ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 798

ซู่เป่ารู้สึกว่าตัวเองยังต้องอ่านหนังสืออีกเยอะ

เธอเข้าไปอยู่ใกล้ๆ ผีขี้ขลาดแล้วตั้งใจอ่านตามเขา

“แมวสื่อวิญญาณคืออะไร ดำรงอยู่ในโลกมนุษย์หรือว่าโลกหลังความตาย?”

ผีขี้ขลาดชี้ไปที่หน้านี้แล้วตอบ “พวกมันไม่ได้ดำรงอยู่ในโลกมนุษย์หรือว่าโลกหลังความตาย แต่ว่าจะเป็นผู้ส่งสารที่ท่องไปมาระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตาย”

“มีข่าวลือว่าเมื่อถึงวันที่สิบห้าในเดือนกรกฎาคมหรือวันเปิดประตูผีก็จะมีผีบางตัวที่ไม่ยอมกลับไปโลกหลังความตายอีก หรือมีผีหลายตัวที่หนีไป…รวมถึงเมื่อโลกไม่สงบสุขหรือสงครามยืดเยื้อก็จะมีวิญญาณที่ตายแล้วจํานวนมากที่หนีการจับกุมของยมทูต…”

“เมื่อถึงเวลานี้ทีไรก็จะมียมทูตไม่พอทุกที เพื่อรักษาความมั่นคงของโลกมนุษย์ พญายมก็เลยจัดสรรให้แมวดำฝูงหนึ่งมาช่วยยมทูตจับผีที่พเนจรอยู่ในโลกมนุษย์กลับมา”

เพราะฉะนั้นเดิมทีแมวดำก็คือแมวในโลกมนุษย์ แต่พอได้รับคำสั่งจากพญายมก็เหมือนกับว่ากลายเป็นยมทูตครึ่งหนึ่งและถูกเรียกว่าผู้ส่งสารจากนรก

ตั้งแต่สมัยโบราณแมวก็ค่อนข้างเป็นตำนานอยู่แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมวดำ พวกตำนานที่ว่าแมวดำกระโดดข้ามศพแล้วศพนั้นจะลุกขึ้นมากลายเป็นผีดิบอะไรพวกนี้ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อยเลย

“ในการสืบพันธุ์ที่ยาวนาน ตระกูลแมวสื่อวิญญาณก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และก็มีหลากหลายสายพันธุ์อุดมสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่มีแมวดําเท่านั้น แต่ยังมีสายพันธุ์อื่นๆ อีกด้วย…เพียงแต่ว่าแมวดําจะยังคงเป็นราชาของแมวประหลาดนี้และปกครองโลกสีเทานี้ทั้งหมดอยู่”

พอผีขี้ขลาดอ่านถึงตรงนี้ก็ชี้ไปอีกบรรทัด

“โลกสีเทาก็คือที่ๆ พวกเราเพิ่งผ่านมาซึ่งอยู่ระหว่างโลกมนุษย์และโลกหลังความตาย เป็นพื้นที่สีเทาที่อยู่นอกกฎ”

“แมววิญญาณที่มีคุณูปการและถูกฝึกฝนมาอย่างดี ยังสามารถกลายเป็นมนุษย์และเข้าสู่หนทางมนุษย์ได้ โดยที่ไม่ต้องเป็นสัตว์เดรัจฉานอีกต่อไป”

เพราะฉะนั้นพวกแมววิญญาณก็คงไม่อยู่เฉยๆ ต้องพยายามรักษาโลกมนุษย์ให้มั่นคง

พญายมให้พวกแมววิญญาณเฝ้าอยู่ในพื้นที่สีเทาแห่งนี้และก็หมายถึงให้รักษาช่องโหว่ของกฎด้วย เพราะฉะนั้นแมวสื่อวิญญาณจึงเป็นผู้พิทักษ์ของโลกสีเทา

มีวิญญาณหรือคนเป็นๆ น้อยมากที่สามารถข้ามผ่านพื้นที่แห่งนี้เพื่อไปยังโลกมนุษย์หรือโลกหลังความตายได้

ซู่เป่าซาบซึ้งใจ “ว้าว หนูนี่เก่งจริงๆ เลย!”

เรื่องแบบนี้ก็นึกออกด้วย

แถมยังเลี้ยงแมวไว้ฝูงหนึ่งด้วย!

ซืออี้หรันนึกว่าเธอหมายถึงว่าที่เธอสามารถหนีรอดจากผู้พิทักษ์โลกสีเทาได้แล้วก็เลยคิดว่าตัวเองเก่งมาก

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ตอนกลับไปฉันว่าพวกเราหาทางออกทางอื่นดีกว่านะ”

ไม่ว่ายังไงก็ตาม แมววิญญาณก็เป็นผู้พิทักษ์กฎ พวกมันคงไม่สามารถทนให้พวกมนุษย์เดินผ่านอาณาเขตของพวกมันหรอก

ซู่เป่ากลับรู้สึกดีใจ “ไม่ ตอนกลับพวกเราจะเดินผ่านอาณาเขตของพวกมันออกไป”

แถมยังต้องเดินผ่านไปผ่านมาด้วย

ต่อไปเส้นทางนี้ก็คือเส้นทางของเธอ!

ซืออี้หรัน “?”

ผีขี้ขลาดลุกขึ้นมาแล้วเอ่ย “พวกเราไปกันเถอะ! ดูท่าทางแล้วตูซื่อหวังน่าจะยังไม่รู้ ไม่เห็นตกใจอะไรเลย พวกเรารีบกลับกันเถอะ”

ซู่เป่าส่ายหัว “ในเมื่อไม่ได้ทำให้คนเลวตกใจ แล้วพวกเราจะรีบกลับเร็วขนาดนี้กันทำไมล่ะ?”

เธออ่อนแอเกินไปแล้ว

ทุกครั้งก็ต้องถูกตูซื่อหวังไล่ล่า

จากนั้นก็ได้ยินเสียงเธอถอนหายใจโล่งอก “ยังดี! ไม่ได้เย็นไปหมด! พี่อี้หรันพี่รีบกลับไปซะ!”

ผีขี้ขลาดเบะปากเอ่ย “ซู่เป่า เขาไม่ใช่วิญญาณ แต่เขาเป็นคน”

ซู่เป่าพยักหน้า “หนูรู้ แต่โลกหลังความตายไม่อนุญาตให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ลงมา รีบกลับไปดีกว่า!”

“ถ้ายังอยู่นานกว่านี้อีกก็จะเย็นแล้ว!”

ซืออี้หรัน “…”

เขาไม่มีทางเย็นหรอก!

“ฉันเป็นคนลงมาเอง” ซืออี้หรันตอบด้วยความนิ่งเงียบ “ฉันก็อยากแข็งแกร่งขึ้นเหมือนกัน”

คำพูดนี้ซู่เป่าฟังแล้วไม่เข้าใจ แม้แต่ผีขี้ขลาดและผีหลายใจที่ยังพอมีไอคิวอยู่ก็ยังไม่เข้าใจ

ผีดวงซวยสำรวจซืออี้หรันทั้งหัวจรดตัวก็รู้สึกประหลาดใจว่า “นายอยากแข็งแกร่งขึ้นแล้วทำไมไม่ไปฝึกในกองทัพของพ่อล่ะ มาที่นี่ทำไม?”

ผีชุดแต่งงานแดงก็เกลี้ยกล่อมว่า “ใช่ๆ เด็กน้อย ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ฝึก! ให้ข้าพาเจ้าขึ้นไปข้างบนเถิด?”

เด็กชายตัวเล็กๆ คนนี้นี่หน้าตาดีจริงๆ จนผีชุดแต่งงานแดงอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาปกป้องด้วย

ซืออี้หรันส่ายหัว “ฉันต้องการมาที่นี่”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันเป็นเหมือนซู่เป่า”

นี่มันเรื่องใหญ่มากมากจนบรรดาผีทั้งหลายถึงกับเบิกตากว้างกันเป็นแถว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน