ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 791

ผีขี้อิจฉาอยู่ในนรกไปไม่รู้นานขนาดไหน…

จนภายหลังโชคดีจึงสามารถหนีออกมาได้

ผีหลายใจด่า “สมน้ำหน้า!”

ซู่เป่าก็ด่าด้วย “สมน้ำหน้า!”

ผีขี้อิจฉารู้สึกไม่แฟร์ “ฉันสมควรโดนก็จริง แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของฉันทั้งหมดสักหน่อย! ใครให้พวกเขาเอาหลานชายมาอวดอยู่ต่อหน้าฉันทุกวันล่ะ?”

“ใครให้ตระกูลหลิวของพวกเราซวยขนาดนี้ ลูกสะใภ้ทั้งสี่คนทั้งเก่าทั้งใหม่ไม่มีสักคนที่สามารถให้กำเนิดหลานชายได้เลย?”

แถมสะใภ้รองยังฟ้องเขาด้วย นี่มันตั้งใจชัดๆ!

เธอเห็นฉันพาเด็กข้างบ้านออกไปตั้งแต่แรกแล้วทำไมเธอถึงไม่มาห้ามฉัน!

ยังบอกอีกว่าเธอไม่รู้ว่าเขาจะกล้าทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ได้ลงคอ พอหลังเกิดเรื่องเธอก็หนีไปทันที คงจะร้อนตัว

“ลูกสะใภ้รองของฉันต้องตั้งใจอยากให้ฉันพาเด็กข้างบ้านออกไปแน่ๆ ไม่มาห้ามฉันแล้วยังจะมาแก้แค้นฉันอีก!”

“ตอนนั้นฉันก็ยิ่งอารมณ์เสียอยู่ด้วยก็เลยอารมณ์ชั่ววูบทำแบบนั้นลงไป”

“แต่ถ้าสะใภ้รองมารั้งฉันไว้ไม่ให้ทำ ฉันก็คงไม่มีทางทำเรื่องวู่วามแบบนั้นหรอก”

ซุ่เป่า “…”

ผีทั้งหลายหมดคำจะพูด

ตัวเองทำเรื่องบ้าๆ แบบนั้นเองแล้วยังจะไม่สำนึก แถมยังเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของคนอื่น!

“แกตายๆ ไปซะดีกว่า!” ผีดวงซวยด่ากราด

ชายชราผีคลั่งรักก็ระบายความขุ่นเคืองว่า “เพื่อนบ้านมายั่วยุแกหรือไง? ก็ไม่นี่เขาก็ไม่ได้อุ้มมาอวดต่อหน้าแก เขาก็แค่อุ้มแล้วเดินเล่นในหมู่บ้านเฉยๆ ทำไมถึงกลายเป็นการอวดได้ล่ะ!”

ผีขี้อิจฉาเล่นลิ้น “ก็ต้องเป็นการอวดอยู่แล้วสิ ไม่งั้นก็คงอยู่แต่ในบ้าน จะอุ้มไปทั่วหมู่บ้านแล้วไปบ้านคนโน้นทีบ้านคนนั้นทีทำไมล่ะ?”

“ใครไม่รู้บ้างว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านฉัน?”

“พอเดินไปทั่วแบบนี้ คนอื่นก็ต้องเอาบ้านเขามาเปรียบเทียบกับบ้านฉันอยู่แล้ว และบอกว่าตระกูลหลิวของเราไม่สามารถให้กำเนิดหลานชายได้!”

ผีทั้งหลายหมดคำจะพูด มู่กุยฝานก็เช่นกัน

แบบนี้ก็ได้เหรอ!

ไม่อยากพูดกับเขาต่อแล้ว

เมื่อจิตใจของคนเราเป็นแบบนั้นไปแล้วก็ยากที่จะกล่อมเกลาให้กลับเนื้อกลับตัวด้วยคำพูดดีๆ

อีกทั้งจะกลับเนื้อกลับตัวก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เด็กก็อยู่ของเขาดีๆ กลับต้องถูกฆ่าตายทั้งเป็นเพราะความอิจฉาของเขา

มู่กุยฝานเอ่ย “เพราะฉะนั้นกลับมาพูดถึงประเด็นสำคัญ แกเปลี่ยนจากอายุหกสิบเจ็ดสิบเป็นอายุสี่สิบได้ยังไง?”

เขาพูดเสริมอีกว่า “อย่าบอกฉันว่าผีสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวเองได้!”

โดยปกติคนเราหลังจากตายแล้วกลายเป็นผีก็จะมีสภาพเหมือนตอนก่อนตาย อาจจะไม่ใช่สภาพที่น่าสังเวชเหมือนตอนตาย แต่อย่างไรก็ตามก็จะต้องมีอายุเหมือนก่อนตายแน่นอน

มีผีจำนวนน้อยเท่านั้นที่มีความปราถนาหรือความหมกมุ่นอย่างลึกซึ้งที่ความทรงจำของพวกเขาจะหยุดอยู่ที่เวลาๆ หนึ่ง และหลังตายพวกเขาก็จะมีสภาพเหมือนในเวลานั้นๆ

แต่ผีขี้อิจฉานั้นไม่ใช่แน่นอน

ในตอนแรกผีขี้อิจฉาก็อยากจะหาข้ออ้างแก้ตัวแต่พอมองเห็นสายตาของมู่กุยฝานที่ดูเข้าใจทุกอย่างก็เลยพูดอะไรไม่ออก

“คือว่าฉัน…ตอนที่ฉันออกมาฉันได้ทะลุผ่านที่ๆ หนึ่ง พอออกมาปุ๊บก็กลายเป็นแบบนี้เลย จริงๆ นะ!”

กลัวว่าทุกคนจะไม่เชื่อ ผีขี้อิจฉาก็เลยเน้นย้ำอีกครั้ง “ที่ตรงนั้นมันดูสบายมาก ถ้าไม่ได้เป็นเพราะตอนนั้นฉันรีบจะออกมา ฉันก็คงจะหยุดแล้วมองดูดีๆ”

แต่เขาก็ได้ทำสัญลักษณ์ไว้แล้ว

เหยาหลิงเยว่อุ้มซู่เป่าขึ้นมา…

มู่กุยฝานเห็นรอยขีดข่วนบนก้อนหินก็เลยรีบหยุดแล้วจับมือซู่เป่าไว้แน่น

“ซู่เป่า รอก่อน!”

เขาชี้ไปข้างหน้า “ผ่านรอบขีดข่วนนี้ไปก็จะเป็นโลกหลังความตายแล้ว”

ซู่เป่าส่ายหัว “ไม่ใช่นะพ่อ หลังผ่านรอยขีดข่วนนี้ไปยังต้องเดินไปอีกสักพักถึงจะถึงโลกหลังความตาย”

มู่กุยฝานอึ้ง ขมวดคิ้ว

ยังไม่ถึงโลกหลังความตายอีกเหรอ?

เขาคิดมาตลอดว่าถ้าผ่านตรงนี้ไปก็จะเป็นโลกหลังความตาย!

“คราวที่แล้วพ่อเดินมาถึงตรงนี้ก็ขาดการติดต่อกับลูกไป”

เขาอึ้งไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “เพราะฉะนั้นระหว่างโลกหลังความตายและโลกมนุษย์ที่เห็นว่ามีระยะห่างที่ว่างเปล่า ก็น่าจะเป็นพื้นที่สีเทา”

จุดตัดของทั้งสองภพก็มักจะมีพื้นที่สีเทาอยู่เสมอ

ดินหยินหยาง…ก็คือดินที่อยู่ที่ทั้งโลกและยมโลก หรือว่ามันจะอยู่ตรงนี้?!

“จริงๆ แล้วดินหยินหยางอาจจะไม่ได้อยู่ในโลกหลังความตาย แต่อยู่ในพื้นที่สีเทา!” มู่กุยฝานคาดเดา

พอซู่เป่ารู้ตัวอีกทีจู่ๆ ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที!

ดินหยินหยาง !

ท่านอาจารย์รอดแล้ว!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน