กำไลข้อมือของแม่หยวนหยวนสีจางลง ไม่ได้ส่องแสงเป็นประกายเหมือนแต่ก่อน กลับมีความมืดมนเข้ามาแทนที่อย่างบอกไม่ถูก
เธอยังอบรมสั่งสอนหยวนหยวนต่อว่า “อันดับแรกเลยก็คือตอนคนกินข้าวกันจู่ ๆ ก็ไปเยี่ยมเยือน มันเป็นการขัดขวางการกินข้าวของคนอื่น ไม่มีมารยาท ตอนกินข้าวเป็นช่วงเวลาที่สนิทสนมใกล้ชิดกันมากที่สุดในครอบครัว ถ้าจู่ ๆ มีคนนอกมาทำลายบรรยากาศช่วงเวลาสนิทสนมใกล้ชิดกัน นั่นจะทำให้คนเขารู้สึกไม่ชอบง่ายมากเลย สุดท้ายตอนคนอื่นเขากินข้าวอยู่แล้วจู่ ๆ เราโผล่เข้าไปเยี่ยมเยือนก็จะดูเหมือนว่าเข้าไปขอข้าวเขากิน...”
หยวนหยวนพยักหน้า “หนูจะจำไว้ค่ะ”
พวกเธอทำได้เพียงแค่ขับรถกลับไป แม่หยวนหยวนกลัวสามีรู้ว่าเธอแอบซื้อหยก ก็เลยเอาไปซ่อนเก็บไว้อย่างระมัดระวัง ทั้งกำชับหยวนหยวนว่าห้ามบอกใคร
ทั้งคำสอนและการกระทำต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยิ่งทำให้หยวนหยวนได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้น...
**
ด้านเขาร้าง
มู่กุยฝานยังคงขุดหลุมอยู่
เขาเดินไปรอบ ๆ ก้นหลุม พยายามหาไอหยินอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้วิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทว่ายังไม่พบอะไร
นึกถึงนายหญิงซูที่ยังรอข่าวซู่เป่าอยู่ที่บ้าน ตอนนี้มู่กุยฝานไม่รู้เลยว่าจะกลับไปบอกเธออย่างไรดี
ทุก ๆ วันนำข่าวกลับไปบอกเธอก็มีแต่ข่าวที่ทำให้เธอผิดหวัง...
มู่กุยฝานเดินมาเปิดประตูรถอย่างเงียบ ๆ แล้วนั่งลงที่เบาะคนขับ เวลาผ่านไปเนิ่นนานก็ยังไม่ได้สตาร์ทรถ
เขาจุดบุหรี่อย่างฉุนเฉียว หากแต่เขาเป็นคนไม่สูบบุหรี่ เมื่อคนเราพออยู่ในช่วงจิตใจจวนจะสลาย ก็มักจะมองหาอะไรบางอย่างมาคอยค้ำยันจิตใจเอาไว้
มู่กุยฝานจุดบุหรี่ไว้แต่ก็ไม่ได้สูบ เพียงแค่เอามือพาดไว้ที่ขอบหน้าต่าง มองควันบุหรี่ที่ค่อย ๆ ลอยเลือนหายไป ราวกับว่าควันพวกนี้จะสามารถลดความหนักอึ้งภายในใจเขาออกไปได้บ้าง
ขณะนั้นเองด้านข้างรถมีคนเดินมาสองคน
สองคนนั้นเป็นนักข่าวอิสระ
เพื่อตามหาซู่เป่า ตระกูลซูและมู่กุยฝานจึงไม่ได้ขัดขวางคนพวกนี้
คิดว่าถ้าซู่เป่ายังมีชีวิตอยู่ แล้วได้เห็นข่าว บางทีอาจจะรู้ว่าพวกลุงและพ่อกำลังตามหาเธออยู่...จะได้ติดต่อมาได้
ดังนั้นตระกูลซูขุดหลุมใหญ่ขนาดนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถมาถ่ายภาพได้
นักข่าวอิสระมองรูปถ่าย ก่อนจะพูดว่า “ตระกูลซูบอกว่าจะขุดทะเลสาบ แล้วสร้างบ้านพักตากอากาศติดทะเลสาบ...เอ๊ะ ทำไมดูเหมือนว่าจะไม่เหมือนแผนการที่วางไว้เลยล่ะ”
“นี่ก็เป็นเหตุผลที่ได้รับการอนุมัติ! ที่จริงแล้วไม่มีใครรู้ว่าพวกเขากำลังหาคน...”
“ใช่แล้ว เมื่อวานทางด้านมหาวิทยาลัยจงต้าก็มีบางอย่างผิดปกตินะ เหมือนว่าตอนกลางคืนได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องไห้ แต่พอเปิดประตูออกไปกลับไม่เจออะไร”
“เรื่องนั้นฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน ดูเหมือนว่าจะถูกนักพรตปราบไปแล้ว...ใครจะรู้ว่าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วล่ะ”
สิ้นเสียงพูด เงาของร่างสูงโปร่งก็มาปรากฏอยู่ใกล้ ๆ
“เมื่อกี้พวกคุณพูดว่าอะไรนะ”
นักข่าวผงะและใจสั่นรัวอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเห็นใบหน้าเย็นชาที่เต็มไปด้วยความโกรธของชายตรงหน้า
“เรา...เรากำลังพูดถึงบ้านพักตากอากาศวิวทะเลสาบนี้ว่า...ออกแบบได้ดีมากเลย..."”
“ใช่ ๆ ทุกคนรอคอยบ้านพักตากอากาศวิวทะเลสาบแห่งนี้เป็นอย่างมาก...”
มู่กุยฝานสีหน้าเย็นชาก่อนจะพูดว่า “เรื่องผีน่ะ”
นักข่าวถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบพูดว่า “คือว่าทางมหาวิทยาลัยจงต้ามีผีผู้หญิง หลอกผู้คนอย่างอำมหิต ทำให้คนกระโดดตึกไปหลายคนเลย...หลังจากนั้นก็มีนักพรตมาปราบไปแล้ว”
มู่กุยฝานเงียบ ไม่นานก็ถามว่า “นักพรตผู้ชายหรือผู้หญิง อายุเท่าไหร่”
นักข่าวพากันส่ายหน้า “อันนี้พวกเราก็ไม่รู้จริง ๆ”
มู่กุยฝานก็หันหลังจากไป
สามเดือนมานี้ ขอเพียงที่ไหนปรากฏข่าวเกี่ยวกับผี เขาก็จะต้องไปตรวจเช็คดู
เขาเป็นกังวล...กังวลว่าถ้าหากลูกรักของเขายังมีชีวิตอยู่ แต่เพราะสาเหตุบางอย่างจะทำให้ลืมพวกเขา
นิยายพวกนั้นที่ซูจิ่นอวี้อ่าน เขาก็อ่านไปแล้วรอบหนึ่งเช่นกัน ก็เลยรู้จักพวกกลยุทธ์ต่าง ๆ
จะเจอการทำให้สูญเสียความทรงจำบ่อยที่สุด แล้วถ้าเกิดว่าลูกรักของเขาสูญเสียความทรงจำล่ะ
ดังนั้นเขาจะต้องหาเธอให้เจอให้ได้...
**
อีกด้านหนึ่งของชุมชนเมือง
มู่กุยฝานออกจากมหาวิทยาลัยจงต้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีความหวังพียงน้อยนิด แต่พอมาให้เห็นด้วยตัวเองก็รู้สึกผิดหวังอีกครั้ง ดวงตาก็เต็มไปด้วยความอ่อนล้าเกินจะอธิบาย
หลังจากรถออฟโรดสีดำขับออกไป
ในป่าเล็กด้านหลังมหาวิทยาลัยจงต้า มีเด็กน้อยคนหนึ่งกับหญิงสาวผมเผ้ากระเซอะกระเซิงหน้าตาสกปรกมอมแมมปีนขึ้นมา
ซู่เป่ามองไปทั่วทุกทิศด้วยความงุนงง “เอ๊ะ ที่นี่ใช่เขาร้างไหมเนี่ย ทำไมรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมือนเลย”
เหยาหลิงเยว่ยกมือขึ้น ดึงหนามที่ทิ่มอยู่บนคอออกมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
จี้ฉางพูด “โทรศัพท์หาพ่อเจ้าก่อนเถอะ”
ซู่เป่ามองมือที่ว่างเปล่า
เธอไม่มีโทรศัพท์~
แต่ว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวเธอไปหายืมเอาก็ได้
ถ้าไม่ได้ ก็ไปหาคุณอาตำรวจก็ได้
ซู่เป่าและเหยาหลิงเยว่ออกมาจากป่าเล็ก
มหาวิทยาลัยจงต้าตั้งอยู่ในเขตพัฒนาเซียนหู ที่นี่มีประชากรน้อย ตอนนั้นจึงได้มีการย้ายมหาวิทยาลัยมาอยู่ที่นี่เพื่อจะพัฒนาเศรษฐกิจ
นักศึกษาของจงต้าก็น่าสงสาร บ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนไปอยู่ชนบท เมื่อเทียบกับในเขตเมืองที่คึกคักเจริญรุ่งเรือง ที่นี่ก็ไม่ต่างจากชนบทเลยจริง ๆ
ผีดวงซวยชูนิ้วโอเค “ไม่มีปัญหา!”
ในที่สุดก็ได้เห็นแสงสว่างแห่งวันอีกครั้ง ให้เขายืดเส้นยืดสายหน่อยก็ดี!
ส่วนด้านนี้ คนร้ายแอบเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ผ่านประตูด้านข้าง
“ออเดอร์แรกของปี!” เขาอดไม่ได้ที่จะถูมือ “เทพเจ้าแห่งโชคลาภจงปกปักษ์รักษา”
นี่เป็นอพาร์ทเมนต์ขนาดเล็กที่ดัดแปลงมาจากบ้านที่สร้างเองซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่
แถวนี้มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง มีนักศึกษาบางคนที่เป็นคู่รักกันก็มักจะเช่าบ้านอยู่ด้วยกันด้านนอก
คู่รักหนุ่มสาวลักษณะนี้มีจำนวนไม่น้อยเลย พวกเขาไม่ได้ทำงาน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็อาศัยจากทางบ้าน แต่ยังใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต รองเท้าไนกี้แอร์จอร์แดนหรือยีซี่ กระเป๋าหลุยส์ หรือแม้กระทั่งมาส์กหน้าเอสเค-ทู...มีแต่แบรนด์เนมทั้งนั้นเลย
ตอนนี้เป็นเวลาเข้าเรียน พวกนักศึกษาก็ไปเรียนกันหมด
จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่เขาจะได้โชว์ความสามารถ!
ก่อนจะมาที่นี่เขาใช้เงินไปเป็นจำนวนมาก จ่ายไปหนึ่งร้อยหยวนในการทำนายดวงและคำนวณชุดเลขนำโชค
“1314…” หัวขโมยยิ้มกรุ้มกริ่ม “ชุดเลขนำโชคชุดนี้แค่ได้ยินก็รู้สึกโชคดีแล้ว 1314 พ้องเสียงกับคำว่าชั่วชีวิต...ค่าเช่าของเลขห้องพิเศษแบบนี้ก็จะแพงกว่าเลขห้องทั่วไป...”
ครั้งก่อนเขาไปห้องเช่าห้องหนึ่งหมายเลขห้อง 520 ก่อนที่จะไปก็เคยสอบถามราคามาแล้ว ห้องเช่าห้องอื่นที่มีขนาดเท่ากัน ค่าเช่าต่อเดือนแค่สี่ร้อยห้าสิบ แต่ห้องนั้นค่าเช่ากลับตั้งหกร้อย
คู่รักที่สามารถเช่าห้องนี้ได้ก็ต้องมีเงิน ครั้งนั้นเขากอบโกยมาได้เป็นกอบเป็นกำเลย
ขอเพียงสามารถขายแล้วได้เงิน ไม่ว่าจะเป็นอะไรเขาก็ขโมยหมด
เสียดายที่รองเท้ายีซี่ไซส์ไม่พอดี
ส่วนพวกแท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ว่าจะเอาไปเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ หรือต้องมีสภาพเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ถึงจะขายได้ครึ่งราคา
ส่วนมาส์กหน้าเอสเค-ทูก็ใช่ย่อย ขอเพียงแค่บรรจุภัณฑ์ยังอยู่ครบ แค่โพสต์เล่น ๆ ไว้บนอินเทอร็เน็ตก็มีคนมาซื้อแล้ว
“ครั้งนี้รวยเละ!”
หัวขโมยยิ้มหน้าบาน หยิบลวดขึ้นมาสะเดาะกุญแจ พลางมองไปรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว
เพียงอึดใจเดียวก็สามารถเข้าไปได้
ทว่าตอนหันหลังกลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากลับแข็งทื่อ
เมื่อพบว่าในห้องมีตำรวจนั่งกินข้าวกล่องกันอยู่สี่คน
เมื่อเห็นเขาเข้ามา ทั้งสองฝ่ายต่างมองหน้ากันและกัน ราวกับทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวชั่วขณะ
ตำรวจคนหนึ่งวางกล่องข้าวในมือลง คว้ากุญแจมือออกมา “อย่าขยับ! นั่งลง!”
หัวขโมย “!!!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน
1819 ตอนสุดท้าย จบแล้วหรือคะ...
ไม่ลงต่อแล้วหรอคะ 🥹...
รอทุกวันเลยค่ะ...
กระโดดข้ามหายไปหลายตอนเลยค่ะ...
1293 1297 1298 หายค่ะ 🥲🥲...
ตอนที่ 1288 หายไปค่ะ...
เย้...กลับมาแล้ว รอทุกวันเลยค่ะ...
หายไปนานจังเลยนะจ๊ะรอลงตอนใหม่อยู่นะคะ...
รอค่ะ...
ทำไมรอบนี้หลายไปนานคะ หรือไปบงที่อื่นคะ...