ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน นิยาย บท 818

ชายชรามุมปากขมุบขมิบ ทีแรกยังจะยืนกรานว่าพวกเขาชนเขา

คิดไม่ถึงว่าพออ้าปากก็พูดความจริงออกมา “ฉันชนเอง ฉันขี่มอเตอร์ไซค์เร็วเกินไป...”

“ตอน...ตอนที่ฉันชนคน ก็มันแก่แล้วนี่ ความรู้สึกช้า ก็เลยชนไปตรง ๆ นี่แหละ...”

พอพูดออกมา ลูก ๆ ของชายชราก็เดือดกันทันที!

ลูกสาวคนโตสะดุ้งโหยง พูดด้วยความโกรธ “พ่อ พ่อพูดเพ้อเจ้ออะไร!”

ลูกชายคนโตก็จุกอกด้วยเหมือนกัน “พ่ออย่ากลัวพวกเขาสิ เขาหลอกล่อพ่อก็พูดไปซะได้!”

ลูกชายคนรอง หรือก็คือผู้ชายที่ใส่เสื้อยืดสีดำที่อยู่ในโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนแรกร้อนใจพูด “พ่อ สมองยังเบลออยู่หรือยังไง พวกเขาจอดรถไว้ข้างทาง ใช่ความผิดพ่อที่ไหน”

บรรดาลูก ๆ คนนั้นพูดที คนนี้พูดที ต่างตำหนิชายชราที่พูดไปเรื่อย

ชายชราอ้าปาก อยากพูดอะไรแต่สุดท้ายก็เงียบ

ท่ามกลางการตำหนิของพวกลูก เขาทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งที่เป็นคนป่วยเพิ่งผ่าตัดออกมา กลับได้แต่ปากสั่นยอมให้ลูก ๆ ตำหนิ

ไร้ความช่วยเหลือ น่าสงสาร

ซู่เป่ามองภาพนี้แบบอึ้ง ๆ จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันถูกต้องแล้วจริงหรือ

ใช้ยันต์พูดความจริงกับชายชรา ทำให้เขาพูดความจริงก็จริงอยู่

แต่เพราะพูดความจริงจึงถูกลูก ๆ ตำหนิ เท่ากับเธอทำให้ชายชราถูกลูก ๆ ตำหนิ

ที่แท้เธอคิดว่าตัวเองทำเรื่องที่มีคุณธรรมถูกต้อง แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่ว่าจะมีคุณธรรมถูกต้องเสมอไป

มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าขึ้นมาอย่างทันท่วงที แล้วพูดว่า “พ่อรู้ว่าหนูกำลังคิดอะไร”

ซู่เป่ามีนิสัยใจอ่อน เห็นคนหรือเรื่องที่น่าสงสารจะตำหนิตัวเองง่าย ๆ

“แต่ทำก็ทำแล้ว ไม่ต้องหันกลับไปมอง”

“บางครั้งไม่ต้องคิดมากเกินไป ตัวเองผิดหรือถูก ไม่ต้องจริงจังมาก!”

“และไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นจะคิดว่าหนูเป็นยังไง หนูแค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ”

ใจดีมากเกินไปจะถูกเรียกว่าแม่พระได้ง่าย กลับกัน จะถูกคนพูดว่ากำเริบเสิบสาน

ไม่มีใครทำให้คนอื่นพอใจไปหมดทุกอย่าง เห็นด้วยหมด ชอบหมดได้

ดังนั้นไม่ต้องไปคิดมันเลย

ทำแล้วก็คือทำแล้ว! จะทำไม!

ไม่ผิดต่อมโนธรรมตัวเองก็พอ!

มู่กุยฝานอุ้มซู่เป่าออกไปเป็นคนแรก

ทีมผู้เชี่ยวชาญที่ซูอีเฉินเชิญมามาถึงแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลที่สวมชุดคลุมสีขาวและชุดพยาบาลเข้ามา เข็นรถขนย้ายมาคันหนึ่ง ก็ไม่รู้ว่าเป็นรถอะไร ดูท่าทางมีระดับมาก

สองวินาทีก็เปลี่ยนเตียงผู้ป่วยเสร็จและเข็นออกไปแล้ว

คนตระกูลซูย่อมไม่อยู่ฟังบรรดาลูกตระกูลเฉินโวยวายอีก แพล็บเดียวก็ออกไปกันหมด

พอลูก ๆ ตระกูลเฉินเห็นคนตระกูลซูจะออกไปก็เดินมาหาทันที ขวางอยู่หน้าประตูไม่ให้พวกเขาไป

ตำรวจจราจรและตำรวจก็ไม่สนใจ ‘ผู้เคราะห์ร้าย’ จากไปเลย แล้วยังทิ้ง ‘คำพูดแรง ๆ ’ อีกว่า ทำงานชัดเจนไม่ผิดต่อมโนธรรม ยอมรับไม่ได้ก็ไปร้องเรียนพวกเขาแล้วกัน!

“พี่ชายฉันก็เหมือนกัน...เดือนที่แล้ว...”

ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์

ลูก ๆ ตระกูลเฉินกัดเขี้ยวเคี้ยวฟันมองทางลิฟต์

เธอดูสิคนบ้านนี้รวยขนาดไหน ยังเชิญทีมผู้เชี่ยวชาญมากด้วย สิบคนแน่ะ!

ทรัพยากรสังคมถูกพวกเขาเอาไปหมด

ความยุติธรรมก็เอาพวกเขาว่าทั้งนั้น

สวรรค์ พระเจ้า! สังคมนี้ยังมีความยุติธรรมอยู่อีกไหม...

ลูกสาวคนโตตระกูลเฉินปาดน้ำตา สะอึกสะอื้นพูด “คนรวยส่วนมากก็เลวกันทั้งนั้นแหละ ไม่เลวไม่รวย มีแต่คนซื่อที่ทำงานงก ๆ ทั้งชาติก็ไม่รวย เป็นเพราะไอ้คนที่มีทุนพวกนี้นี่แหละ...สงสารแต่พ่อของพวกเราที่ถูกชนจนเป็นแบบนี้ จะฟ้องร้องก็ไม่มีช่องทาง...”

ลูกชายคนโตตระกูลเฉินหน้านิ่วคิ้วขมวด ชายชรากะโหลกแตก ครั้งนี้กระแทกถูก ต่อไปนอนโรงพยาบาล ดูแลรักษาพยาบาลอะไรต้องใช้เงินก้อนโต

พวกเขาจะทำยังไง

ทำไมคนบ้านนี้ถึงเลวอย่างนี้ ทำไมคนที่เป็นข้าราชการถึงไม่ทวงความเป็นธรรมให้พวกเขา

ถ้าต้องไปฟ้องร้องจริง ๆ พวกเขาไม่มีเส้นสาย ยังไม่ต้องถูกพวกเขารังแกเหรอ

เฉินซินเจี้ยนนอนอยู่บนเตียงด้วยความโดดเดี่ยวและกระวนกระวายใจ มองเพดานอย่างเหม่อลอย มือที่ใส่น้ำเกลือสั่นไม่หยุดยังไม่มีใครเห็น

เขาไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี เขาแก่แล้ว ปกติทำงานในเขตก่อนสร้างยังรู้สึกหืดขึ้นคอ

ต่อไปคงทำงานไม่ได้อีกแน่ ถ้าออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านนอนติดเตียงแล้วใครจะดูแลเขา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชีวิตใหม่ของเจ้าแก้มก้อน