ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 72

ซู่เป่าแรงเยอะมาก ลากซูเหอเวิ่นวิ่งตัวปลิวไปแล้ว

พระอาทิตย์ที่ร้อนแรงบนฟ้ายังคงส่องแสงแผดเผาอยู่ที่กลางหัว ต้นไม้ในป่าของโรงเรียนสูงชะลูดบดบังท้องฟ้า

ซูเหอเวิ่นเพิ่งจะเหยียบเข้าไปในป่า ก็เห็นเสวี่ยเอ๋อร์อยู่ไม่ไกล เธอยืนโค้งตัวเล็กน้อยแขนสองข้างก็ห้อยต่องแต่ง

เห็นเขาเข้ามา เธอก็ค่อย ๆ เงยหน้าจ้องมาที่เขา

ซูเหอเวิ่นรู้สึกหนาวเย็นขนลุกซู่ซ่าไปทั้งตัว

ซู่เป่าหันหน้ากลับไปถาม

“พี่กลัวใช่ไหม หรือว่าพี่จะกลับไปก่อน”

ซูเหอเวิ่นที่กำลังคิดว่าจะหันหลังกลับ ดันกัดฟันพูด

“...ตลกน่า ฉันเนี่ยนะกลัว”

ตั้งสติ เขาต้องตั้งสติ

บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่จะมาหลอกเขาได้

กำลังคิดอยู่ จู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่ามีเสียงกรีดร้องดังมาจากที่ไหน “อ๊า”

ซูเหอเวิ่นกระโดดขึ้นมาทันควัน

“อ๊า อ๊า อ๊า!”

ซู่เป่าตกใจ รีบดึงแขนซูเหอเวิ่นที่กำลังจะวิ่งหนี

“พี่ นั่นเสียวอู่!”

ได้ยินแค่เสียวอู่ที่อยู่ในกระเป๋ากำลังร้องเพลง

“…มือซ้ายชี้พระจันทร์ มือขวานั้นหยิบด้ายแดง... เธอกับฉัน... อ๊าอ๊าอ๊า...”

เนือกจากร้องเสียงสูงไม่ได้ ท่อน อา อ๊า อา อ่า อา ก็เลยเปลี่ยนเป็นเสียงแหลมแทน

“......”

เขาแหงนหน้าน้ำตาจะไหล

ขณะนั้นเสวี่ยเอ๋อร์ก็เดินเข้ามา ย่างก้าวไม่ค่อยจะมั่นคง ราวกลับว่ากำลังเขย่งเท้า

“พี่เหอเวิ่นก็มาด้วย” เสวี่ยเอ๋อร์ยิ้มแหย ๆ

“……”

น้ำตาที่ไหลตอนแหงนหน้าเมื่อครู่เหือดหายไป กลับแทนที่ด้วยอาการขนลุกชูชัน

เสวี่ยเอ๋อร์หน้าตาซีดเซียว เบ้าตาลึกลงไป ใต้ตาปรากฏสีเขียวอมดำ

หน้าตาแข็งทื่อ แต่ดันยิ้มออกมาเสียอย่างนั้น ทำเอารู้สึกเย็นยะเยือกไปตาม ๆ กัน

ซูเหอเวิ่นชาไปทั้งตัวแล้ว “เธอ...”

ซู่เป่ายืนบังด้านหน้าของซูเหอเวิ่น ขมวดคิ้ว “มีปัญหาอะไรก็มาหาหนู อย่าหลอกพี่หนู!”

หน้ากลมกลมของเจ้าแก้มก้อน ที่ปกติเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ตอนนี้กลับหน้าตาขึงขังจริงจัง

“อาจารย์...อาจารย์” ซู่เป่าหันหน้ามองหาท่านอาจารย์

ท่านอาจารย์ล่ะ

จี้ฉางลอยเข้ามาจากด้านนอก “มาแล้วจ้า”

ชายสวมชุดสีขาว ดวงตาสุขุมลุ่มลึก จมูกโด่งเป็นสัน ริมผีปากแดงระเรื่อ มีกลิ่นไอของความชั่วร้ายทว่าพราวไปด้วยเสน่ห์

“จะตะโกนเรียกทำไม หืม” จี้ฉางเดินมาแบบไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง พลางลูบที่หัวของซู่เป่า

ซู่เป่าหันหน้าไปดูด้วยความงุนงง

“ท่านอาจารย์เป็นอะไรเนี่ย”

ตอนที่เธอถูกลงโทษให้ยืน เธอก็อยากให้ยืนด้วยกัน แต่ท่านอาจารย์บอกว่าน่าเบื่อ หนีไปเดินเล่นในโรงเรียน

ตอนเข้าเรียนก็กลับมาแว๊บเดียว แล้วก็ออกไปอีก

เมื่อกี้ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาคน เอ้ย ไม่เห็นแม้แต่เงาผี

ทว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ ซู่เป่าเงยหน้าไปถามอาจารย์

“ท่านอาจารย์ เสวี่ยเอ๋อร์เป็นอะไร” เจ้าแก้มก้อนสงสัยมาก

ตามที่ท่านอาจารย์เคยสอนเขา ผีจองหองยังไม่น่าจะยึดร่างของเสวี่ยเอ๋อร์ได้นี่นา

ทว่าตอนนี้ซู่เป่าไม่รู้สึกแม้แต่น้อยว่านี่ยังคือเสวี่ยเอ๋อร์

จี้ฉางหรี่ตามองไปที่เสวี่ยเอ๋อร์ ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ “นี่คือผีสิง”

“ผีอำกับผีสิงต่างกันแค่คำเดียว แต่กลับไม่เหมือนกันเลย ผีอำเพียงส่งผลกระทบต่อเจ้าของร่าง แต่ผีสิงคือผีที่พยายามจะช่วงชิงการควบคุมเจ้าของร่าง แต่ไม่ถึงกับควบคุมร่างได้ทั้งหมด”

ซู่เป่าพยักหน้า “อ๋อ นี่ก็คือผีสิงนี่เอง”

ซูเหอเวิ่นถามหน้าซีด “อะ อะไรเรียกว่าผีสิง”

เจ้านักวิทยาศาสตร์น้อยคนนี้ปกติจะสุขุมเยือกเย็นเจ้าตรรกะ แต่ในเวลานี้กลับมีท่าทีเหมือนกับเด็กผู้ชายทั่วไป

ซู่เป่าเข้าใจสิ่งที่จี้ฉางอธิบายเมื่อครู่ “ผีสิงไง พี่ดูนั่นสิ...”

เธอชี้ไปที่เท้าที่กำลังเขย่งอยู่ของเสวี่ยเอ๋อร์

“ผีสิงก็คือผีที่ควบคุมร่างกายของเจ้าของเดิม ตอนนี้ข้างหลังของเสวี่ยเอ๋อร์มีผีอยู่ตนหนึ่ง มันยืนเกาะอยู่ด้านหลังของเสวี่ยเอ๋อร์ แถมยังเอาเท้าของเสวี่ยเอ๋อร์เหยียบลงบนเท้ามัน มันใช้ท่านั้นควบคุมการเดินของเสวี่ยเอ๋อร์...”

นัยน์ตาจี้ฉางปรากฏความทะเล้นขึ้นมา “ซู่เป่า โยนมัน!”

“ได้ค่ะ อาจารย์!”

เธอพูดไปพลางก็หันหน้าไปมองอีกคน “พี่ ปล่อยซู่เป่าก่อน”

ด้านของซูเหอเวิ่นตอนนี้ยืนเอ๋อไปแล้ว

ซู่เป่าโยนผีออกไป เสียงดังตุ้บ ร่างขนาดมหึมาก็ค่อย ๆ ขยายขึ้นไปอีกราวกับว่าเป็นผีนักซูโม่ปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเขา

“!!!”

เขา เขาเจอผีอีกแล้วเหรอ!

ขณะที่ซู่เป่ากำลังแกะมือเขาออก ซูเหอเวิ่นก็ยืนขาสั่น ถึงขนาดที่ต้องเกาะต้นไม้ข้างๆเพื่อให้ยืนมั่นคงขึ้น

เงยหน้าขึ้นมาอีกที ก็เห็นผู้ชายสวมชุดขาวหน้าซีด ๆ ปากแดง ๆ นั่งอยู่ข้างต้นไม้ แถมไม่มีเท้าอีกต่างหาก

พอเห็นเขามอง ชายคนนั้นก็หันหน้ามาถาม “เห็นข้าด้วยเหรอ”

“อ่ะ อ่ะ อ่า”

แววตาจี้ฉางปรากฏความสับสนในนั้น เพียงดีดนิ้ว ผ้ายันต์สีเหลืองที่ลอยมาจากไหนไม่รู้ก็มาปิดที่ปากของซูเหอเวิ่นแล้ว

“อืม...อย่าดัง ดูเงียบ ๆ”

ผีจองหองถูกซู่เป่าโยนออกไป แม้เป็นผีแต่ก็ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก

มันถูกเด็กน้อยสี่ขวบโยนจนตัวลอย

ผีจองหองลุกขึ้นมา จ้องไปที่ซู่เป่า

“เจ้าเป็นตัวอะไรกันแน่”

ซู่เป่ารีบแก้ตัว “หนูเป็นคนไม่ได้เป็นตัวอะไร เอ้ยไม่สิ หนูเป็นคน หรือเป็นตัว เอ้ย ก็ไม่ถูก”

หลังจากเจ้าแก้มก้อนพูดเสร็จก็พบว่าตัวเองพูดผิด ๆ ถูก ๆ ทันใดนั้นก็รีบมองไปที่ผีจองหอง พลางทำแก้มป่อง

ผีจองหองหัวเราะเยาะ “หึ เจ้าตัวกะเปี๊ยกโกรธแล้วเหรอ”

ร่างเล็กเดือดดาล

“แกนั่นแหละเป็นตัวอะไร ทั้งบ้านแกนั่นแหละเป็นตัวอะไรกันแน่!”

ทันใดนั้นเจ้าแก้มก้อนก็จับเท้าของเจ้าผีจองหอง ทุ่มทิ้งราวกับกระสอบเสียงดังปึ้งปั้ง

ผีจองหอง “......”

“? ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน