ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 763

มู่กุยฝานคีบกับข้าวให้ซู่เป่าแล้วพูดว่า “รีบกินสิ กินแล้วให้พี่เหอเหวินสอนหนูเรียนตัวอักษร”

ซู่เป่าผงกศีรษะแรง ๆ “ค่ะ!”

เธอเทน้ำผลไม้ให้ซูเหอเหวิน “พี่เหอเหวิน รบกวนด้วยนะคะ”

ซูเหอเหวินเห็นใบหน้าเล็ก ๆ ทำท่าเท่เย็นชาแล้วยกแก้วน้ำจิบคำหนึ่ง แต่ขณะกำลังจะพูด

ซู่เป่าพูดขึ้นอีก “หนูจะเรียนอักษรจีนตัวเต็มทั้งหมดในวันเดียวค่ะ!”

“แค่ก...”

ซูเหอเหวินสำลักน้ำผลไม้ทันที

“ทั้งหมดหนึ่งแสนกว่าตัว ถึงจะเป็นอักษรตัวเต็มที่ใช้บ่อย ๆ ก็ต้องสองสามพันตัว...จะเรียนทั้งหมดในหนึ่งวันได้ยังไง”

ซู่เป่าทำหน้าเครียด กินคำโตกร้วม ๆ

ต้องโทษเธอ เมื่อก่อนใช้ชีวิตสบายเกินไป

ไม่คิดจะเรียนหนังสือ

ดูสิ พอถึงเวลาที่ต้องใช้ก็รู้สึกว่าเรียนมาน้อยเกินไป!

ซู่เป่ากินไม่กี่คำก็กินหมด ลากซูเหอเหวินที่เพิ่งวางตะเกียบอย่างสง่าวิ่งแจ้นขึ้นชั้นบน

ซูเหอเหวิน “??”

ซู่เป่า “เรียน! เรียน! หนูจะเรียน!”

ปิดประตูห้องดังปัง

หานหานตาโตอ้าปากค้าง ถามด้วยความห่วงใย “พ่อคะ น้องหนูไม่เป็นไรใช่ไหม”

มีคนชอบเรียนขนาดนี้ด้วยเหรอ ไม่ปกติแน่

ซูจื่อหลินค่อย ๆ พูด “ลูกคิดว่าทุกคนจะเหมือนลูกหรือยังไง”

ซูเหอเวิ่นพูด “ไม่ตั้งใจเรียน ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ตั้งใจเรียน ถึงให้หนังสือเทพสอนว่าจะขึ้นสวรรค์ยังไง เธอก็ทำไม่ได้อยู่ดี”

“ดังนั้น ขนาดซู่เป่ายังเริ่มเรียนแล้ว เธอทำการบ้านเสร็จหรือยัง”

หานหานทำการบ้าน เขียนหนึ่งบรรทัด ยืดยาดทั้งเช้าก็ยังเขียนไม่เสร็จ การบ้านยิ่งพอกก็ยิ่งเยอะ

พอได้ยินดังนั้นเธอก็ทำให้บูด...

นายหญิงซูบ่น “พวกแกทำงานอยู่ทางนี้หมด ไปอำเภอหงไม่ได้แน่ ๆ ถ้าซู่เป่าย้ายไปเรียนที่นั่น ก็ให้พวกเราแก่ ๆ สองคนไปจะดีกว่า”

งานของซูซื่อกรุ๊ปอยู่ในเมืองจิงหมด ไม่ว่าจะเป็นงานในประเทศหรืองานกับต่างประเทศก็ขยายอยู่ในเมืองจิง

อำเภอหงเป็นสถานที่เล็ก ๆ ไม่ใช่ศูนย์กลางเศรษฐกิจ ไม่มีเครือข่ายเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว ซูอีเฉินต้องอยู่ที่เมืองจิงแน่นอน

ซูอีเฉินพยักหน้าเงียบ ๆ “ครับ”

งานของซูจื่อหลินกับซูอิ๋งเอ่อร์ก็อยู่ที่เมืองจิงเหมือนกัน โรงพยาบาลที่ซูอี้เซินทำงานก็เป็นระบบเอกชน ลุงพวกนี้ตามไปด้วยไม่ได้แน่นอน

มู่กุยฝานไปได้ แล้วเขายังต้องไปแน่นอนด้วย เพราะนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใครเป็นกองหนุนที่ดีที่สุดของซู่เป่าได้

นายหญิงซูต้องไปแน่นอน ซู่เป่าอยู่ที่ไหน เธอก็จะไปทำกับข้าวให้ซู่เป่าที่นั่น

ถึงเธอจะอายุมากแล้ว หันหลังให้บ้านเกิดเมืองนอนไม่ค่อยเหมาะสม แต่เพื่อหลานสาวสุดที่รัก เธอไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว

เพราะเรื่องที่เธอทำได้ก็มีแต่การทำอาหารให้ซู่เป่า...

ยามดึก ซู่เป่าที่นอนไม่สนิทลืมตาขึ้นพรึบ

เธอฝันว่าหลอดไฟวิญญาณของท่านอาจารย์ดับสนิทแล้ว

ซู่เป่ายังอุ้มหลอดไฟวิญญาณอยู่ในมือ ชะโงกหน้าเข้าไปหาแล้วพูดเบา ๆ “ท่านอาจารย์ขา...”

แต่ครั้งนี้ ไม่มีใครตอบเธอ

ซู่เป่ากรอบตาแดง กระซิบ “ท่านอาจารย์...”

-----------------------------------------

ถ้าเป็นอย่างนั้น ยังมีคนอีกเยอะแยะนี่

จี้ฉางคนเดียวไม่ได้ เขาก็ส่งมู่กุยฝานไปลงนรกอีกคน

มู่กุยฝานคนเดียวไม่พอ งั้นก็ส่งคนตระกูลซูลงนรกทีละคน...

คนเยอะออกอย่างนี้ เธอต้องสติแตกเข้าสักวัน!

ตูซื่อหวังยิ่งคิดก็ยิ่งเบิกบานใจ อารมณ์ผ่อนคลายมาก

จ้วนหลุนหวังขมวดคิ้ว “จะวางหมากไปเรื่อยไม่ได้ จะผิดกฎฟ้าดิน ครั้งนี้เจ้าเสี่ยงเกินไปแล้วกระมัง”

ตูซื่อหวังเห็นต่าง “ข้าแค่ผ่านทาง ไม่ทันระวังชายเสื้อไปถูกกับยันต์ของมนุษย์ผู้นั้นเฉย ๆ ที่กุญแจทองระเบิดก็หาใช่ความประสงค์ของข้าไม่”

ยมบาลไปตรวจตราบนโลกมนุษย์ได้ เขาแค่ไปสัมผัสความทุกข์ร้อนของมนุษย์ มันอยู่ในกฎ

เพียงแต่ตอนที่ผ่านทางมาไม่ทันระวัง แตะต้องโดนต้นไม้ใบหญ้า กระดาษที่ปลิวว่อน นี่ก็อยู่ในกฎเหมือนกัน

จ้วนหลุนหวังมองเขา ในใจลังเลสงสัยมาก

ตูซื่อหวังอาศัยช่องโหว่ของกฎ และเป็นช่องโหว่ที่เสี่ยงมากด้วย

คนผู้นี้บ้าบิ่นเกินไป ทั้งยังดื้อรั้นเอาแต่ใจ อยู่ฝ่ายเดียวกับเขายังไม่แน่ว่าจะถูกเขาทำให้เดือดร้อนไปด้วย

ในใจจ้วนหลุนหวังบังเกิดความระแวดระวัง พยักหน้าพูด “แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ข้ายังขอเตือนเจ้าสอดมือให้น้อยหน่อย จักรพรรดิเฟิงตูจะกลับมาแล้ว ไม่แน่ว่าจะเชื่อคำพูดฝ่ายเดียวของเจ้า...”

ตูซื่อหวังพูดอย่างไม่ยี่หระ “หมื่นปีจักรพรรดิเฟิงตูยังไม่แน่ว่าจะกลับมาสักครั้ง ขุมนรกเล็ก ๆ อย่างนี้ เขาหรือจะมีเวลาว่างมาดูแล”

ผู้แข็งแกร่งที่สุด ไม่ใส่ใจกับการช่วงชิงอำนาจเล็ก ๆ อย่างนี้หรอก

ก็เหมือนกับมนุษย์ที่ไม่แทรกแซงการทะเลาะวิวาทของมด ไม่ทวงคุณธรรมให้มด ตัดสินถูกผิดดำขาว...

จักรพรรดิเฟิงตูไม่ได้ว่างงาน

ตูซื่อหวังรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นที่จะกังวล นอกเสียจากจักรพรรดิเฟิงตูจะมีความเกี่ยวข้องกับซู่เป่า ไม่อย่างนั้นถ้าจักรพรรดิเฟิงตูมายุ่งเรื่องหยุมหยิมอย่างนี้ เขาจะเด็ดหัวมาให้ซู่เป่าเตะเป็นลูกบอลเลย!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน