้านแบบเรียบง่าย สี่ห้องนอนและสองห้องนั่งเล่น พื้นที่ค่อนข้างกว้าง แต่ห้องนั่งเล่นกลับเหมือนห้องทํางาน ในนั้นมีโต๊ะวางอยู่หลายตัวและพนักงานหลายคนกําลังตัดต่อวิดีโออยู่

คนที่ท่าทางเหมือนผู้ช่วยคนหนึ่งกําลังเตรียมออกจากบ้านพร้อมกับสาวสวย เห็นผู้ชายคนนั้นกลับมาพอดีก็ถามว่า "เอ๊ะ บอสกลับมาแล้วเหรอ"

สิ่งแรกที่ผู้ชายคนนั้นทําคือไปล้างมือพลางพูดว่า “เมื่อกี้เพิ่งจับหมาจรจัดตัวหนึ่งมา สกปรกจะตาย”

รถก็เช็ดด้วยกระดาษทิชชู่เปียก แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าสกปรกอยู่ดี เลยใช้เจลล้างมือและน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดอีกรอบถึงจะรู้สึกว่าสะอาดแล้ว

"พวกคุณจะไปไหนกัน?" เขาถาม

สาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ ผู้ช่วยบอกว่า “บอสคะ เรากำลังจะออกไปถ่ายวีดิโอค่ะ”

ชายคนนั้นพยักหน้าพลางยื่นโทรศัพท์ให้พนักงานคนหนึ่งในห้องนั่งเล่นพลางพูดว่า "ไปเถอะ"

"แล้วเดี๋ยวเสี่ยวหวัง คุณตัดต่อวิดีโอนี้ด้วยนะ"

ถ้ามีเสียงสงสัยขึ้นมา ก็จะโดนด่าเหมือนหมา

หญิงสาวจึงกำเริบเสิบสาน เธอไม่มีข้อกังวลอื่นใดนอกจากกลัวสุนัขสกปรก

สุนัขจรจัดที่ถูกกรอกยาพิษวิ่งผ่านไปสองซอย และทันใดนั้นก็ล้มลงบนพื้นและน้ำลายฟูมปากบนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่าน

ผู้ช่วยโอดครวญและด่าเบา ๆ ว่า "ไอ้สัตว์เดรัจฉาน จะตายอยู่แล้วยังวิ่งไปได้อีกสองซอยอีก กะจะให้ฉันเหนื่อยตายหรือไง..."

เขารีบโทรศัพท์เรียกสาวสวยมา

สาวสวยมีรูปร่างหน้าเป็นทุนมาแต่กำเนิด หน้าตาดูบริสุทธิ์และจิตใจดีราวดอกไม้สีขาว

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะยอมปล่อยข้อเด่นนี้ไปเฉย ๆ ดังนั้นวิธีการของหญิงสาวจึงแตกต่างจากเจ้านายเล็กน้อย นั่นคือเธอจะเปิดเผยใบหน้า

วูล์ฟด็อกล้มลงบนพื้น มันเบิกตากว้างมองท้องฟ้าอย่างอ่อนแรง

เสียงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าสะท้อนในตาของมัน ทําให้ดวงตาที่มืดมนของมันเปล่งประกายเล็กน้อย

คนเดินถนนกําลังประหลาดใจหันกลับมามอง แต่ละคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน มีทั้งคนที่สีหน้าเห็นอกเห็นใจและรังเกียจ และก็มีคนที่ "ฉันอยากช่วยนะ แต่ทําอะไรไม่ได้…"

"เฮ้อ น่าสงสารจัง"

"ตรงนั้นมีร้านสัตว์เลี้ยงอยู่ร้านหนึ่ง ลองลากมันไปดูไหม"

"ช่างมันเถอะ... ก็แค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นเอง..."

มีแต่คนพูด แต่ไม่มีใครขยับ

ตอนนี้เองมีหญิงสาวหน้าตาน่ารักมัดผมหางม้าเดินเข้ามา พร้อมถือหยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายถุงของในมือ

"แถ่น แทน แท๊น วันนี้ฉันซื้อเนื้อวัวมาหนึ่งกิโล เดี๋ยวจะกลับไปไลฟ์สดวิธีทําเนื้อวัวโปร่งแสงนะคะ!"

"... เอ๊ะ? ทำไมมีหมาตัวหนึ่งอยู่ตรงนั้น"

หญิงสาวรีบวิ่งไปถามอย่างร้อนใจว่า "นี่เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"

"โธ่ น้องหมา เกิดอะไรขึ้นกับแก อดทนไว้นะ!"

"ฉะ…ฉัน ๆ จะพาแกไปโรงพยาบาล!"

คนรอบข้างเห็นเธอสวยน่ารัก หน้าตาบริสุทธิ์ ตอนนี้กำลังร้อนใจจนจะร้องไห้

ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า “โธ่ แม่หนูนี่ใจดีจริง ๆ…

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน