ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 619

ใครจะว่างมาดูคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรมาแย่งมรดกกัน

ที่นี่คือหมู่บ้านเซี่ย ชายชราแซ่เซี่ย

ซูอีเฉินบริจาคเงินในนามของเซี่ยเอินหยางไปหนึ่งล้าน

บ้านของเซี่ยเอินหยางก็ตกเป็นของส่วนรวมของหมู่บ้าน มรดกทั้งหมดก็บริจาคให้กับหมู่บ้านเพื่อทำการสร้างถนน สร้างโรงเรียนประถมและศาลบรรพบุรุษ หลังจากฝังเถ้ากระดูกแล้ว ป้ายชื่อจะถูกย้ายไปยังศาลบรรพบุรุษ

เมื่อคนตายมีป้ายชื่อบูชา ลงไปข้างล่างแล้วก็จะไม่เป็นผีนิรนาม มีกุศลมีผลบุญ แม้ไปอยู่เฟิงตูเมืองผีก็จะมีชีวิตที่ไม่เลวนัก

ตระกูลซูรู้สึกว่านี่เป็นวาสนาระหว่างพวกเขากับเซี่ยเอินหยาง หลังจากทําสิ่งเหล่านี้เสร็จแล้วพวกเขาก็ไม่มีอะไรให้ต้องละอายใจ เรื่องนี้ก็จบลงเท่านี้ ญาติห่าง ๆ ของเซี่ยเอินหยางพวกนั้นใครจะสนใจ

พวกเขามอบโกศให้ผู้ใหญ่บ้าน เนื่องจากได้รับเงินบริจาคไปล้านหนึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ตื่นเต้นสุดขีด รับปากจะจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยแน่นอน

เงินก้อนนี้เท่ากับเข้ากระเป๋าของคนทั้งหมู่บ้าน คนทั้งหมู่บ้านก็ตื่นเต้นและบอกว่าจะไม่ปล่อยให้มีเรื่องผิดพลาดอะไรกับเถ้ากระดูกของชายชราอย่างแน่นอน

มีเพียงญาติห่าง ๆ ของเซี่ยเอินหยางเท่านั้นที่ตะลึงกันไป

หนึ่งล้านเลยนะ!

บริจาคไปเฉย ๆ แบบนี้เลยเหรอ!

ตาแก่นั้นโง่ชะมัดยาด!!

คิดอยากจะเอาเงินล้านมาจากคนทั้งหมู่บ้านมันเป็นไปไม่ได้เลย

ในโลกนี้มีความไม่สบายใจอย่างหนึ่งที่เรียกว่าความไม่สบายใจที่เห็นคนอื่นร่ำรวย ไม่สบายใจเสียยิ่งกว่าเสียเงินตัวเองอีก ญาติห่าง ๆ ของชายชราหลายคนทรมานเจียนตาย

ซู่เป่าหยิบเงินกระดาษออกมาปึกหนึ่ง หลังจากพึมพําอะไรสองสามคำ เธอก็วาดวงกลมบนพื้น เขียนอะไรลงไปสองสามคํา โยนกระดาษเงินลงไปเสียงดังฟุ่บ

จุดกระดาษเหลืองเผาในวงกลม ส่งเงินหลายสิบล้านให้ชายชราและคุณย่าฉุยเหลียนที่ปรโลก

จัดการทุกอย่างเรียบร้อยทั้งเรื่องในโลกมนุษย์และปรโลกแล้วก็ไม่มีอะไรให้เสียใจอีกแล้ว

เสี่ยวอู่ส่ายหัว โยกตัวไปมาพูดว่า "โอ้โห จบบริบูรณ์แล้ว!"

ซู่เป่า "??? "

ใครบอกว่าจบบริบูรณ์แล้ว

มู่กุยฝานเปิดประตูรถแล้วพูดว่า "ซู่เป่า ไปกันได้แล้ว!”

ทุกคนขึ้นรถออกไปแล้ว

ญาติห่าง ๆ ของเซี่ยเอินหยางเหล่านั้นเพิ่งจะรู้สึกตัว เดิมทียังอยากเกาะแกะตระกูลซู ให้พวกเขาแบ่งผลประโยชน์อะไรให้บ้าง…

ใครรู้ว่าพวกเขาจะจากไปในพริบตา ใครจะตามไปก็ตามไม่ทัน

**

บนรถ ซูเหอเวิ่นถามว่า “สถานีต่อไปเราจะไปที่ไหนกัน?”

นายหญิงซูตอบอย่างเย็นชาและไร้ความปรานี “กลับบ้านไปโรงเรียน”

หานหานคร่ำครวญทันทีว่า "ไม่นะ"

เธอไม่ได้นำการบ้านมาแม้แต่เล่มเดียว ออกมาเที่ยวคราวนี้ กลับไปต้องทำการบ้านที่สะสมมาหลายวัน

ขอแค่ไม่กลับไป การบ้านก็ไม่ใช่ของเธอ!

เธอไม่อยากกลับบ้าน!

ซู่เป่าพูดอย่างเห็นใจว่า "พี่หานหาน พี่รีบกลับไปเร็วหน่อยดีกว่านะ ยิ่งช้าไปเท่าไหร่การบ้านก็จะเพิ่มขึ้นทุกวันนะ"

หานหาน "ฉันไม่ฟัง!"

ซูเหอเวิ่นพูดว่า "กลับไปตอนนี้ต้องทําการบ้านแค่ของสามวัน กลับช้าหนึ่งวันก็ต้องทําการบ้านเพิ่มหนึ่งวัน"

หานหาน "ตราบใดที่หนูไม่กลับไป หนูก็ไม่มีการบ้าน!"

ทุกคน "..."

เด็ก ๆ ทั้งหลายยังเรียนอยู่ เที่ยวเล่นได้ แต่เที่ยวตลอดเวลาไม่ได้

ผลการเจรจาคือการเดินทางกลับเลย หานหานอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

เวินหรูอวิ๋นมองวิวนอกหน้าต่าง ไม่รู้คิดอะไรอยู่

หมู่บ้านที่ชายชราอยู่ตั้งอยู่ในภูเขาต้าเหลียง ตอนนี้ที่รถขับผ่านไปสิ่งที่เห็นคือกลุ่มภูเขาสูงตระหง่าน

ซู่เป่าแปลกใจ เมื่อกี้ยังเห็นพวกเขาวิ่งลงมาจากไกล ๆ อยู่เลย

มู่กุยฝานกวาดตามองภูเขาต้าเหลียงและหมู่บ้านรกร้างที่อยู่ตรงหน้า

ซูเหอเวิ่นแบกกระติกน้ำเล็ก ๆ มาด้วย เขามองซ้ายแลขวา “ที่นี่ไม่มีคนอาศัยอยู่เหรอ?”

ในหมู่บ้านที่รกร้าง ประตูหลายบานผุพัง

ตรงเชิงเขายังพอดูได้ บ้านเรือนที่อยู่ติดกันหลายหลังดูไม่ได้ทรุดโทรมเท่าไหร่ ประตูปิดอยู่ เมื่อกี้ตอนผ่านไปนึกว่ามีคนอาศัยอยู่ เพียงแต่ออกไปทำงานข้างนอกกันเท่านั้น

เมื่อมาถึงบริเวณไหล่เขา ตรงนี้เป็นเนินราบทอดยาวเข้าไป ดูกระจัดกระจายไม่เป็นระเบียบ ตรงใต้ทางหลวงดูถูกกั้นไว้ แต่พอมาดูตอนนี้จึงพบว่าข้างในยังมีบ้านเรือนอีกหลายหลัง

เพียงแต่ว่าบ้านเรือนเหล่านี้ต่างกําแพงแตกหัก ประตูไม้ทรุดโทรม วัชพืชเถาวัลย์ พันกันยุ่งเหยิง หลายหลังก็พังทลายลงมาครึ่งหลังแล้ว

ซู่เป่ามองไปรอบ ๆ นั่งยอง ๆ แล้วเอียงหัวมองไปที่มุมผนังบ้านต่าง ๆ แล้วพูดว่า มีคนอาศัยอยู่นะ! หลายคนด้วย"

ซูเหอเวิ่น "..."

ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างได้ แล้วสีหน้าของเขาซีดขึ้นมาเล็กน้อยทันที

หานหานกระซิบว่า "ทำไมที่นี่ดูคล้ายกับหมู่บ้านผีสิงในเน็ตเลย"

ซูเหอเวิ่นเข่าอ่อน พูดเสียงเบาว่า "น้องหยุดพูดเลยนะ!"

กู้เซิ่งเสวี่ยหัวเราะเยาะ "คนขี้ขลาด!"

กลัวแต่ก็ชอบเล่น

พวกเขาเดินไปได้ระยะหนึ่ง คิ้วของมู่กุยฝานก็ยิ่งขมวดเป็นปมแน่นขึ้นทุกที

"เพิ่งเห็นเด็กพวกนั้นร้องเสียงดังพากันวิ่งหนีไป ทําไมตอนนี้ถึงหาใครไม่เจอเลย"

ที่นี่มีไอหยินมาก นักพรตมู่ที่พกเชือกดํามาด้วยสามารถมองเห็นบางอย่างที่คนธรรมดามองไม่เห็น

พอเลี้ยวเข้าไปในเส้นทางที่คดเคี้ยวระหว่างบ้านสองหลัง ก็เห็นชายรูปร่างผอมคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้า ชายคนนั้นนั่งอยู่บนวงกบประตูหน้าบ้านของตัวเอง กำลังจ้องมองพวกเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

มู่กุยฝาน "..."

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน