ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 819

พวกซูอีเฉินไม่ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโรงพยาบาลแล้ว

ซู่เป่าจ้องประตูลิฟต์ ความคิดฟุ้งซ่าน

ทำไมความคิดของคนถึงดื้อดึงอย่างนี้ทุกทีเลยนะ!

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอค้นพบแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องอะไร มักมีคนยึดมั่นอยู่กับโลกของตัวเองเสมอ ยึดมั่นในความคิดของตัวเอง

ต่อให้เป็นคนที่มีเหตุผลก็จะปักใจคิดว่าเหตุผลของพวกเขาคือสิ่งที่ถูกต้อง พยายามเกลี้ยกล่อมคนอื่นในขอบเขตความคิดของตัวเอง

ราวกับทุกคนยอมรับความคิดเห็นที่ต่างจากตัวเองไม่ได้

ซู่เป่าถามใจตัวเอง เธอยอมรับความคิดเห็นที่ต่างจากตัวเองได้ไหม

คิดแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้เหมือนกัน

ในความคิดของลูก ๆ ตระกูลเฉิน พวกเขาปักใจเชื่อว่าตัวเองถูกต้อง ตัวเองถูกรังแก

ในความคิดของเธอก็คิดว่าลูก ๆ ตระกูลเฉินหาเรื่องด้วยเหมือนกัน...

ในทางกลับกัน ลูก ๆ ตระกูลเฉินไม่คิดว่าตัวเองหาเรื่อง และเธอก็ไม่คิดว่าครอบครัวของเธอรังแกคนอื่น...

ที่แท้ตัวเธอเองก็เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้เหมือนกัน การมองโลกคือต้องเปรียบเทียบ...

เพราะคิดมากจนเกินไป ซู่เป่าเบลอไปหมดแล้ว สะบัดหัวแรง ๆ

ไม่คิดแล้ว ๆ พ่อบอกว่าอย่าเอาแต่หมกมุ่น!

“คุณตา ซู่เป่าจะเข็นคุณตานะคะ!”

ตอนนี้ถึงโรงพยาบาลเอกชนแล้ว ซู่เป่ายื่นมือจับเตียงผู้ป่วยช่วยเข็นด้วย

ถึงเธอจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่คุณท่านซูเห็นเธออยู่ก็รู้สึกปลื้มแล้ว

ไม่มีใครรู้ รอบนี้เขาไปประตูผีมาแล้วรอบหนึ่งจริง ๆ

ที่นั่นเย็นยะเยือก...รอบ ๆ ไม่มีใครเลย โดดเดี่ยว กระวนกระวาย กลัว

ที่แท้หลานรักของเขาออกจากบ้านทีไรก็คือไปที่นั่นนั่นเอง...

คุณท่านซูรู้สึกทรมานใจ พอเห็นซู่เป่าอยู่ก็รู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อยตอนนี้ซู่เป่าก็ไม่ได้อยู่ข้างล่างในที่ที่เย็นเยือกนั้น...

คุณท่านซูพักอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งสัปดาห์ ด้วยการดูแลอย่างเอาใจใส่ของทีมผู้เชี่ยวชาญ เขาฟื้นฟูดีมาก ลุกขึ้นนั่งกินอาหารปกติได้แล้ว

หมอผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้อยู่ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากอายุมากแล้ว บาดแผลภายนอกจึงหายช้า

ถ้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจนหายดีค่อยออกโรงพยาบาลจะดีกว่า

ภายใต้ความช่วยเหลือของพ่อ ซู่เป่าหาคุณลุงตำรวจจราจรที่ทำเรื่องนี้เจอแล้ว

เขาชื่อเมิ่งเจิ้ง

ซู่เป่าจับผีรองรับอารมณ์ไปแล้ว แต่คราวนี้เธอไม่ได้จากไป แต่คอยสังเกตอยู่ข้างหลังเงียบ ๆ

ภายหลังลูก ๆ ตระกูลเฉินไปอาละวาดอีก ร้องเรียนว่าเขามีท่าทีที่ไม่ดี

ถึงเรื่องนี้จะมีภาพจากกล้องวงจรปิด พยาน (เจ้าของร้านขายดอกไม้) ความรับผิดชอบอุบัติเหตุในที่เกิดเหตุและรูปภาพเป็นหลักฐานให้เห็น แต่เพราะการร้องเรียนจากประชาชน ดังนั้นเมิ่งเจิ้งจึงถูกลงโทษอยู่ดี

รายงานอุบัติเหตุออกทางวีแชตของทางการ ช่องข่าวและสื่อข่าวต่าง ๆ บรรดาลูกตระกูลเฉินย่อมไม่ได้รับผลที่พวกเขาต้องการ แต่เพื่อยุติการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน เมิ่งเจิ้งจึงขอโทษบรรดาลูกตระกูลเฉินต่อหน้าสาธารณชน อธิบายว่าตัวเองมีประสบการณ์ทำคดีไม่มาก ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ไม่ได้จัดการอารมณ์ของทุกคนให้ดี...

“อาเมิ่ง” ซู่เป่าเห็นเมิ่งเจิ้งกำลังปฏิบัติงานอยู่ จึงถือน้ำเข้าไปหา

เขารู้สึกน้อยใจ ขายหน้า แต่ถ้ารถตำรวจถูกทุบ ที่ทุบคือศักดิ์ศรีของตำรวจจราจรนะ...

“หลาย ๆ ครั้งทำผิดกฎเรียกให้หยุด เจ้าของรถไม่ได้มีมารยาทเท่าไร คนส่วนมากที่ถูกโบกให้จอดมักจะโมโห โมโหมากยังจะถ่มน้ำลายใส่ฉันอีก ตะโกนว่าฉันทำร้ายคน”

เกิดสถานการณ์แบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน

แต่เขาจะทำยังไงได้ล่ะ ได้แต่อดทน

“รองรับอารมณ์มาก ๆ ส่วนมากก็ได้แต่อดทนเอาไว้ เพราะพวกเราจะลงมือกับประชาชนก็ไม่ได้”

เมิ่งเจิ้งลูบศีรษะของซู่เป่าด้วยความเมตตา “กลับไปเถอะ แดดแรงเกินไป ขอบใจนะที่ให้น้ำ”

ซู่เป่าอยากพูดอะไร แต่อย่างไรก็ไม่ได้พูดออกมา

เห็นเขากำลังยุ่งก็เลยได้แต่จากไป...

ซู่เป่าไปสังเกตการณ์ทางตระกูลเฉิน

เฉินซินเจี้ยนอยู่ที่โรงพยาบาลหนึ่งสัปดาห์แล้ว เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการนอนโรงพยาบาลสูง หนึ่งสัปดาห์ยังไม่หายดี ลูก ๆ ก็รับตัวเขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว

พอกลับถึงบ้าน ลูก ๆ สลับกันดูแลเขาสองสามวัน แต่เพราะทุกคนต้องทำงาน ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด สุดท้ายชายชราจึงอยู่บ้านตามลำพัง ลูกชายคนรองก่อนไปทำงานจะทำอาหารวางไว้ที่หัวเตียงของเขา พอไปก็คือทั้งวัน กลับมาชายชรากิน ดื่ม อึ ฉี่อยู่บนเตียง เหม็นสกปรกไปหมด

ชายชรานอนติดเตียงประจำ เขาไม่รู้ว่าความเวทนาในเวลานี้เกิดขึ้นได้ยังไงกันแน่ และไม่คิดว่าเป็นความผิดของตัวเองด้วย คิดเพียงทำไมบั้นปลายชีวิตของตัวเองจึงน่าเวทนาขนาดนี้...

ทำไมทั้งที่เป็นคนแก่เหมือนกัน แต่อีกฝ่ายกลับมีเงิน มีลูก ๆ ดูแลอย่างนั้น แล้วยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลอีก

เขากลับไม่มีใครดูแลเลยสักคนเดียว

ทำไมเขาถึงถูกชนจนเป็นอย่างนี้แล้ว อีกฝ่ายรวยขนาดนั้น กลับไม่ชดใช้ให้เขาสักหน่อยล่ะ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน