ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 615

ทันใดนั้นซู่เป่าพลันลืมตาขึ้นและลุกขึ้นนั่ง

“คุณพ่อคะ...” ซู่เป่าเดินไปที่หน้ารถและเรียกเบาๆ

มู่กุยฝาน “หื้อ ทำไมถึงตื่นแล้วล่ะ”

นี่คือทักษะอะไร

ดูเหมือนทุกครั้งในเวลาแบบนี้ ซู่เป่ามักจะตื่นโดยอัตโนมัติ...

ซู่เป่าพูดว่า “หนูตื่นมาส่งคุณปู่ค่ะ”

มู่กุยฝานพยักหน้า

ชายชรานอนอยู่บนเตียงของเขา เตียงนี้เป็นเตียงที่ซูอีเฉินสั่งทำโดยเฉพาะ เมื่อไปถึงสถานที่ก็สามารถปลดออกและนำออกไปได้

ซู่เป่าเดินกลับเข้าไปในตัวรถแล้วหยิบดอกไม้จำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าใบเล็กๆ

เมื่อคืนเธอตัดดอกไม้พวกนี้กับเถ้าแก่เนี้ยตอนอยู่ในลาน

เถ้าแก่เนี้ยปลูกดอกไม้ไว้ในลานและมีดอกไฮเดรนเยียมากมาย

เธอบอกว่าความหมายของดอกไฮเดรนเยียคือการกลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน ซู่เป่ารู้สึกว่ามันเหมาะสำหรับมอบให้คุณปู่และขอให้ท่านไปสู่สุคติ

เมื่อเข็มนาฬิกาเดินมาถึงเวลาตีสี่พอดี ชายชราก็ลืมตาขึ้นอีกครั้งและลุกขึ้นนั่งทันที

วิญญาณของเขากลับคืนสู่สภาพเมื่อตอนที่เขาเป็นหนุ่ม เขามีคิ้วหนา ดวงตากลมโต ใบหน้าเหลี่ยมและสง่าผ่าเผย

“ชุ่ยเหลียน” เขาร้องเรียกอย่างตื่นตระหนก

ชุ่ยเหลียนกำลังฟุบอยู่บนร่างไร้วิญญาณของชายชราพร้อมหลับตาและรอคอยอย่างเงียบๆ เมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็ลืมตาขึ้น

“ฉันอยู่นี่...” เธอยิ้ม “เอินหยาง คุณมาแล้ว”

เซี่ยเอินหยางจับมือของเธอแน่นแล้วกอดชุ่ยเหลียนแน่นทันที

“ขอโทษที่ทำให้รอนานนะ” เขาพูด

ชุ่ยเหลียนยิ้มแล้วดูสวยมากพลางส่ายหน้า “ไม่นานเลย”

เพียงแค่เป็นคุณก็รอไม่นานเลย

ซู่เป่ามอบดอกไฮเดรนเยียให้พวกเขา “สำหรับพวกคุณค่ะ ซู่เป่ากับเถ้าแก่เนี้ยช่วยกันห่อค่ะ ขอให้พวกคุณพบเจอกันอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานค่ะ”

ชุ่ยเหลียนเอื้อมมือไปสัมผัสดอกไม้ เดิมทีเธอคิดว่าจะจับมันไม่ได้ แต่กลับจับได้อย่างคาดไม่ถึง

เธอชูช่อดอกไม้ด้วยความประหลาดใจแล้วพูดว่า “ขอบใจหนูนะ”

ซู่เป่าส่ายหน้า “ไม่ต้องขอบคุณหรอกค่ะ”

แล้วเธอก็หยิบตราประทับสีแดงเล็กๆ ออกมา

มันเป็นตราประทับสีแดงเล็กที่คุณครูใช้ประทับบนแขนเด็กเวลาชมเชยพวกเขาในโรงเรียนอนุบาล

มันเขียนว่า ‘คุณเจ๋งมาก’ และมีรูปดาวห้าแฉกหนึ่งดวง

ซู่เป่าพูดว่า “ยื่นมือมาค่ะ ปั๊มๆ ตราแล้ว ชาติหน้าคุณปู่ต้องตามหาคุณย่าชุ่ยเหลียนให้เจอนะคะ”

เซี่ยเอินหยางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ เพราะเขาไม่คิดว่าการประทับตราจะเหลือรอยตราไปถึงชาติหน้า แต่เขาก็ยินดีที่จะเล่นเกมของเด็กกับซู่เป่า

“ตกลง ขอบใจนะ”

ในเวลานี้ทั้งสองยังไม่รู้ว่าเด็กน้อยผู้น่ารักและอ่อนโยนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาคือพญายม

พวกเขาต่างมองซู่เป่าประทับตราบนหลังมือของพวกเขา

ซู่เป่าพลันอุทานว่า “หมึกหมดแล้วเหรอ ทำไมถึงประทับได้แค่ครึ่งเดียว...”

เพราะคำว่า ‘คุณเจ๋งมาก’ ประทับไม่ติด

เซี่ยเอินหยางมองรูปดาวห้าแฉกหนึ่งดวงที่หลังมือของเขา จากนั้นมองที่หลังมือของชุ่ยเหลียนก็มีรูปดาวห้าแฉกหนึ่งดวงเช่นกัน

ชุ่ยเหลียนพูดว่า “แบบนี้ก็ดีแล้วจ้ะ สวยมาก”

ซู่เป่าจึงเก็บตราประทับสีแดง ในเมื่อประทับคำว่า ‘คุณเจ๋งมาก’ ไม่ติด งั้นก็ให้พวกเขาไปเถอะ

“ลาก่อนค่ะ” ซู่เป่าโบกมือ “ไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ”

เซี่ยเอินหยางจับมือของชุ่ยเหลียนแล้วทั้งสองก็กล่าวลาซู่เป่า “ลาก่อนนะจ้ะ”

จากนั้นทั้งสองก็ลอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ ในค่ำคืนอันมืดมิดจนกระทั่งมองไม่เห็น

ซู่เป่าจึงหันหน้ากลับมามองดูร่างของชายชราที่นอนอยู่บนเตียง

ผีคลั่งรักยังฟุบอยู่บนร่างเขา ถึงวิญญาณของเซี่ยเอินหยางจะออกจากร่างแล้ว แต่เขากลับไม่กลืนกินอย่างที่คิดไว้

“มานี่ค่ะ หนูจะประทับตราให้” ซู่เป่าพูด

ผีคลั่งรักลอยมาอย่างเงียบๆ พร้อมกับยื่นมือออกมา

ผีคลั่งรักพยักหน้าแล้วส่ายหน้า

คราวนี้ทำเอาทุกคนฉงนกันหมด

บางทีอาจได้รับอิทธิพลจากคู่ของเซี่ยเอินหยางกับห่าวชุ่ยเหลียน ผีคลั่งรักจึงค่อยๆ กินอมยิ้มและค่อยๆ เล่าเรื่องที่ผนึกไว้ในใจของเขาออกมา

“ตอนนั้นเป็นช่วงที่พวกญี่ปุ่นกำลังรุกราน ฉันกับหลิงฟางอยู่หมู่บ้านเดียวกันและโตมาด้วยกัน ต่อมาทั้งสองครอบครัวรวมตัวกันและเราก็แต่งงานกันหลังจากหารือกัน”

“เรามีลูกคนแรกหลังจากแต่งงาน” ผีคลั่งรักยิ้มเล็กน้อย “เป็นเด็กผู้ชาย ทั้งแข็งแรงทั้งน่ารักและกินนมเก่งมาก”

“ตอนนั้นอาหารมีน้อย น้ำนมของหลิงฟางก็น้อยเช่นกัน ฉันก็เลยไปจับปลาในแม่น้ำที่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร”

ในยุคที่เสบียงขาดแคลน แม้แต่แม่น้ำก็ยังสะอาด เมื่อเขาจับปลาสองตัวได้อย่างยากลำบาก เขาก็รีบกลับเพื่อไปเตรียมซุปปลาให้แม่ของลูก

“ตอนฉันกลับไปถึงหน้าหมู่บ้านก็พบว่าหมู่บ้านของเราถูกพวกทหารญี่ปุ่นยึดแล้ว”

หลายปีที่ผ่านมานั้นเป็นปีที่พวกทหารญี่ปุ่นดำเนินนโยบายสามล้าง คือเผาล้าง ปล้นล้างและฆ่าล้าง

“ดินแดนของพวกญี่ปุ่นเล็กเกินกว่าที่จะทำสงครามระยะยาวได้ พวกมันจึงทำสงครามเพื่อเลี้ยงกองกำลังและกวาดล้างเกือบทุกหมู่บ้านที่พวกมันเข้ายึด แม้แต่เด็กและผู้หญิงก็ไม่ละเว้น”

“ฉันมองเห็นหลายคนถูกแขวนไว้บนต้นไม้หน้าหมู่บ้านจากไกลๆ และมีควันไฟทุกที่ในหมู่บ้าน”

ในหมู่บ้านราวกับนรก มีเสียงร้องไห้ของเด็กและคนแก่ และเสียงกรีดร้องของผู้หญิงผสมปนเปกับเสียงหัวเราะของพวกทหารญี่ปุ่น

ผีคลั่งรักรู้สึกจุกในอกและมีเสียงดังก้องในหัวทันที เขารีบมุ่งไปที่หมู่บ้าน แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปและมองไปรอบๆ อย่างกังวลใจ

“โชคดีที่ฉันได้ยินจากคนที่หนีออกมาได้บอกว่าหลิงฟางพาลูกและแม่ของฉันหนีไปหลังภูเขาและมีทหารญี่ปุ่นหลายคนไล่ตาม ฉันจึงรีบวิ่งไปที่หลังภูเขา”

เขาอาศัยความคุ้นเคยลักษณะภูมิประเทศจึงหาถ้ำที่พวกเขาซ่อนตัวอยู่เจอได้อย่างรวดเร็ว มีทั้งเด็ก หญิงสาวและคนชราหลายคนในหมู่บ้านซ่อนตัวอยู่ที่นั่น

“แต่ในเวลานั้นเองเด็กก็ร้องไห้ พอฉันได้ยินก็รู้ว่าเป็นไอ้เสื้อของเรา”

เมื่อเด็กร้องไห้ก็ดึงดูดความสนใจของพวกทหารญี่ปุ่น ผีคลั่งรักจึงเปิดเผยตำแหน่งตัวเองด้วยความร้อนใจและล่อพวกทหารญี่ปุ่นไปอีกด้าน

แต่พวกทหารญี่ปุ่นฉลาด พวกเขาแบ่งทหารสามคนจากทีมเล็กหกเจ็ดคนไล่ตามเขา ส่วนคนที่เหลือก็ตามไปยังทิศทางที่มีเสียงเด็กร้องไห้

“เพื่อลูก หลิงฟางและแม่ที่แก่ชรา พอฉันฉุนเฉียว... จึงใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศและฆ่าพวกทหารญี่ปุ่นสามคนตาย”

ส่วนพวกทหารญี่ปุ่นที่เหลือสี่คน เขากับผู้ชายอีกสองสามคนที่เหลือในหมู่บ้านช่วยกันฆ่าพวกเขา

“ถึงจะชนะ แต่เสียงปืนก็ดึงดูดทหารญี่ปุ่นคนอื่นมา พวกเราจึงรีบวิ่งไปที่ถ้ำและเตรียมจะย้ายฐาน”

แต่เมื่อเขามองเห็นหลิงฟาง หลิงฟางกลับอกสั่นขวัญหายและอุ้มลูกด้วยความตื่นตระหนก...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน