ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 459

ยัยหานหัวโตเอาหัวมุดไปในรั้วเหล็กด้วยความเบื่อหน่าย จากนั้นก็มองเห็นรถออฟโรดสีดำคันหนึ่งวิ่งผ่านมาจากที่ไกลๆ

“เอ๊ะ ขับเร็วขนาดนี้ รถคันนี้ทำไมดูเหมือนกับรถของอาเขยเลยล่ะ”

หานหานสงสัย ขับเร็วเกินจนมองเห็นป้ายทะเบียนไม่ทันแต่คิดว่าน่าจะไม่ใช่ ไม่ได้มีแต่อาเขยที่มีรถออฟโรดสีดำเสียหน่อย

ขณะกำลังคิดอยู่ก็มองเห็นรถออฟโรดคันนั้นเบรกกะทันหันหลังจากนั้นก็กลับรถแล้วขับย้อนศรมา

แถมยังมีหัวเล็กๆ โผล่ออกมาจากหน้าต่างแล้วโบกมืออย่างสุดกำลังให้เธออีกด้วย

“เอ๊ะ เด็กคนนั้นหน้าตาเหมือนซู่เป่าจังเลย” หานหานควักกระเป๋าเสื้อ “เสียดายเอาโทรศัพท์มาไม่ได้ ไม่งั้นคงถ่ายไว้แล้วเอากลับไปให้เธอดู”

พึมพำอยู่ไม่กี่นาที รถออฟโรดคันนั้นก็วิ่งมาจากถนนด้านนี้แล้วหยุดอยู่ที่ประตูหน้าโรงเรียน

หานหาน “…”

ในขณะที่เธอกำลังนึกถึงมีมอีโมจิหัวเราะแบบฝืนๆของหนูเจอร์รี่ ซึ่งเหมือนกับเธอในตอนนี้เลย

บนรถออฟโรด สีหน้าของทุกคนเป็นไปในทางเดียวกัน o_o ....

มู่กุยฝานลดเสียงลง “ทุกคนกลับบ้านไปก็เก็บเงียบเรื่องนี้ด้วยนะ เป็นเพราะพวกเรามัวแต่ไปแลปแล้วทำให้กลับช้า ไม่งั้นคงไม่มีทางลืมหานหานหรอก”

สีหน้าของซูเหอเหวินเหมือนพ่อของเขาเลย ใบหน้าไร้อารมณ์เอ่ย “อาเขย เลขบัญชีผมคือ 543211234567”

มู่กุยฝาน “…”

ซูเหอเวิ่นได้ยินปุ๊ปก็รีบแจ้งหมายเลขบัญชีของเขาทันที “อาเขย ส่วนของผมคือ123456754321 เลยท้ายสลับตรงข้ามกับของพี่พอดีเลย จำไว้นะครับ!”

ซู่เป่า:เอ่อ? ทำไมจู่ๆ ถึงมาบอกเลขบัญชีกันล่ะ?

เธอกระพริบตาเข้าใจแบบงงๆ แล้วตามกระแสบอกเลขบัญชีตาม “พ่อ ส่วนของหนูคือ 123456789000 นะคะ ลุงใหญ่เป็นคนเปิดบัญชีให้ เลขจำง่ายดีใช่ไหมล่ะคะ!”

มู่กุยฝาน “…”

เจ้าตัวนุ่มฉวยโอกาสผสมโรงไปด้วยนี่เป็นเรื่องที่ควรทำเหรอเนี่ย?

ช่างมันเถอะ ดีกว่าโดนนายหญิงตัดมือลูกเขย

มู่กุยฝานเพิ่งจะนึกได้ว่าต้องโอน ก็เห็นซูอีเฉินยื่นโทรศัพท์ออกมา บนหน้าจอมีคิวอาโค้ดรับเงิน

“ที่จริงแล้ว สำหรับฉันเงินก็เป็นแค่ตัวเลขที่ไม่มีความหมายอะไร แต่ฉันอยากเห็นนายหญิงตัดมือคนบางคนมากกว่า” คำพูดของลุงใหญ่มักจะกระชับและมีความหมายแฝงอยู่เสมอ

หมายความว่าเขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน แต่ถ้าให้น้อยก็ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

มู่กุยฝาน “…”

กำลังโอนเงินเงียบๆ

ช่างเถอะ ก็ถือเสียว่าใช้เงินเพื่อบรรเทาภัยละกัน ขอแค่รับหานหานกลับไปอย่างราบรื่นก็พอ

หานหานได้แต่มองดูคนต่อหน้าคุยอะไรพึมพำกัน ก็เลยเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วโบกมือพูดว่า “เฮ้ พวกเธอดูสิว่าฉันเหมือนเด็กบ้านไหน?”

ซู่เป่าวิ่งเข้าไปลูบหัวเธอแล้วทำหน้ารู้สึกผิด “ขอโทษค่ะ พี่หานหาน! เป็นเพราะหนูมัวแต่คิดชื่อใหม่ให้ป้าจ่งอยู่ในรถ ก็เลยลืมพี่ไป”

หยุดไปครู่หนึ่งแล้วเธอก็พูดต่อทันทีว่า “คราวหน้าที่หนูตั้งชื่อให้หมาจะต้องจำพี่ไว้แน่นอน!”

หานหานพอเห็นว่าเป็นซู่เป่าก็บอกว่างั้นไม่เป็นไร

เธอเอ่ย “ไม่เป็นไรๆ แล้วตั้งชื่อให้ป้าจ่งกันได้หรือยัง”

เธอพูดพลางลุกขึ้นไปด้วย ได้ยินเสียงเคร้งๆ ติดที่หัว!

หัวติดอยู่ในราวเหล็ก…

ทุกคนช็อคจนพูดไม่ออก

มู่กุยฝานพูดเป็นนัยว่า:เอาสิ เสียเงินไปเปล่าประโยชน์แล้ว

“ซวยแล้ว คราวนี้จะทำยังไงกันดี?” ซูเหอเวิ่นอึ้งอยู่พักหนึ่ง “รีบโทรเรียกคุณลุงกู้ภัยมาดีกว่า กว่าจะปลดล็อคเสร็จแล้วกลับบ้านไปคงมืดแล้วแน่ๆ”

พอถึงตอนนั้นคุณยายต้องสงสัยแน่ๆ คงไม่ใช่แค่ตัดมืออาเขยแล้ว แต่ทุกคนน่าจะต้องโดนด่ากันหมด

ซู่เป่ารีบปลอบทันทีว่า “ไม่เป็นไรๆ! ไม่เป็นไร!”

เธอมองซ้ายมองขวา “พวกพี่ช่วยมาบังหนูไว้หน่อย หนูสามารถงัดรั้วได้!”

ลุงรปภ.เดินผ่านมา

ซูเหอเวิ่นส่ายหัว “ไม่ได้…มีกล้องวงจรปิด…เอางี้ออกแรงเพิ่มขึ้นอีกหน่อย หานหานเราจะกดหัวเธอไว้แล้วดันเธอไปข้างหลังนะ”

หานหานร้องไห้ “ถ้าหูขาดจะทำยังไงลล่ะ?”

มู่กุยฝานเอามือจับคาง “ตามประสบการณ์ของฉัน ไม่น่าจะหลุดนะ”

ซูอีเฉิน “…”

เขาทนดูไม่ไหวก็เลยหันไปอธิบายสถานการณ์กับรปภ.

ซูเหอเหวินค่อยๆ อธิบายว่า “เด็กน่ะตัวเล็กแต่หัวใหญ่ ถ้าหัวสามารถผ่านไปได้ ยังไงตัวก็ผ่านไปได้ด้วยอยู่แล้ว”

ผลตรวจจากเส้นผมและเลือดล้วนตรงกับสิ่งที่เหยาซือเยว่พูดไว้ทั้งหมด

“เธอบอกกับผมว่าเธอเป็นน้าของผมและรู้ว่าแม่อยู่ที่ไหน…แถมยังบอกอีกว่าแม่เหลือเวลาอยู่อีกไม่นาน”

ในใจซูเหอเวิ่นรู้สึกวิตกขึ้นมาทันที แต่เดิมก็คิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนโกหก ที่ไหนได้ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

ซูเหอเหวินก็ขมวดคิ้วด้วย ถ้าเกิดเป็นเรื่องจริง…

เขาคงถามตัวเองว่าเขาจะยังสามารถใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่สนใจเรื่องนี้ได้ไหม?

ไม่ได้

ซูเหอเวิ่นก้มหน้าก้มตา ไม่พูดอะไรสักคำ

เขาอยากเจอแม่ของเขาจริงๆ

แต่เขาก็ไม่อยากให้พ่อของเขาถูกผู้หญิงคนนั้นข่มขู่

ซูอีเฉินยืนขึ้นแล้วเอ่ยเบาๆว่า “เดี๋ยวฉันลองไปดู”

ซูเหอเวิ่นกลับดึงมือเขาไว้แล้วดูเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่ก็พูดไม่ออก แต่ก็ดึงเขาไว้อย่างดื้อรั้นแบบนี้และไม่ยอมปล่อยมือเขาไป

ซู่เป่านั่งเงียบอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร

แม่…

จะมีเด็กคนไหนที่ไม่อยากมีแม่

มู่กุยฝานจูงมือเธอไว้แล้วเอ่ยเบาๆว่า “พวกเราออกไปก่อนเถอะ”

ซูอีเฉินและมู่กุยฝานต่างก็แอบตรวจสอบดูอย่างลับๆ หลังเหยาซือเยว่ออกจากโรงพยาบาลแล้วไปที่ตึกหนึ่ง แต่แปลกที่เช็คทั่วตึกแล้วก็หาเงา‘ป้าสะใภ้ใหญ่’ ไม่เจอเลย

หลังจากนั้นสองวันแล้วเช็คดูอีกที หลังจากตามทุกย่างก้าวของเหยาซือเยว่อยู่ทุกวันก็ยังไม่เจออะไร

“มันไม่สมเหตุสมผล…ตามข้อมูลจากแลป ตัวอย่างเลือดที่สามารถตรวจได้อยู่ได้ไม่เกินสองวัน แสดงว่าเลือดหลอดนี้น่าจะเจาะภายในวันนั้น…”

“เลือดที่เจาะวันนั้น แต่กลับหาคนไม่เจอ”

มู่กุยฝานนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งของซู่เป่า เก้าอี้โซฟาเล็กๆ แทบจะไม่สามารถรองรับร่างอันสูงใหญ่ของเขาได้ ทำให้มีความรู้สึกคอนทราสกันอย่างมาก

ซู่เป่าที่นอนอยู่ข้างๆ มองกระดาษที่พ่อเขียนแล้วก็เอ่ยขึ้นมาว่า “แล้วไงต่อ คนอยู่ที่ไหน?”

มู่กุยฝานยืนขึ้น “ไปหาลุงใหญ่ของหนูกันเถอะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน