มู่กุยฝานมองไปรอบๆแล้วพูดว่า “ขึ้นรถก่อน เดี๋ยวกลับบ้านแล้วค่อยว่ากัน”
ซู่เป่ารีบลากสกู๊ตเตอร์ของเธอมาแล้ววิ่งเข้าไปในรถของพ่อ
ว่านปาสือนั่งอยู่บนรถของอาเนี่ยซึ่งตามอยู่ข้างหลังรถออฟโรดของมู่กุยฝาน
ซืออี้หรันยืนอยู่ที่เดิมแล้วมองดูซูเป่าขึ้นรถจากที่ไกลๆ เด็กหญิงตัวเล็กๆ มีความสุขจนไม่ทันหันมามองเขา
หนุ่มน้อยเศร้าเล็กน้อย ใบหน้าเล็กๆ ของเขาดูเย็นชาและเคร่งขรึมมากขึ้น
“ไปกันเถอะคุณชายน้อย!” พ่อบ้านซูเร่งเร้า
ซืออี้หรันเม้มปาก ขณะกำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นก็เห็นหน้าต่างรถออฟโรดเลื่อนลงมาแล้วเห็นซู่เป่าโบกมือให้เขาอย่างแรง แถมยังทำหน้ายิ้มๆ แล้วพูดว่า “พี่อี้หรัน ขอบคุณสำหรับลูกอมนะคะ บ๊ายบาย~”
ความเย็นชาบนใบหน้าซืออี้หรันหายไป พอรู้ตัวก็รีบเงยหน้าโบกมือให้เธอ แต่รถออฟโรดก็หายไปที่ปลายถนนและเลี้ยวไปอีกด้านหนึ่งแล้ว
**
บนรถ เด็กๆ จ้องไปที่หลอดเลือดในมือของซูเหอเวิ่น
“นี่เป็นเลือดของป้าสะใภ้ใหญ่เหรอ?”
ซูเหอเหวินเหลือบมองแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ก็ไม่แน่ อาจจะแค่เอาไว้หลอกคนเฉยๆ ก็ได้ มีแค่คนโง่เท่านั้นแหละที่จะเชื่อ”
ซูเหอเวิ่นกรอกตาขาวใส่เขา “พี่ก็พอได้แล้วนะ อย่าคิดว่าเป็นพี่แล้วจะรังแกอะไรผมก็ได้นะ”
ซูเหอเหวินหัวเราะเยาะ ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรต่อแต่ก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างชัดเจนว่าแล้วไม่ใช่หรือไง?
ซูเหอเวิ่นรู้ว่าตัวเองพูดไปก็เสียเปรียบเลยไม่ได้พูดอะไรต่อ
มู่กุยฝานหักพวกมาลัยแล้วรถก็หันไปอีกทางหนึ่ง
เขาเอ่ย “ไปเถอะ แค่ไปตรวจก็รู้”
ซูเหอเวิ่นเอ่ย “ผลตรวจดีเอ็นเอจากเส้นผมที่เคยส่งไปเมื่อสองวันก่อนยังไม่ออกเลย…เพราะผลการตรวจพิสูจน์ความเป็นมารดาใช้เวลาเร็วที่สุดก็สามวัน”
มู่กุยฝาน “นั่นนาย”
ซูเหอเวิ่นเงียบไม่พูดอะไร
เมื่อเลือดถูกส่งไปที่แลป มู่กุยฝานจะวานให้เพื่อนเก่าคนนั้นช่วยเร่งรัดให้หน่อย อย่างเร็วที่สุดพรุ่งนี้ก็จะรู้ผลแล้ว
ทั้งหมดเลยต้องกลับไปก่อน พอผ่านบริษัทของซูอีเฉินก็แวะรับเขากลับบ้านไปด้วย
พอลุงใหญ่ขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับแล้วหันไปมองเด็กสามคนที่เบาะหลัง
คำแรกที่อ้าปากถามก็คือ “ต้องจ่ายค่าชดเชยไหม? เดี๋ยวลุงใหญ่ออกให้เอง”
มู่กุยฝานยกมุมปาก สมกับเป็นลุงใหญ่ที่ทั้งหล่อทั้งรวยจริงๆ
แค่อ้าปากก็แสดงถึงความมีอำนาจแล้ว
ซู่เป่าส่ายหัว “ไม่ต้องหรอกค่ะลุงใหญ่ คุณน้านิสัยไม่ดีคนนั้นโดนคุณอาตำรวจจับตัวไปแล้ว ไม่ต้องเสียเงินสักหยวนเลยค่ะ!”
ทำไมต้องจ่ายค่าชดเชยด้วยล่ะ ยืนยันไม่มีทางจ่ายเด็ดขาด
ต่อให้มีเงินในกระเป๋าจนจะขึ้นรา ก็ไม่มีทางยอมจ่ายค่าชดเชยให้คุณน้านิสัยไม่ดีคนนั้นเด็ดขาด
ซูเหอเวิ่นพูดตามด้วยความตื่นเต้น “ฮ่าๆ พ่อไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นกระอักกระอ่วนขนาดไหน! โดนหมาไล่ตะเพิดไปตามถนนขนาดนั้น”
ซูอีเฉินยิ้มแล้วหันกลับไปนั่งหลังตรง
ทันใดนั้นก็ได้ยินซู่เป่าพูดว่า “ใช่~วันนี้ป้าจ่งทำดีมาก! วันนี้ป้าจ่งลำบากหน่อยนะ! เดี๋ยวฉันเพิ่มน่องไก่ให้นะ!”
ซูอีเฉินหันไปมองโดยไม่รู้ตัวก็เห็นว่าซู่เป่ากำลังลูบหัววูลฟ์ด๊อกอยู่
เขายกมุมปาก
มีความรู้แบบว่า…แปลกๆ ยังไงไม่รู้
มู่กุยฝานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ และพูดด้วยเสียงทุ้มๆ ว่า “ป้าจ่งนี่เยี่ยมจริงๆ”
ซูอีเฉิน “…”
ซูเหอเวิ่น “ฮ่าๆ เธอก็ผมสั้นเหมือนกัน แถมท่าทางก็ยังเหมือนเด๊ะ”
ซู่เป่า “จริงด้วย รีบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปไว้ เดี๋ยวกลับไปเอาให้พี่หานหานดู”
ซูเหอเหวิน ”…”
นั่นมันหานหานไม่ใช่เหรอ พอเปิดเทอมเธอก็เข้าประถมแล้ว ไอ้สองตัวนี้มันลืมไปแล้วหรือไง
รถวิ่งผ่านหน้าโรงเรียน
ซูเหอเหวินพูดอย่าเงียบๆว่า “วันนี้ป.1 มีชั้นเรียนนอกหลักสูตร โรงเรียนได้เปิดคาบเรียนทดลองวิทยาศาสตร์เล็กๆ ก็เลยเลิกเรียนช้ากว่าพวกเราครึ่งชั่วโมงน่ะ”
ซูเหอเวิ่น “เอ่อ…จู่ๆ พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม?”
มู่กุยฝานที่กำลังคิดว่าควรตั้งชื่อหมาว่าอะไรดีจู่ๆ ก็เบรกรถกะทันหัน
ซวยแล้ว เมื่อกี้นายหญิงโทรมากำชับวานให้เขาแวะไปรับหานหานด้วย
บอกว่าอาเนี่ยไปรับซูเหอเหวินกับซูเหอเวิ่นแล้ว ซูจื่อหลินก็กำลังทำงานอยู่ที่ไซต์ก่อสร้าง เธอก็ไม่ค่อยจะสบายก็เลยวานให้เขาช่วยรับเธอมาด้วย
เขาดันลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว!
หน้าประตูโรงเรียนประถม
ยัยหานหัวโตที่น่าสงสารยืนรออยู่ที่หน้ารั้วเหล็ก
นักเรียนคนอื่นๆ กลับบ้านกันไปหมดแล้ว เหลือแต่เธอ
นี่มันไม่มีเหตุผลเลย เธอเป็นถึงลูกหลานของตระกูลซู ตระกูลซูมีคนตั้งเยอะแยะขนาดนั้น จะลืมมารับเด็กที่โรงเรียนได้ยังไงกัน??
“หิวจะตาย…หิวจะตายอยู่แล้ววว~” ยัยหานหัวโตทำหน้าง๋อยรออยู่ตรงรั๋วเหล็ก
พวกเขาไม่มีทางลืมเธอหรอก
ไม่…ไม่มีทางหรอก…?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...