ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 677

ซู่เป่ากระพริบตา

นี่คือการโชว์พาวชัด ๆ เธอรู้ดี!

ซู่เป่าเอียงหน้า “โอ้โห ลุงหก นี่ใช่ไหมที่พ่อหนูเรียกว่าโชว์พาว”

เธอเอาแต่บ่นพึมพำกับลุงใหญ่ ไม่รู้ว่าพ่อไปทำอะไรอยู่ที่ไหน สองวันมานี้แทบจะลืมลูกลืมเต้า

แต่ก่อนจะมาพ่อได้พูดไว้ว่า พวกเขาจะต้องโชว์พาวใส่ลุงหกแน่ ๆ

พ่อยังบอกอีกว่าเขาจะปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่ในตอนท้าย เพื่อให้พวกเขาได้เห็นว่าใครเป็นผู้สนับสนุนลุงหก

ซู่เป่าก็คาดหวังนิดหน่อย แต่ก็ไม่มากนัก...เพราะเธอรู้สึกว่าคนโง่พวกนี้อาจจะไม่รู้จักพ่อ...

ซูจิ่นม่อจูงมือซู่เป่าไม่พูดไม่จา แล้วก็นั่งลงบนโซฟา

ประธานหลี่และรองประธานซุนจ้องตากัน

รองประธานซุนถาม “เสี่ยวซู พวกเราเรียกคุณมาก็เพื่อที่จะถามเรื่องข้อเสนอของพวกเราที่ให้ไว้กับคุณเมื่อสองวันก่อน คุณคิดไปถึงไหนแล้ว”

ซูจิ่นม่อพูดอย่างเยือกเย็น “ผมไม่ต้องการเงินร้อยล้าน”

ประธานหลี่และรองประธานซุนได้ยินคำนี้ภายในใจก็หนักอึ้งขึ้นมาทันที

ประธานหลี่เริ่มไฟสุมอก โง่จริง ๆ ไม่รู้จักเกรงกลัวอะไรเลย

ทว่าคำพูดถัดไปของซูจิ่นม่อทำให้พวกเขาตกตะลึงอีกครั้ง

ซูจิ่นม่อพูดว่า “ผมให้มนุษย์เสมือนจริงคุณได้ แต่ไม่ใช่เถียนเถียน เธออยู่กับผมมานานมาก ถ้าจะเอาตัวนี้เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก”

ประธานหลี่หรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนจะลองถามว่า “คุณยังมีมนุษย์เสมือนจริงตัวอื่นอีกงั้นเหรอ”

ซูจิ่นม่อพยักหน้า “เพื่อจะวิจัยและพัฒนาเถียนเถียน แน่นอนว่าจะต้องทำมาหลายแบบ ผมมีมนุษย์เสมือนจริงสามตัว หนึ่งในนั้นใกล้เคียงกับเถียนเถียน อีกตัวหนึ่งตั้งค่าเป็นคนสมัยโบราณแต่ยังไม่ฉลาดพอ ตัวสุดท้ายเป็นเด็กกำลังรอรับการพัฒนา ถึงแม้จะไร้เดียงสา แต่สติปัญญาก็สามารถพัฒนาไปถึงระดับเด็กปกติได้”

ประธานหลี่และรองประธานซุนตกตะลึงไปตาม ๆ กัน

เดิมทีคิดว่าซูจิ่นม่อทำมนุษย์เสมือนจริงออกมาได้หนึ่งตัวก็เก่งมากแล้ว ไม่คาดคิดเลยว่าเขายังซ่อนไว้อีกสามตัว!

ไม่สิ ถ้าเขากล้าที่จะเสนอสามตัวนี้เป็นการแลกเปลี่ยน นั่นหมายความว่าเขาต้องมีอีก

ทว่าแค่สามตัวก็ไม่เลวแล้ว...ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริงจะต้องทำเงินให้พวกเขาได้อย่างมหาศาล!

เพิ่มราคาเป็นสองร้อยล้านก็ใช่ว่าจะไม่ได้...

ซู่เป่านั่งอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ มองพวกผู้ใหญ่ที่เต็มไปด้วยความโลภอยู่ภายในดวงตาอย่างเห็นได้ชัด

เพียงแต่ลุงหกบอกไว้ว่า เธอเพียงแค่นั่งเฉย ๆ ก็พอแล้ว!

ตอนท้ายสุดพอพวกผี ๆ ออกมาเธอถึงค่อยลงสนาม

ดังนั้นซู่เป่าเลยนั่งนิ่ง ๆ อย่างเชื่อฟัง มองเห็นลูกอมอยู่บนโต๊ะด้านหน้าโซฟา ก็เอื้อมมือไปหยิบโดยไม่รู้ตัว (เวลาไปที่บริษัทของลุงใหญ่จะมีลูกอมเตรียมให้เธอเสมอ)

แต่จู่ ๆ เธอก็นึกได้ว่ากินมันไม่ได้ ลูกอมพวกนี้คนโง่เป็นคนเตรียมมา ถ้ามันมียาพิษล่ะ แล้วถ้าเกิดกินไปแล้วกลายเป็นคนโง่จะทำยังไงล่ะ

ดังนั้นเธอจึงชักมือกลับมา

ประธานหลี่แหละรองประธานซุนเห็นเข้าพอดี

ใจที่คอยระวังของพวกเขาก็โล่งใจขึ้นมาทันที

เดิมทียังกังวลใจว่าซูจิ่นม่อจะมีคนหนุนหลังไหม

แต่เด็กน้อยโกหกไม่เป็น ดูเจ้าเด็กคนนี้สิ ทำท่าทีเหมือนไม่เคยเห็นโลก พอเห็นลูกอมก็จะหยิบ แต่สุดท้ายก็ชักมือกลับด้วยความอาย

มีแต่พวกที่มาจากสถานที่เล็ก ๆ และไม่เคยเห็นโลกกว้างเท่านั้นแหละที่จะขี้อายแบบนี้

ดังนั้นเรื่องมนุษย์เสมือนจริงก็สามารถกลั่นแกล้งซูจิ่นม่อได้ !

ความโลภจนหน้ามืดตามัวกำลังนำพาให้พวกเขาก้าวเข้าสู่กับดัก...

เหมือนที่คิดไว้ไม่มีผิด เป็นเด็กที่ไม่เคยเห็นโลกจริง ๆ สินะ ไม่มีกาลเทศะพูดแทรกคนอื่นระหว่างสนทนา หากมาจากครอบครัวที่มีคนหนุนหลังคงไม่สามารถสอนเด็กแบบนี้ออกมาได้

พวกเขาก็ยิ่งวางใจขึ้น

ประธานหลี่ยืนกราน “เราคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล และไม่มีทางที่จะเจรจาเงื่อนไขนี้ได้ !”

ของในห้องปฏิบัติการแม้แต่เงินก็ซื้อไม่ได้ ซูจิ่นม่อมีสิทธิ์อะไรทำไมต้องยอมให้เขาคัดลอกด้วยล่ะ นี่ไม่ต่างจากการปล้นเงินกันซึ่ง ๆ หน้าเลยนะ

ใบหน้าของซูจิ่นม่อเย็นชาแข็งกร้าวไม่เปิดโอกาสให้เจรจาแม้แต่น้อยเลย

เขากอดอกแล้วพูด “ไม่สมเหตุสมผลตรงไหนล่ะ พวกเราวิจัยมันออกมาด้วยตัวเอง พวกคุณเพิ่งจะมากลางคัน ดังนั้นพวกคุณเองแหละที่ไร้เหตุผล!”

“พวกคุณออกเงินไปเท่าไหร่กัน จะมาครอบครองศูนย์วิจัยที่ได้รับการวิจัยจากรุ่นสู่รุ่นกันมานานกว่ายี่สิบปี ใครกันแน่ที่ไม่สมเหตุสมผลน่าจะรู้อยู่แก่ใจ”

ซู่เป่า “ใช่ ๆ หนูแนะนำให้พวกคุณไปหัดท่องพวก ABC กับเรียนคณิตศาสตร์ขั้นสูงบ้างนะ”

น่าสงสารจริง ๆ พวกไม่มีการศึกษา ไม่เหมือนพี่เหอเวิ่นที่รู้คณิตศาสตร์ทุกประเภทและเข้าใจตรรกศาสตร์เป็นอย่างดี

ประธานหลี่ “…”

รองประธานซุน “…”

แม้เป็นจะเรื่องจริงแต่มันก็น่าหงุดหงิด

ประธานหลี่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “พูดจาน่าเกลียดเกินไปแล้ว จะมาเรียกว่าครอบครองได้ยังไง พวกเราร่วมมือกันวิจัยพัฒนาก็เพื่ออุทิศให้แก่ประเทศชาติและสร้างความสุขให้กับมวลมนุษย์!”

รองประธานซุนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากการร่วมลงทุนก็เท่ากับการที่กลุ่มเราให้เงินห้องปฏิบัติการ และเป็นแบ็คให้ห้องปฏิบัติการ...มาพูดได้ยังไงว่าเราครอบครองมัน พวกเราหาคนมีพรสวรรค์มากมายมาให้กับห้องปฏิบัติการ ทุกคนก็ทำงานเพื่อส่งเสริมโครงการเครื่องพิมพ์หินอียูวีร่วมกัน”

ซูจิ่นม่อไม่อยากจะเถียงกับเขาเรื่องนี้

ไร้ยางอายจริง ๆ ทำเป็นพูดจาว่าตัวเองสูงส่ง

ซู่เป่าแอบทอดถอนใจด้วยความหดหู่ ถึงแม้ซู่เป่าจะฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็พอจับใจความได้ว่าพวกเขานั้นไร้ยางอายมาก...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน